คำถามนี้ “ดี” พี่ตอบให้: e-Signature VS Digital Signature มันคืออะไร? ต้องใช้อันไหนดี??

Loading

  1. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) กับ ลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) คืออะไร ? ตอบ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) เป็นชุดข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ตัวเลข ตัวอักษร สัญลักษณ์ เสียง ที่ใช้ระบุตัวเจ้าของลายมือชื่อที่เกี่ยวข้องกับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) เพื่อแส่ดงว่า บุคคลดังกล่าวยอมรับข้อความในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ส่วน ลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) คือ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบหนึ่งที่ได้จากกระบวนการเข้ารหัสลับของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยให้สามารถยืนยันตัวเจ้าของและสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของข้อความและลายมือชื่อได้     2. e-Signature หรือ Digital Signature แบบไหนถึงจะมีผลทางกฎหมาย ? ตอบ มีผลทางกฎหมายทั้งคู่ และมีผลเช่นเดียวกับการเซ็นบนกระดาษ     3. ทำไมต้องใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ แทนการเซ็นบนกระดาษ ? ตอบ เพราะมีความสะดวกรวดเร็ว ลดการใช้กระดาษ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บเอกสาร ประหยัดค่าส่งเอกสาร มีผลทางกฎหมายเหมือนการเซ็นบนกระดาษ และยังลดการสัมผัส…

วุฒิสภาสหรัฐฯ ชี้ปัญหาด้านความปลอดภัย-งานข่าวกรอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภา 6 ม.ค.

Loading

  คณะกรรมาธิการวุฒิสภา 2 ชุดร่วมกันออกรายงานที่แสดงให้เห็นถึง “ความล้มเหลวด้านงานรักษาความปลอดภัยและงานข่าวกรองจำนวนหนึ่ง” ที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและระหว่างการก่อการจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา รายงานร่วมดังกล่าวที่ได้รับการเปิดเผยออกมาในวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่า “วันที่ 6 มกราคม ปี ค.ศ. 2021 นั้นไม่เพียงแต่เป็นวันที่จะถูกจดจำว่าเป็นวันเกิดเหตุโจมตีระบอบประชาธิปไตย แต่ยังชี้ให้เห็นว่า องค์กรที่รับผิดชอบด้านการรักษาความปลอดภัยและการปกป้องอาคารรัฐสภาและทุกคนที่อยู่ในพื้นที่นั้น ไม่ได้มีการเตรียมตัวรับมือกับการโจมตีขนานใหญ่ แม้จะมีความตระหนักดีเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุรุนแรงที่พุ่งเป้ามายังอาคารรัฐสภาแล้วก็ตาม” คณะกรรมาธิการด้านกฎและด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของวุฒิสภาร่วมกันทำการสอบสวนเหตุจลาจลตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเชิญผู้รับผิดชอบดูแลหน่วยงานตำรวจประจำรัฐสภาและหน่วยงานรักษากฎหมายอื่นๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งอดีตและปัจจุบันของกระทรวงกลาโหมและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เข้าให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และยังตรวจสอบเอกสารหลายพันชุด ประกอบเอกสารคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาอีก 50 นายด้วย รายงานดังกล่าวสรุปว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดในวันที่ 6 มกราคมนั้น คือ ความล้มเหลวของงานด้านข่าวกรอง ที่ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ ประเมินและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุรุนแรงและภัยคุกคามต่อรัฐสภารวมทั้งสมาชิกทั้งหลายที่อยู่ในอาคารในวันดังกล่าวให้กับหน่วยงานรักษากฎหมาย     คณะกรรมาธิการทั้งสองยังชี้ด้วยว่า ความล้มเหลวที่กล่าวมานั้นรวมความถึง การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) หรือกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ทำการประเมินภัยคุกคามใดๆ แม้จะมีเสียงเรียกร้องผ่านช่องทางออนไลน์ให้มีการก่อเหตุความรุนแรงที่อาคารรัฐสภามาสักระยะแล้ว รวมทั้งหน่วยงานด้านข่าวกรองของทีมตำรวจประจำรัฐสภาไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับภัยคุกคามรุนแรงให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เลย นอกจากประเด็นความล้มเหลวแล้ว คณะกรรมาธิการทั้งสองยังตำหนิทีมงานรักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภาที่ไม่ยอมร้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังสำรองของรัฐ ล่วงหน้าก่อนวันที่ 6…

