ไทยหนีไม่พ้น เราจะต้องระวังอะไรจากความขัดแย้งอิหร่าน-สหรัฐ

Loading

บทวิเคราะห์โดย กรกิจ ดิษฐาน อิหร่านหักปากกาเซียนด้วยการโจมตีสหรัฐแบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่วิธียืมมือกลุ่มติดอาวุธที่ตัวเองสนับสนุนอย่างที่บางคนคาดการณ์ไว้ การโจมตีด้วยขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐในอิรัก คือการทำสงครามแบบ Conventional warfare หรือ “สงครามในรูปแบบ” นั่นคือการรบโดยใช้อาวุธโจมตีกันไปมา ไม่ว่าจะเป็นอาวุธแบบมาตรฐาน เช่นจรวดหรือแบบล้ำสมัยเช่นโดรน บรรดาเซียนการเมืองเชื่อว่าอิหร่านอาจจะรบแบบ Unconventional warfare หรือสงครามนอกระบบ โดยเฉพาะการใช้ตัวแทนรบกับสหรัฐ (Proxy war) ด้วยการบ่อนทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐเป็นจุดๆ ไป อย่างที่สหรัฐเรียกว่า “การก่อการร้าย” อิหร่านควรใช้วิธีนี้เพราะมีแสนยานุภาพด้อยกว่าสหรัฐแต่มี “บริวาร” ที่เป็นเครือข่ายติดอาวุธที่ทำงานครอบคลุมไปทั่วโลก เช่น ฮิซบุลลอฮ์ แต่อย่างที่เราทราบ อิหร่านเลือกที่จะปะทะตรงๆ ทั้งๆ ที่แสนยานุภาพของอิหร่านเมื่อเทียบกับสหรัฐแล้วเหมือนหนูกับช้าง นั่นแสดงว่าอิหร่านกำลังเลือดเข้าตา และเห็นแก่ศักดิ์ศรีที่ถูกหยามมากกว่าจะมองความเป็นจริงในการรบ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าอิหร่านจะไม่รบนอกแบบ และใช้ตัวแทนรบกับสหรัฐ Quds Force ของอิหร่านซึ่งผู้บัญชาการเพิ่งจะถูกสังหารไป มีสายสัมพันธ์กับกองกำลังติดอาวุธหลายกลุ่มในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ (Hezbollah) จากการรายงานของ Institute for Near East Policy ในกรุงวอชิงตัน ในระยะหลังทั้งสองกลุ่มนี้ทำงานร่วมกันเพื่อโจมตีเป้าหมายสหรัฐ อิสราเอล และประเทศตะวันตก…

เปิดภาพวงจรปิด “บิ๊กนิสสัน” หนีจากญี่ปุ่น จ้างหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ คุ้มครอง

Loading

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นเส้นทางการหลบหนีของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานนิสสัน มอเตอร์ โดยใช้เวลาวางแผนนานกว่า 3 เดือน มีหน่วยรบพิเศษ “กรีน แบเรต์” ของสหรัฐฯ ช่วยดำเนินการ ฝ่ายสืบสวนของญี่ปุ่นแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดจำนวนมาก เผยเส้นทางการหลบหนีออกจากประเทศญี่ปุ่นของนายคาร์ลอส กอส์น ซึ่งขณะนี้อยู่ที่เลบานอน และเตรียมเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีของเขาในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) ราว 14.30 น.ของวันที่ 29 ธันวาคม นายกอส์นออกจากบ้านพักของตัวเองในกรุงโตเกียว ไปพบกับชาย 2 คนซึ่งน่าจะเป็นชาวสหรัฐฯ ที่ให้ความช่วยเหลือที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ห่างออกไปประมาณ 800 เมตรจากบ้านพักของเขา จากนั้นทั้ง 3 คนได้ขึ้นรถไฟหัวกระสุนชิงกันเซ็น จากสถานีชินางาวะในกรุงโตเกียว และเดินทางถึงสถานีชินโอซากา ก่อนเวลา 19.30 น. หลังเวลา 20.00 น. ทั้ง 3 คนเดินทางถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ 2 ชั่วโมงต่อมา ชาวสหรัฐฯ ทั้ง 2 คนได้ออกจากโรงแรม พร้อมด้วยกล่องขนาดใหญ่ 2 กล่อง…

