ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ แพ้คดีการค้นและยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่มีข้อสงสัย, หลังจากนี้ต้องแสดงเหตุอันสมควร

Loading

EFF และ ACLU สององค์กรไม่หวังผลกำไรด้านสิทธิการแสดงออกชนะคดีที่ฟ้องร้องกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) พร้อมกับหน่วยงานดูแลชายแดน CBP (U.S. Customs and Border Protection) และ ICE (U.S. Immigration and Customs Enforcement) จากการตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้เดินทางเข้าประเทศจำนวน 11 รายโดยไม่สามารถแจ้งเหตุผลอันสมควรได้ การตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊ก มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐฯ โดยปี 2018 ที่ผ่านมามีการตรวจค้นกว่า 33,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นสี่เท่าตัวในห่วงสามปี การตรวจค้นครั้งหนึ่งที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้คือ Ismail B. Ajjawi นักศึกษาปีหนึ่งของฮาวาร์ดที่ถูก CBP คุมตัวขณะเดินทางเข้าประเทศ เมื่อตรวจค้นโทรศัพท์และโน้ตบุ๊ก เจ้าหน้าที่พบโพสต่อต้านสหรัฐฯ จากเพื่อนของ Ismail แม้ตัว Ismail ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโพสนั้น เขาก็ถูกยกเลิกวีซ่าและส่งตัวกลับเลบานอน ———————————————- ที่มา : Blognone / 13 November 2019…

สถานทูตเตือนคนไทยในออสเตรเลีย เกาะติดข่าวสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด

Loading

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ขอเรียนว่า ตามที่ได้มีรายงานข่าวสถานการณ์ไฟป่าในบางพื้นที่ของออสเตรเลียโดยเฉพาะที่รัฐ New South Wales และรัฐ Queensland ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. 2562 พบว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน สูญหายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากภาพถ่ายทางดาวเทียมแสดงให้เห็นควันไฟป่าที่มีระยะทางกว่า 4,000 กม. จาก Tasman Sea ไปจนถึง South Island ของนิวซีแลนด์ ในขณะที่ทางการออสเตรเลียได้ใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองและรักษาชีวิต รวมทั้งบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแจ้ง เตือนว่าสถานการณ์ไฟป่ามีแนวโน้มว่าอาจมีความรุนแรงยิ่งขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวรวมทั้งรัฐ Western Australia เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ทิศทางและความแรงของลมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ความชื้นปริมาณต่ำ และปริมาณฝนที่คาดว่าจะมีไม่มากในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ จนถึงต้นปีหน้า ในรัฐ New South Wales พบว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นถึง 64 จุด โดย…

สนามบินเนเธอร์แลนด์ปิดฉุกเฉิน หลังนักบินพลาดส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบิน

Loading

วานนี้ (6 พฤศจิกายน) เกิดความชุลมุนที่ท่าอากาศยานสคิปโฮลในกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในทวีปยุโรป หลังมีการส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินจากเที่ยวบินของสายการบิน Air Europa ที่กำลังเตรียมขึ้นบินสู่จุดหมายในกรุงมาดริดของสเปน ส่งผลให้ตำรวจต้องรีบปฏิบัติการช่วยอพยพผู้โดยสารและลูกเรือออกจากเครื่องบิน พร้อมทั้งปิดสนามบินบางส่วน เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินมาตรการป้องกันความปลอดภัยตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทางสายการบิน Air Europa ได้ประกาศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของหนึ่งในนักบินที่เผลอเปิดสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินโดยไม่ได้ตั้งใจ “สัญญาณเตือนในเที่ยวบินอัมสเตอร์ดัม-มาดริด ช่วงบ่ายวันนี้ ถูกเปิดใช้งานด้วยความผิดพลาด และส่งผลให้มีการดำเนินการเพื่อรับมือเหตุจี้เครื่องบินที่สนามบิน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย และกำลังรอที่จะออกเดินทางในเร็วๆ นี้” สายการบินทวีตข้อความ การปิดสนามบินที่เกิดขึ้นสร้างความสับสนและหวั่นวิตกแก่ผู้โดยสารที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่ยังมีหลายเที่ยวบินร่อนลงจอด และบางเที่ยวบินถูกกักไว้ที่ลานจอดเครื่องบินนานเกือบ 1 ชั่วโมง ทางการเนเธอร์แลนด์ระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นสถานการณ์ร้ายแรงที่เรียกว่าสถานการณ์ GRIP-3 ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวงต่อประชาชน ขณะที่ยังไม่แน่ชัดว่ามีการส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินผิดพลาดได้อย่างไร ซึ่งทางการกำลังอยู่ระหว่างสอบสวน แต่จากเอกสารกฎระเบียบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ระบุขั้นตอนส่งสัญญาณเตือนกรณีเกิดการจี้เครื่องบินว่า นักบินต้องพิมพ์รหัส 7500 ซึ่งเป็นรหัสสัญญาณดาวเทียมพิเศษก่อน จึงจะเปิดสัญญาณเตือนได้ หมายเหตุภาพ: เป็นแฟ้มภาพสนามบินสคิปโฮลจาก Getty Images ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ————————————– ที่มา…

บังคับใช้แล้ว! ระเบียบศาล รธน. 45 ข้อ ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล

Loading

23 ต.ค 62 – เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล พ.ศ. 2562 เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยของศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญและการรักษาความสงบเรียบร้อยของการพิจารณาคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมและรัดกุมสอดคล้องกับกฎหมาย กฎ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโครงสร้างการบริหารราชการของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2542 และ ข้อ 8 (8) ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ อ่านทั้งหมด —————————————— ที่มา : ไทยโพสต์ / 25 ตุลาคม 2562 Link : https://www.thaipost.net/main/detail/48669