ออสเตรเลียสั่งปิดสถานทูตในคาบูลกะทันหัน อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย

Loading

  เอเอฟพี – แคนเบอร์รา เมื่อ 25 พ.ค. สั่งปิดสถานทูตออสเตรเลียในกรุงคาบูลอย่างกระทันหันในสัปดาห์นี้ โดยให้เหตุผลวิตกต่อสถานการณ์ไม่แน่นอนในอัฟกานิสถานท่ามกลางการแห่ถอนกำลังกองกำลังต่างชาติกลับประเทศ เอเอฟพีรายงานเมื่อ 25 พ.ค. ว่า กลุ่มติดอาวุธตอลีบานที่เพิ่มการโจมตีทั่วประเทศในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาออกมาแสดงปฎิกริยาโดยชี้ว่า จะให้ความปลอดภัยทางสิ่งแวดล้อมให้กับเหล่านักการทูตและองค์กรด้านการบรรเทาทุกข์ต่างๆ สหรัฐฯและกองกำลังพันธมิตรกำลังอยู่ในเฟสสุดท้ายของการถอนกำลังที่เหลือออกไปจากอัฟกานิสถาน สิ้นสุดการสู้รบที่ยาวนานที่สุดของสหรัฐฯ แต่ทำให้อัฟกานิสถานต้องตกอยู่ในอนาคตที่ไม่แน่นอนภายใต้อุ้งมือของกลุ่มตอลีบาน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสสัน กล่าวว่าสถานทูตออสเตรเลียจะปิดทำการเป็นเวลา 3 วัน และพบว่ามีกองกำลังออสเตรเลียราว 80 นายจะเดินทางกลับประเทศซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการถอนกำลังออสเตรเลียกลับประเทศ โดยที่ไม่มีกองกำลังเล็กๆหลงเหลือหรือการสนับสนุนจากกองกำลังสหรัฐฯที่มีจำนวนมากกว่า มอร์ริสสันกล่าวว่า ไม่มีความแน่นอนเพิ่มมากขึ้นต่อสถานการณ์ความมั่นคงภายในอัฟกานิสถานหลังจากนี้ “รัฐบาลได้รับคำแนะนำว่าจะไม่สามารถให้หลักประกันทางความมั่นคงต่อเจ้าหน้าที่การทูตของเราที่ยังคงทำงานอยู่ที่นั่น” เขากล่าวผ่านแถลงการณ์ ในยังนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงเหตุภัยคุกคามเจาะจงต่อสถานทูตออสเตรเลียที่ตั้งอยู่ในเขตกรีนโซนที่มีความมั่นคงสูงซึ่งไม่ห่างจากที่ตั้งสถานทูตสหรัฐฯเท่าใดนัก ด้านกระทรวงต่างประเทศอัฟกานิสถานกล่าวผ่านแถลงการณ์ หวังว่าทางออสเตรเลียจะเปลี่ยนการตัดสินใจขณะที่ลูกจ้างสถานทูตออสเตรเลียซึ่งเป็นชาวอัฟกันได้แสดงความรู้สึกหวาดวิตกต่อสถานการณ์ไม่มั่นคงในอนาคตของตนเอง หนึ่งในลูกจ้างชาวอัฟกันแสดงความเห็นต่อเอเอฟพีว่า “ผมได้เอาชีวิตเข้าปกป้องสถานทูต…และในเวลานี้พวกเขากำลังจากพวกเราไป พวกตาลีบานมีชื่อพวกเรา พวกเราอยู่ในความกลัวเวลานี้” ขณะเดียวกันกลุ่มติดอาวุธตอลีบานออกแถลงการณ์ 25 พ.ค.แจ้งไปยังสถานการทูตต่างชาติสามารถปฎิบัติงานได้ตามปกติโดยให้หลักประกันด้านความปลอดภัยมีใจความว่า “(พวกเรา)ไม่แสดงความเป็นภัยต่อพวกเขา” โฆษกโมฮัมหมัด นาอีม(Mohammad Naeem)กล่าวกับเอเอฟพี เอเอฟพีรายงานว่า นักการทูตชาติตะวันตกและเจ้าหน้าที่การทหารในเวลานี้ต่างพยายามหาหนทางที่จะให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตพลเรือนอัฟกานิสถานในอนาคตด้วยความวิตกต่อกลุ่มติดอาวุธตอลีบาน ทั้งนี้แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่การทหารต่างชาติในกรุงคาบูลเปิดเผยว่า สถานทูตต่างชาติที่ยังคงเปิดทำการอยู่ในเวลานี้เกี่ยวข้องกับการบรรเทาทุกข์ แต่หากว่าทางเจ้าหน้าที่เป็นอันตรายก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะคงอยู่ต่อไป   ————————————————————————————————————————————- ที่มา :…