เกาหลีใต้เตรียมติดตั้งกล้อง AI ตรวจจับอาชญากรรมในกรุงโซล

Loading

เขต Seocho ทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับสถาบันวิจัยอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม (ERTI) ประกาศเตรียมติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ใช้ซอฟต์แวร์ AI ในการประมวลผลตำแหน่ง เวลา และรูปแบบพฤติกรรมของผู้ที่เดินผ่าน เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุอาชญากรรม จำนวน 3,000 ตัวในเดือนกรกฎาคม 2020 กล้องวงจรปิดดังกล่าวจะทำการตรวจสอบบุคคลที่เดินผ่านว่าเป็นการเดินตามปกติหรือกำลังติดตามคนอื่นอยู่โดยอัตโนมัติ รวมไปถึงตรวจจับอุปกรณ์สวมใส่ เช่น หมวก หน้ากาก แว่นตา และของที่บุคคลนั้นๆ ถืออยู่ว่าเป็นวัตถุอันตรายหรือไม่ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลรวมกันและหาความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุอาชญากรรมขึ้น ถ้าความเป็นไปได้สูงเกินกว่าที่กำหนด กล้องจะแจ้งเตือนไปยังสำนักงานเขตและสถานีตำรวจใกล้เคียงเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสถานที่ที่กล้องตั้งอยู่ทันที นอกจากนี้ เขต Seocho และ ETRI ยังวางแผนที่จะวิเคราะห์เอกสารคำพิพากษาของศาลกว่า 20,000 ฉบับและวิดีโอการก่อเหตุอาชญากรรมเพื่อลดปริมาณรูปแบบที่ซอฟต์แวร์ AI จำเป็นต้องจำลงอีกด้วย ที่สำคัญคือสามารถนำภาพวิดีโอที่ตรวจจับได้ ณ ปัจจุบันเปรียบเทียบกับวิดีโอในอดีตเพื่อยืนยันรูปแบบการก่ออาชญากรรมได้ ซอฟต์แวร์ AI นี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2022 ซึ่ง ETRI วางแผนที่จะขยายการติดตั้งไปยังเขตอื่นๆ ทั่วกรุงโซลในอนาคต ——————————————— ที่มา : Techtalk Thai / 3…

โจรกรรมครั้งประวัติศาสตร์ ทะลวงทุกระบบไปขนเพชรมหาศาล ตามของคืนไม่ได้จนวันนี้

Loading

โฉมหน้าลีโอนาร์โด โนทาร์บาร์โทโล วัย 51 ปีหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 ฉากหลังเป็น Diamond Center ใน Antwerp ประเทศเบลเยียม เมื่อ 18 ก.พ. 2013 หลังเกิดเหตุโจรกรรมเพชร (ภาพจาก STRINGER / BELGA / WIM HENDRIX / AFP) ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2003 มีข่าวครึกโครมดังไปทั่วโลกกับเหตุการณ์การโจรกรรมเพชรที่นับได้ว่าเป็นการโจรกรรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าจะบอกได้ว่าเป็นการโจรกรรมที่เกิดในพื้นที่ซึ่งมีระบบป้องกันดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกจนเคยเชื่อกันว่า “ไม่สามารถถูกเจาะได้” “แอนต์เวิร์ป ไดมอนด์ เซ็นเตอร์” (Antwerp Diamond Center) เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์รวมเพชรของโลก ตั้งอยู่ในประเทศเบลเยียม ภายในมีตู้เซฟจำนวนเกือบ 200 ตู้ในห้องนิรภัยซึ่งอยู่ลึกลงไปในใต้ดิน 2 ชั้น เก็บเพชรและเครื่องประดับอัญมนีของผู้เช่าตู้เซฟ มูลค่ารวมแล้วหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รายงานข่าวบางแห่งบ่งชี้ตัวเลขระดับชั้นของการรักษาความปลอดภัยว่ามีมากถึง 10 ชั้น และต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะไปถึงขั้นเปิดตู้เซฟได้ ทุกตู้ยังต้องเปิดด้วยรหัสและกุญแจเช่นเดียวกับประตูห้องนิรภัยซึ่งทำให้เป็นที่มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้มาเช่าตู้เซฟ สถานที่แห่งนี้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาและทันสมัย…

