ฟิลิปปินส์ปิดโรงเรียน-หน่วยงานราชการรับมือภูเขาไฟปะทุ

Loading

รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ขณะนี้ฟิลิปปินส์กำลังเผชิญความเสี่ยงจากอันตรายร้ายแรงของภูเขาไฟตาอัล ที่กำลังปะทุและพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่งผลให้พื้นที่ตอนใต้ของกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ถูกปกคลุมด้วยเถ้าถ่านสูงถึง 65 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ได้สั่งให้โรงเรียนและหน่วยงานของรัฐบาลที่อยู่บริเวณใกล้เคียงภูเขาไฟตาอัล ปิดการเรียนการสอนและการดำเนินงาน และได้สั่งอพยพประชาชนจำนวนหลายพันคนออกจากพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า อาจจะมีประชาชนจำนวนมากถึง 200,000 คนที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย นายโจเวเนอร์ ดูพิลาส เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลข่าวสารของสำนักงานป้องกันพลเรือนกล่าวว่า จำนวนผู้อพยพคาดว่าจะสูงถึง 200,000 คน พร้อมระบุว่า ทีมงานของเขาเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย เนื่องจากภูเขาไฟตาอัลพ่นเถ้าถ่านหนาทึบ ส่วนเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย สถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาของฟิลิปปินส์ ยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ หลังจากภูเขาไฟตาอัลปะทุพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นระยะทางถึง 15 กิโลเมตร นอกจากนี้ ทางสถาบันฯยังได้เตือนให้ชุมชนที่อยู่โดยรอบแนวชายฝั่งทะเลสาบตาอัล ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาออกไปทางใต้ราว 90 กิโลเมตร พร้อมทั้งเฝ้าระวังเหตุด่วนเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ โดยภูเขาไฟได้พ่นเถ้าถ่านพร้อมด้วยเศษหินออกมา และเตือนว่า ภูเขาไฟอาจพ่นเถ้าเปียกไปไกลถึงเกซอนซิตี้ในเขตมหานครมะนิลา ขณะที่การท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน ของกรุงมะนิลาแล้ว ทั้งขาเข้าและขาออก และแนะนำให้ผู้โดยสารติดต่อประสานงานกับทางสายการบินเพื่อรับทราบสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับเที่ยวบินของตนเอง ทั้งนี้ ภูเขาไฟตาอัลเป็นแห่งท่องเที่ยวยอดนิยมของฟิลิปปินส์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และภูเขาไฟที่ทรงพลังเป็นอันดับสองในฟิลิปปินส์ ———————————————…

ตัดไฟแต่ต้นลม คณะกรรมการโอลิมปิกสากลออกกฎห้ามนักกีฬาแสดงออกทางการเมืองในสนาม

Loading

เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ออกข้อบังคับในกฎบัตรโอลิมปิก ให้หลีกเลี่ยงการแสดงออกเพื่อประท้วงทางการเมือง เพื่อนำมาใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 2020 ที่จะจัดในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม นี้ โดยเนื้อหาของข้อบังคับที่มีความยาว 3 หน้ากระดาษระบุว่า ห้ามนักกีฬาที่มาร่วมการแข่งขันคุกเข่าประท้วง แสดงสัญลักษณ์มือที่ส่อความหมายไปในทางการเมือง หรือสวมเครื่องแต่งกายหรือปลอกแขนที่มีสัญลักษณ์การเมืองในสนามแข่งขัน บนสแตนด์เชียร์ และในหมู่บ้านนักกีฬา รวมถึงการแสดงออกในพิธีมอบเหรียญด้วย อย่างไรก็ตาม นักกีฬาสามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในโซเชียลมีเดียของตัวเองหรือในสื่อทางการได้ โดยสามารถให้สัมภาษณ์สื่อได้ ซึ่งรวมถึงในงานแถลงข่าว และในพื้นที่ที่นักกีฬาพบปะกับสื่อมวลชนหลังการแข่งขัน ข้อบังคับนี้ ยังบอกด้วยว่า “ไม่อนุญาตให้มีการประท้วง การโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ศาสนา และเชื้อชาติ ในพื้นที่จัดแข่งขันโอลิมปิก พื้นที่ที่ทุกคนมารวมตัวกัน และพื้นที่อื่นๆ” โดยนักกีฬาที่ฝ่าฝืนกฎดังกล่าวในโอลิมปิกครั้งนี้จะได้รับบทลงโทษจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล โดยจะประเมินและพิจารณาโทษเป็นกรณีๆ ไป โธมัส แบช ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลกล่าวว่า ภารกิจของโอลิมปิกก็เพื่อรวมให้เป็นหนึ่งและไม่แบ่งแยก เราเป็นงานเดียวในโลกที่รวมทั่วโลกเข้าด้วยกันในการแข่งขันอย่างสันติ “ผมขอให้พวกเขา (นักการเมืองและนักกีฬา) เคารพภารกิจของการแข่งขันโอลิมปิก…