ถอดรหัสเหตุร้ายในห้างสรรพสินค้า แรงจูงใจ 3 ด้านอาชญากร

Loading

    เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนจู่โจมก่อเหตุ “ชิงทรัพย์ธนาคาร หรือร้านทอง” ในสถานที่ที่คนพลุกพล่านตาม “ห้างสรรพสินค้า” เริ่มเกิดถี่มากยิ่งขึ้นใน “ยุคเศรษฐกิจตกต่ำ” จากผลกระทบโรคระบาดโควิด-19 ที่มีโอกาสนำสู่เกิดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินได้อยู่เสมอ ทำให้ประชาชนต่างรู้สึก “ไม่ปลอดภัย” อย่างเคยเกิดขึ้นมาแล้วใน “เหตุคนร้ายจี้ชิงทอง ในห้างฯดัง จ.ลพบุรี” กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่อาจไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้ายก็ได้ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต บอกว่า     ทุกคนมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามอันเป็นอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินแบบคาดไม่ถึงได้ทุกที่ทุกเวลา “คนร้าย” มีโอกาสก่อเหตุร้ายแรงได้เสมอ นับแต่ปี 1990 มีการขยายตัวของสังคมเมืองมากขึ้น มีผลให้เหตุอาชญากรรมเพิ่มตามมาด้วย ทั้งคดีฆ่าผู้อื่น หรือคดีพยายามฆ่า ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา…นักอาชญาวิทยามีการศึกษาเกี่ยวกับคดีฆ่าผู้อื่น ที่มีจุดเริ่มต้นของการก่ออาชญากรรมนี้เกิดจากจุดเล็กน้อยของความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ตั้งแต่การขีดเขียนบนฝาผนังทั่วไป การทิ้งขยะเรี่ยราดไม่เป็นที่เป็นทาง ไม่ว่าจะเป็นที่สวนสาธารณะ ถนนที่ทำงาน โรงเรียน ที่เรียกว่า…“ทฤษฎีหน้าต่างแตก” (Broken windows) ซึ่งเป็นทฤษฎีทางอาชญาวิทยาของการสร้างมาตรฐาน ในการเปรียบเทียบจุดเริ่มต้นของ “การก่อเหตุอาชญากรรม” เสมือนกับ “หน้าต่างร้าว” เมื่อปล่อยไม่ซ่อมแซมแก้ไข ทำให้หน้าต่างบานนี้แตกได้…