อ่วม!!หนุ่มจีนถูกปรับ5แสน โยนเหรียญใส่เครื่องยนต์เครื่องบินขอพรเดินทางปลอดภัย

Loading

เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ – ชายวัย 28 ปีรายหนึ่งจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ถูกศาลสั่งจ่ายเงินชดเชย 120,000 หยวน(ราว510,000บาท) เป็นค่าเสียหายแก่ ลัคกีแอร์ สายการบินต้นทุนต่ำ ต่อกรณีที่เขาปาเหรียญเข้าใส่เครื่องยนต์เครื่องบิน อธิษฐานขอให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยเมื่อปีที่แล้ว ศาลแขวงอี้ซิวในเมืองอันชิ่ง มณฑลอานฮุย มีคำพิพากษาในคดีนี้ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว แต่รายละเอียดของคำตัดสินเพิ่งมีการเผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้ หลังจากศาลโพสต์คำพิพากษาบนสื่อสังคมออนไลน์ หลู่ เฉ่า ซึ่งขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิต ยอมรับสารภาพว่าเขาโยนเหรียญหลายเหรียญเข้าใส่เครื่องยนต์ของเครื่องบินภาวนาขอให้เดินทางปลอดภัย ตอนที่เขาขึ้นเครื่องบินเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตามเที่ยวบินจากอันชิ่ง มุ่งหน้าสู่เมืองคุนหมิง ในมณฑลยูนนาน ถูกยกเลิก หลังจากเจ้าหน้าที่ของสายการบินพบเหรียญ 1 หยวนจำนวน 2 เหรียญตกอยู่บนพื้นใกล้ๆกับเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ผู้โดยสารทั้งหมดต้องลงจากเครื่องบิน และเที่ยวบินต้องงดบินเปิดทางสำหรับการตรวจสอบด้านความปลอดภัย โดยผลจากเหตุการณ์นี้ทำให้ลัคดีแอร์จำเป็นต้องอำนวยความสะดวกแก่พวกผู้โดยสารที่ตกค้างด้วยการจัดหาเที่ยวบินอื่นทดแทน และประสบกับการขาดทุนมากกว่า 123,000 หยวน (ราว 530,000บาท) ในส่วนของ หลู่ นั้น ถูกตำรวจอันชิ่งพาตัวไปและถูกคุมขังเป็นเวลา 10 วัน ตามข้อกล่าวหาก่อความปั่นป่วนแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน ลัคดีแอร์ ยื่นฟ้องร้องทางแพ่งดำเนินคดีกับ หลู่ ในเดือนพฤษภาคม โดยเรียกร้องค่าชดเชยกับเงินที่พวกเขาต้องสูญไป แต่…

แฉอดีตประธานนิสสันมีพาสปอร์ตฝรั่งเศส 2 เล่ม

Loading

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคเป็นสื่อใหญ่เจ้าแรกของญี่ปุ่นที่รายงานว่า นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานของนิสสัน มอเตอร์ ซึ่งหลบหนีการไต่สวนคดีคอร์รัปชั่นของศาลกรุงโตเกียวไปยังเลบานอน ถือหนังสือเดินทางของฝรั่งเศส 2 เล่ม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ว่าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการกรุงโตเกียวยกกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในเขตมินาโตะ ใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งเคยเป็นสถานที่อาศัยของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริหารของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ นับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติประกันตัวจากศาลแขวงกรุงโตเกียว เมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว เพื่อรอการขึ้นศาลครั้งต่อไปในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางการเงินหลายข้อหา แม้ยังไม่การเปิดเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับผลการตรวจค้น แต่ทุกฝ่ายเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องการค้นหาเบาะแสที่อาจช่วยเชื่อมโยงการหลบหนีของกอส์นออกจากญี่ปุ่นไปยังเลบานอน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ANNnewsCH ต่อมาสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานโดยอ้างแหล่งข่าว ว่ากอส์นมีหนังสือเดินทางของฝรั่งเศส 2 เล่ม นอกเหนือจากหนังสือเดินทางของเลบานอนและบราซิลอย่างละ 1 เล่ม ซึ่งทีมทนายความของกอส์นในญี่ปุ่นเก็บหนังสือเดินทางของลูกความไว้ 3 เล่ม ยกเว้นหนังสือเดินทางของฝรั่งเศสเล่มที่ 2 ที่กอส์นบรรลุข้อตกลงกับศาลว่าต้องเก็บไว้ “ภายในกล่องที่ปิดสนิท” และทนายความเป็นผู้ถือกุญแจ แหล่งข่าวให้ข้อมูลด้วยว่า รัฐบาลฝรั่งเศสออกหนังสือเดินทางให้กอส์น 2 เล่ม “ด้วยเหตุผลบางประการ” สอดคล้องกับข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอน ว่ากอส์นเดินทางเข้าประเทศโดยใช้หนังสือเดินทางของฝรั่งเศส ที่ระบุชื่อและนามสกุลจริง และรูปหน้าในหนังสือเดินทางตรงกับกอส์นตัวจริง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศสยังสงวนท่าที…