ว่าด้วยความสำคัญของบัตรประจำตัว

Loading

การติดบัตรประจำตัวนับเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ เนื่องจากเป็นวิธีการควบคุมบุคคลที่จะผ่านเข้า-ออกพื้นที่ควบคุมหรือพื้นที่หวงห้ามของหน่วยงาน และเป็นการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่า บุคคลนั้นเป็นผู้มีสิทธิผ่านเข้า-ออกพื้นที่ของหน่วยงานเหล่านั้นได้จริง อย่างเช่น กลุ่มเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน กลุ่มผู้มาติดต่อ  กลุ่มผู้ร่วมประชุม เป็นต้น อีกทั้งรูปแบบหรือสีของบัตรประจำตัวที่กำหนดไว้ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานสามารถแบ่งแยกเบื้องต้นได้ว่า กลุ่มผู้ติดบัตรประจำตัวอยู่ในกลุ่มใด หรือสังเกตเห็นได้ว่าผู้ติดบัตรประจำตัวล่วงล้ำเข้าสู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต  ขณะนี้มาตรการติดบัตรประจำตัวนี้ไม่กำหนดชัดเจนในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ มีเพียงระบุไว้ในคู่มือมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยหน่วยงานภาครัฐฝ่ายพลเรือน ซึ่งจัดทำเมื่อปี 2553 โดยสำนักข่าวกรองแห่งชาติในฐานะองค์การรักษาความปลอดภัยแห่งชาติฝ่ายพลเรือน สำหรับให้หน่วยงานของรัฐและองค์การอิสระฝ่ายพลเรือน นำไปเป็นแนวทางปฏิบัติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2517 ซึ่งปัจจุบันยกเลิกแล้ว เป็นระเบียบที่ให้ความสำคัญต่อบัตรประจำตัวและกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ชัดเจน โดยถือว่า บัตรประจำตัวเป็นเอกสารราชการที่ใช้แสดงฐานะเจ้าของบัตรต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ถึงสิทธิในการผ่านเข้า-ออกพื้นที่ส่วนราชการ ขณะผ่านจุดตรวจหรือช่องทางเข้า-ออก เพื่อเข้าสู่เขตที่มีการรักษาความปลอดภัย ทั้งยังใช้เป็นหลักฐานควบคุมบุคคลทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะต่อกรณีที่พบการกระทำความผิดหรือละเมิดกฎระเบียบที่กำหนดไว้ในหน่วยงานรัฐ ตลอดจนยังเป็นเอกสารเฉพาะตัวบุคคลที่ยืนยันถึงการได้รับความไว้วางใจให้เข้าถึงและระดับชั้นที่ให้เข้าถึงสิ่งที่เป็นความลับหรือมีความสำคัญของราชการ หรือแสดงถึงการได้รับอนุญาตให้ผ่านหรือเข้าไปปฎิบัติงานในพื้นที่ควบคุมหรือเขตหวงห้าม รวมทั้งในพื้นที่ที่จัดการประชุมลับอีกด้วย  แม้ว่าในปัจจุบันมาตรการเกี่ยวกับบัตรประจำตัวจะยังกำหนดใช้ภายในหน่วยงานของรัฐ แต่ก็มิได้สร้างความเข้าใจให้ตระหนักถึงความสำคัญของบัตรประจำตัวหรือมิได้เข้มงวดในการถือปฏิบัติมากนัก เช่น บัตรประจำตัวต้องติดที่อกเสื้อ เพื่อให้เห็นได้ชัดเจน และให้ติดไว้ตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่่รักษาความปลอดภัย เป็นต้น ถึงแม้ขณะนี้ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับบัตรประจำตัวจะไม่มีความชัดเจนในระเบียบราชการว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนก็ตาม แต่หากหน่วยงานของรัฐเห็นถึงความสำคัญก็สามารถกำหนดขึ้นเป็นระเบียบภายใน เพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ครอบครองของหน่วยงานของรัฐนั้น ถือปฏิบัติตามตลอดระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่ก็ได้ ตัวอย่างหน่วยงานของรัฐที่กำหนดเป็นระเบียบภายใน ได้แก่ รัฐสภาเรียกว่า ระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยของรัฐสภา พ.ศ.2559 ระบุถึงเช่นนี้ ข้อ 5 ในระเบียบนี้…

กทม.เช็กซีซีทีวีทั่วกรุงพร้อมใช้งานทุกตัว เข้มความปลอดภัย ‘ประชุมอาเซียน’

Loading

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ในวันที่ 31 ต.ค. – 4 พ.ย.62 นี้ ณ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่คณะผู้นำประเทศผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการดูแลความมั่นคงปลอดภัย พร้อมรับต่อทุกสถานการณ์ให้เรียบร้อยและเป็นไปตามหลักสากล นางศิลปสวย กล่าวว่า ในส่วนสำนักการจราจรและขนส่ง ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ของ กทม.ทุกตัวให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งบูรณาการเชื่อมโยงการใช้ประโยชน์ข้อมูลสัญญาณภาพจากกล้องซีซีทีวี ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตรวจสอบความพร้อมของระบบป้องกันอัคคีภัย ฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟในโรงแรมที่ใช้เป็นที่พำนักของผู้แทนประเทศสมาชิกของอาเซียน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยพร้อมรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง และรถอุปกรณ์พิเศษ ไปจอดประจำ ณ โรงแรมที่ใช้เป็นที่พำนักเพื่อดูแลความปลอดภัยจนถึงเสร็จสิ้นภารกิจ ด้านพ.ต.ท.สมเกียรติ นนทแก้ว ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำชับฝ่ายความมั่นคงขอให้ประสานทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความพร้อมของแผนและมาตรการดูแลความมั่นคงปลอดภัยในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 2 – 4…