สถานทูตออกประกาศเตือนคนไทยใน ‘อิสราเอล’

Loading

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลออกประกาศเตือนคนไทยให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ออกประกาศ เรื่อง การเพิ่มความระมัดระวังของคนไทยในอิสราเอล ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอความร่วมมือทุกท่านให้ติดตามข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หลีกเลียงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยง รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นของท่าน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้ทราบเป็นระยะ ๆ รวมทั้งแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อไป ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จากเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตฯ www.thaiembassy.org/telaviv และ Facebook Page “ทุกเรื่องเมืองยิว” www.facebook.com/thaiembassytelaviv/ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถาม ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 054-636-8650 หรือ 054-550-1141 จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน —————————————– ที่มา : The bangkok insight / 8 มกราคม 2563 Link : https://www.thebangkokinsight.com/269184/

ไทยหนีไม่พ้น เราจะต้องระวังอะไรจากความขัดแย้งอิหร่าน-สหรัฐ

Loading

บทวิเคราะห์โดย กรกิจ ดิษฐาน อิหร่านหักปากกาเซียนด้วยการโจมตีสหรัฐแบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่วิธียืมมือกลุ่มติดอาวุธที่ตัวเองสนับสนุนอย่างที่บางคนคาดการณ์ไว้ การโจมตีด้วยขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐในอิรัก คือการทำสงครามแบบ Conventional warfare หรือ “สงครามในรูปแบบ” นั่นคือการรบโดยใช้อาวุธโจมตีกันไปมา ไม่ว่าจะเป็นอาวุธแบบมาตรฐาน เช่นจรวดหรือแบบล้ำสมัยเช่นโดรน บรรดาเซียนการเมืองเชื่อว่าอิหร่านอาจจะรบแบบ Unconventional warfare หรือสงครามนอกระบบ โดยเฉพาะการใช้ตัวแทนรบกับสหรัฐ (Proxy war) ด้วยการบ่อนทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐเป็นจุดๆ ไป อย่างที่สหรัฐเรียกว่า “การก่อการร้าย” อิหร่านควรใช้วิธีนี้เพราะมีแสนยานุภาพด้อยกว่าสหรัฐแต่มี “บริวาร” ที่เป็นเครือข่ายติดอาวุธที่ทำงานครอบคลุมไปทั่วโลก เช่น ฮิซบุลลอฮ์ แต่อย่างที่เราทราบ อิหร่านเลือกที่จะปะทะตรงๆ ทั้งๆ ที่แสนยานุภาพของอิหร่านเมื่อเทียบกับสหรัฐแล้วเหมือนหนูกับช้าง นั่นแสดงว่าอิหร่านกำลังเลือดเข้าตา และเห็นแก่ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามมากกว่าจะมองความเป็นจริงในการรบ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าอิหร่านจะไม่รบนอกแบบ และใช้ตัวแทนรบกับสหรัฐ Quds Force ของอิหร่านซึ่งผู้บัญชาการเพิ่งจะถูกสังหารไป มีสายสัมพันธ์กับกองกำลังติดอาวุธหลายกลุ่มในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ (Hezbollah) จากการรายงานของ Institute for Near East Policy ในกรุงวอชิงตัน ในระยะหลังทั้งสองกลุ่มนี้ทำงานร่วมกันเพื่อโจมตีเป้าหมายสหรัฐ อิสราเอล และประเทศตะวันตก…

