โจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์ ทะลวงทุกระบบไปขนเพชรมหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้

Loading

โฉมหน้าลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล วัย 51 ปีหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ฉากหลังเป็น Diamond Center ใน Antwerp ประเทศเบลเยียม เมื่อ 18 ก.พ. 2013 หลังเกิดเหตุโจรกรรมเพชร (ภาพจาก STRINGER / BELGA / WIM HENDRIX / AFP) ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์การโจรกรรมเพชรที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกจนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้” “แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์” (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัยซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมนีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัยซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย…

อ่วม!!หนุ่มจีนถูกปรับ5แสน โยนเหรียญใส่เครื่องยนต์เครื่องบินขอพรเดินทางปลอดภัย

Loading

เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ – ชายวัย 28 ปีรายหนึ่งจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ถูกศาลสั่งจ่ายเงินชดเชย 120,000 หยวน(ราว510,000บาท) เป็นค่าเสียหายแก่ ลัคกีแอร์ สายการบินต้นทุนต่ำ ต่อกรณีที่เขาปาเหรียญเข้าใส่เครื่องยนต์เครื่องบิน อธิษฐานขอให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยเมื่อปีที่แล้ว ศาลแขวงอี้ซิวในเมืองอันชิ่ง มณฑลอานฮุย มีคำพิพากษาในคดีนี้ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว แต่รายละเอียดของคำตัดสินเพิ่งมีการเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้ หลังจากศาลโพสต์คำพิพากษาบนสื่อสังคมออนไลน์ หลู่ เฉ่า ซึ่งขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิต ยอมรับสารภาพว่าเขาโยนเหรียญหลายเหรียญเข้าใส่เครื่องยนต์ของเครื่องบินภาวนาขอให้เดินทางปลอดภัย ตอนที่เขาขึ้นเครื่องบินเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตามเที่ยวบินจากอันชิ่ง มุ่งหน้าสู่เมืองคุนหมิง ในมณฑลยูนนาน ถูกยกเลิก หลังจากเจ้าหน้าที่ของสายการบินพบเหรียญ 1 หยวนจำนวน 2 เหรียญตกอยู่บนพื้นใกล้ๆกับเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ผู้โดยสารทั้งหมดต้องลงจากเครื่องบิน และเที่ยวบินต้องงดบินเปิดทางสำหรับการตรวจสอบด้านความปลอดภัย โดยผลจากเหตุการณ์นี้ทำให้ลัคดีแอร์จำเป็นต้องอำนวยความสะดวกแก่พวกผู้โดยสารที่ตกค้างด้วยการจัดหาเที่ยวบินอื่นทดแทน และประสบกับการขาดทุนมากกว่า 123,000 หยวน (ราว 530,000บาท) ในส่วนของ หลู่ นั้น ถูกตำรวจอันชิ่งพาตัวไปและถูกคุมขังเป็นเวลา 10 วัน ตามข้อกล่าวหาก่อความปั่นป่วนแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน ลัคดีแอร์ ยื่นฟ้องร้องทางแพ่งดำเนินคดีกับ หลู่ ในเดือนพฤษภาคม โดยเรียกร้องค่าชดเชยกับเงินที่พวกเขาต้องสูญไป แต่…