อึ้ง เผยทหารหน่วยรบพิเศษ SAS กำลังฝึกซ้อมต่อสู้ เอเลี่ยน อาจบุกโลก

Loading

  สื่ออังกฤษเผยทหารหน่วยรบพิเศษ SAS ประมาณ 20 นาย กำลังฝึกซ้อมต่อสู้กับภัยคุกคามทุกอย่าง ทั้งก่อการร้าย อาวุธชีวภาพ ไปจนถึงมนุษย์ต่างดาวที่อาจบุกโลก เมื่อ 11 มกราคม 2564 เว็บไซต์เดลี่สตาร์ รายงานอ้างแหล่งข่าว ถึงเหตุการณ์ที่ชาวโลกส่วนใหญ่คงไม่อาจรู้ว่าขณะนี้ทหารหน่วยรบพิเศษ SAS ชั้นหัวกะทิของอังกฤษ ประมาณ 20 นายกำลังมีการฝึกซ้อมทักษะการต่อสู้โดยไม่ใช้อาวุธร้ายแรงกับภัยคุกคามที่มีศักยภาพหลากหลาย ซึ่งรวมทั้งความเป็นไปได้ที่ เอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาวอาจบุกโลกมนุษย์ของเราด้วย แหล่งข่าวเผยกับเดลี่สตาร์ว่า หน่วยรบทหารพิเศษชั้นหัวกะทิของอังกฤษกำลังเตรียมตัวฝึกซ้อมรับมือกับภัยคุกคามทุกอย่างและทุกเรื่อง รวมถึงภัยจากการก่อการร้าย ภัยจากอาวุธชีวภาพปลิดชีวิตมนุษย์ ไปจนถึงภัยจากมนุษย์ต่างดาวที่มาจากดาวดวงอื่น     ‘ผมรู้ว่ามันฟังดูแล้วเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก แต่ขณะนี้ หน่วย SAS กำลังฝึกซ้อมรับมือในทุกภัยคุกคาม ทหารหน่วยรบ SAS นี้สามารถใช้อาวุธไม่ร้ายแรง อย่างสเปรย์ ในการป้องกันไม่ให้ศัตรูเคลื่อนไหว’ แหล่งข่าวเผย พร้อมกับเข้าใจว่าทหารหน่วยรบพิเศษอังกฤษนี้ได้ฝึกซ้อมทักษะการสู้รบครั้งนี้ ร่วมกับทหารจากหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ ส่วนแหล่งข่าวอีกคนหนึ่งยังพูดเสริมด้วยว่า คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น แม้แต่ไอน์สไตน์ ยังเคยกล่าวว่า ทำไมโลกถึงจะเป็นแค่ดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีมนุษย์อาศัยอยู่? และถ้าคุณเชื่อในเรื่องว่ามีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่น คุณต้องยอมรับว่าสักวันเอเลี่ยนอาจมายังโลกในฐานะภัยต่อมนุษย์อย่างหนึ่ง   —————————————————————————————————————————- ที่มา…

สหรัฐฯ เดินหน้าสอบสวนผู้บุกรุกอาคารรัฐสภา

Loading

  เมื่อวันพฤหัสบดี หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ประกาศเริ่มสืบสวนเหตุการณ์บุกอาคารรัฐสภาของกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธ โดยมีเจ้าหน้าที่สืบสวนหลายร้อยคนเข้าร่วมระบุอัตลักษณ์และจับกุมผู้กระทำผิด ไมเคิล เชอร์วิน รักษาการอัยการสหรัฐฯ ประจำกรุงวอชิงตัน ระบุว่า มีบุคคล 15 คนถูกจับกุมตามหมายศาลรัฐบาลกลาง เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจลาจล และมีบุกคนอีก 40 คนถูกจับตามหมายศาลของศาลสูงกรุงวอชิงตัน โดยส่วนใหญ่ถูกจับเนื่องจากเดินทางเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตามกฎหมายรัฐบาลกลางที่ถูกใช้ดำเนินคดีทั้งนี้ มีข้อหาลักทรัพย์สินของรัฐบาล และข้อหาละเมิดกฎหมายปืน ชายคนหนึ่งถูกจับกุมบริเวณใกล้อาคารรัฐสภาด้วยข้อหาพกพาอาวุธจู่โจมกึ่งอัตโนมัติและระเบิดขวด 11 ขวดที่เชอร์วินระบุว่า “พร้อมใช้งาน”       เหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตห้าคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน เชอร์วินกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งอาจกินเวลาอีกหลายเดือน เนื่องจากตำรวจประจำอาคารรัฐสภาปล่อยให้ผู้บุกรุกหลายร้อยคนออกจากอาคารไปได้ เขายังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนหลายร้อยคนกำลังรวบรวมข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์เพื่อระบุอัตลักษณ์ของผู้กระทำผิด โดยจะเร่งสืบสวนและดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เจฟฟรีย์ โรเซน รักษาการรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมรับรองว่าผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการ “โจมตีรัฐบาลและหลักนิติธรรม” จะต้องพบกับผลที่ตามมาอย่างเต็มรูปแบบภายใต้กฎหมาย “อัยการฝ่ายคดีอาญาของเราทำงานตลอดทั้งคืนกับเจ้าหน้าที่พิเศษและเจ้าหน้าที่สืบสวนจากตำรวจประจำอาคารรัฐสภา สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ สำนักงานแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาวุธปืน และอาวุธระเบิด สำนักงานตำรวจเมือง รวมถึงกับภาคสาธารณะ…