เปิดภาพวงจรปิด “บิ๊กนิสสัน” หนีจากญี่ปุ่น จ้างหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ คุ้มครอง

Loading

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นเส้นทางการหลบหนีของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานนิสสัน มอเตอร์ โดยใช้เวลาวางแผนนานกว่า 3 เดือน มีหน่วยรบพิเศษ “กรีน แบเรต์” ของสหรัฐฯ ช่วยดำเนินการ ฝ่ายสืบสวนของญี่ปุ่นแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดจำนวนมาก เผยเส้นทางการหลบหนีออกจากประเทศญี่ปุ่นของนายคาร์ลอส กอส์น ซึ่งขณะนี้อยู่ที่เลบานอน และเตรียมเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีของเขาในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) ราว 14.30 น.ของวันที่ 29 ธันวาคม นายกอส์นออกจากบ้านพักของตัวเองในกรุงโตเกียว ไปพบกับชาย 2 คนซึ่งน่าจะเป็นชาวสหรัฐฯ ที่ให้ความช่วยเหลือที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ห่างออกไปประมาณ 800 เมตรจากบ้านพักของเขา จากนั้นทั้ง 3 คนได้ขึ้นรถไฟหัวกระสุนชิงกันเซ็น จากสถานีชินางาวะในกรุงโตเกียว และเดินทางถึงสถานีชินโอซากา ก่อนเวลา 19.30 น. หลังเวลา 20.00 น. ทั้ง 3 คนเดินทางถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ 2 ชั่วโมงต่อมา ชาวสหรัฐฯ ทั้ง 2 คนได้ออกจากโรงแรม พร้อมด้วยกล่องขนาดใหญ่ 2 กล่อง…

เกาหลีใต้เตรียมติดตั้งกล้อง AI ตรวจจับอาชญากรรมในกรุงโซล

Loading

เขต Seocho ทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับสถาบันวิจัยอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม (ERTI) ประกาศเตรียมติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ใช้ซอฟต์แวร์ AI ในการประมวลผลตำแหน่ง เวลา และรูปแบบพฤติกรรมของผู้ที่เดินผ่าน เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุอาชญากรรม จำนวน 3,000 ตัวในเดือนกรกฎาคม 2020 กล้องวงจรปิดดังกล่าวจะทำการตรวจสอบบุคคลที่เดินผ่านว่าเป็นการเดินตามปกติหรือกำลังติดตามคนอื่นอยู่โดยอัตโนมัติ รวมไปถึงตรวจจับอุปกรณ์สวมใส่ เช่น หมวก หน้ากาก แว่นตา และของที่บุคคลนั้นๆ ถืออยู่ว่าเป็นวัตถุอันตรายหรือไม่ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลรวมกันและหาความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุอาชญากรรมขึ้น ถ้าความเป็นไปได้สูงเกินกว่าที่กำหนด กล้องจะแจ้งเตือนไปยังสำนักงานเขตและสถานีตำรวจใกล้เคียงเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสถานที่ที่กล้องตั้งอยู่ทันที นอกจากนี้ เขต Seocho และ ETRI ยังวางแผนที่จะวิเคราะห์เอกสารคำพิพากษาของศาลกว่า 20,000 ฉบับและวิดีโอการก่อเหตุอาชญากรรมเพื่อลดปริมาณรูปแบบที่ซอฟต์แวร์ AI จำเป็นต้องจำลงอีกด้วย ที่สำคัญคือสามารถนำภาพวิดีโอที่ตรวจจับได้ ณ ปัจจุบันเปรียบเทียบกับวิดีโอในอดีตเพื่อยืนยันรูปแบบการก่ออาชญากรรมได้ ซอฟต์แวร์ AI นี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2022 ซึ่ง ETRI วางแผนที่จะขยายการติดตั้งไปยังเขตอื่นๆ ทั่วกรุงโซลในอนาคต ——————————————— ที่มา : Techtalk Thai / 3…