แฉอดีตประธานนิสสันมีพาสปอร์ตฝรั่งเศส 2 เล่ม

Loading

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคเป็นสื่อใหญ่เจ้าแรกของญี่ปุ่นที่รายงานว่า นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานของนิสสัน มอเตอร์ ซึ่งหลบหนีการไต่สวนคดีคอร์รัปชั่นของศาลกรุงโตเกียวไปยังเลบานอน ถือหนังสือเดินทางของฝรั่งเศส 2 เล่ม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ว่าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการกรุงโตเกียวยกกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในเขตมินาโตะ ใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งเคยเป็นสถานที่อาศัยของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริหารของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ นับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติประกันตัวจากศาลแขวงกรุงโตเกียว เมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว เพื่อรอการขึ้นศาลครั้งต่อไปในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางการเงินหลายข้อหา แม้ยังไม่การเปิดเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับผลการตรวจค้น แต่ทุกฝ่ายเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องการค้นหาเบาะแสที่อาจช่วยเชื่อมโยงการหลบหนีของกอส์นออกจากญี่ปุ่นไปยังเลบานอน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ANNnewsCH ต่อมาสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานโดยอ้างแหล่งข่าว ว่ากอส์นมีหนังสือเดินทางของฝรั่งเศส 2 เล่ม นอกเหนือจากหนังสือเดินทางของเลบานอนและบราซิลอย่างละ 1 เล่ม ซึ่งทีมทนายความของกอส์นในญี่ปุ่นเก็บหนังสือเดินทางของลูกความไว้ 3 เล่ม ยกเว้นหนังสือเดินทางของฝรั่งเศสเล่มที่ 2 ที่กอส์นบรรลุข้อตกลงกับศาลว่าต้องเก็บไว้ “ภายในกล่องที่ปิดสนิท” และทนายความเป็นผู้ถือกุญแจ แหล่งข่าวให้ข้อมูลด้วยว่า รัฐบาลฝรั่งเศสออกหนังสือเดินทางให้กอส์น 2 เล่ม “ด้วยเหตุผลบางประการ” สอดคล้องกับข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอน ว่ากอส์นเดินทางเข้าประเทศโดยใช้หนังสือเดินทางของฝรั่งเศส ที่ระบุชื่อและนามสกุลจริง และรูปหน้าในหนังสือเดินทางตรงกับกอส์นตัวจริง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศสยังสงวนท่าที…

เกิดเหตุเพลิงไหม้สวนสัตว์ในเยอรมนี ตายกว่า 30 ตัว คาดสาเหตุมาจากโคมลอยกระดาษ

Loading

โดย ณรงค์กร มโนจันทร์เพ็ญ วานนี้ (1 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุเพลิงไหม้สวนสัตว์ Krefeld ในเยอรมนี หลังเข้าสู่ปีใหม่เพียงไม่นาน เป็นเหตุให้สัตว์หลายชนิดมากกว่า 30 ตัวตาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากโคมลอยกระดาษที่ถูกจุดและปล่อยลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทางการท้องถิ่นเผยว่า ตรวจพบโคมลอยกระดาษที่ยังไม่ถูกเผาไหม้จนหมด ตกอยู่ในบริเวณดังกล่าว นับเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดต้อนรับปีใหม่ของสวนสัตว์แห่งนี้ ส่วนจัดแสดงอาณาจักรลิงได้รับความเสียหายอย่างหนัก อุรังอุตังตาย 5 ตัว กอริลลาตาย 2 ตัว ชิมแปนซีตาย 1 ตัว อีกทั้งยังมีลิง นก และค้างคาว ตายอีกเป็นจำนวนมาก โดยทั่วไปแล้วช่วงปีใหม่ชาวเยอรมันส่วนใหญ่มักจะจุดพลุและดอกไม้ไฟมากกว่าที่จะปล่อยโคมลอย เนื่องจากโคมลอยนี้ผิดกฎหมาย และไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติของคนในพื้นที่แถบ Krefeld รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในเยอรมนี ซึ่งการปล่อยโคมลอยดังกล่าวมักพบเห็นได้ในหลายประเทศแถบเอเชีย เบื้องต้นสวนสัตว์ที่เปิดกิจการมาแล้ว 45 ปี ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนปีละกว่า 4 แสนคน จะปิดปรับปรุง และคาดว่าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในไม่ช้า หลังจัดการกับเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว ภาพ: Alexander Forstreuter / DPA /…

รุนแรงรับปีใหม่! ผู้ประท้วงชาวอิรักบุกโจมตีสถานทูตอเมริกันในกรุงแบกแดด

Loading

ผู้ประท้วงชาวอิรักนิกายชีอะห์หลายร้อยคนบุกโจมตีอาคารสถานทูตสหรัฐฯ ที่อยู่ในเขตปลอดภัยของกรุงแบกแดด เพื่อแสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ โจมตีทางอากาศใส่ฐานบัญชาการและแหล่งเก็บอาวุธของกลุ่มติดอาวุธ คาตาเอ็บ เฮซโบลาห์ บริเวณพรมแดนอิรักติดกับภาคตะวันออกของซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวอิรักหลายร้อยคนพากันโจมตีใส่อาคารสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดด โดยใช้อุปกรณ์หลายอย่าง เช่น ชะแลง ท่อนไม้ และป้ายจราจร ทุบประตูเหล็กด้านหน้าทางเข้าสถานทูต รวมทั้งจุดไฟเผาป้อมรักษาความปลอดภัยหน้าสถานทูตด้วย ผู้ประท้วงชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ต่างตะโกนคำว่า “อัลลาฮู อัคบาร์” และ “สหรัฐฯ คือปีศาจร้าย” ขณะที่โบกธงสัญลักษณ์ของกลุ่มติดอาวุธเฮซโบลาห์ และขว้างปาก้อนหินใส่อาคารสถานทูตอเมริกัน หนึ่งในผู้นำของกลุ่มผู้ประท้วงของนิกายชีอะห์ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลอิหร่าน คาอีส อัล-โคซาลี กล่าวว่าสหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบต่อสงครามและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในอิรัก คาอีส อัล-โคซาลี แห่งกลุ่ม Asaib Ahl al-Haq ระบุว่า สถานทูตแห่งนี้คือสถานที่ที่ใช้ในการวางแผน การจารกรรม การขโมยข้อมูลข่าวกรอง และกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีเป้าหมายบ่อนทำลายอิรัก ถือเป็นศูนย์กลางของการกระทำที่ไม่เป็นมิตร สื่อมวลชนในอิรักรายงานว่า กองกำลังของรัฐบาลอิรักมิได้พยายามยับยั้งการโจมตีของผู้ประท้วงดังกล่าวที่พยายามบุกเข้าไปในเขตปลอดภัยกรีนโซน หรือแม้กระทั่งหยุดยั้งการโจมตีอาคารสถานทูตอเมริกัน แต่มีรายงานในวันอังคารว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยอิรักได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงบางส่วนเพื่อสลายการชุมนุม รัฐมนตรีต่างประเทศอิรัก โมฮัมเหม็ด อาลี อัล-ฮาคิม…

ร่างกายฉัน แต่ DNA นั้นของใคร? การสืบสวนจะเป็นอย่างไรเมื่อ DNA ของคนอื่นอยู่ในตัวเรา

Loading

Chris Long credit : The New York Times (Tiffany Brown Anderson) ลองจินตนาการว่าวันหนึ่งเราไปตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยโรค แต่กลับพบว่า ดีเอ็นเอในเลือดนั้นไม่ใช่ของเราเพียงคนเดียว แต่มีของเพื่อนร่วมงาน คนข้างบ้าน หรือคนแปลกหน้าที่อยู่ถัดไปอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งไม่เคยพบกันมาก่อนปะปนอยู่ด้วย! เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้จริงๆ น่ะเหรอ? หรืออาจจะไม่ต้องจินตนาการแล้วก็ได้ เพราะเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วยโรคลูคีเมียคนหนึ่ง ที่เคยเข้ารับการบริจาคไขกระดูก ซึ่งเป็นเหตุให้ร่างกายของเขาได้รับดีเอ็นเอของใครบางคนมาโดยไม่รู้ตัว เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ลงใน New York Times โดย คริส ลอง (Chris Long) ชายคนหนึ่งในเมืองรีโน รัฐเวเนดา ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ดีเอ็นเอในเลือดของเขาเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ก็คือการ ‘ถูกแทนที่’ ด้วยดีเอ็นเอของคนคนหนึ่ง ซึ่งพวกเขาไม่เคยรู้จักหรือพบหน้ากันมาก่อน หลังจากที่ คริส ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกเมื่อ 4 ปีก่อนเพื่อช่วยผลิตเม็ดเลือดให้กับร่างกาย เขาก็ได้รับการตรวจเลือดอีกครั้งหนึ่ง และสิ่งที่น่าตกใจก็คือ แม้ขนอกและผมยังมีดีเอ็นเอของเขาอยู่ แต่ในเลือดบริเวณเยื่อบุแก้ม ลิ้น และริมฝีปากของเขา กลับพบดีเอ็นเอของคนอื่น แม้กระทั่งในน้ำอสุจิด้วยก็ตาม ซึ่งภายหลังก็ทราบว่าดีเอ็นเอนั้นเป็นของชายชาวเยอรมันที่เป็น ‘ผู้ให้บริจาค’ ไขกระดูกแก่เขา…