12 ข้อ Checklist ออฟฟิศของคุณพร้อมแค่ไหน ยามเกิดอัคคีภัย

Loading

เมื่อพูดถึงอัคคีภัยหรือไฟไหม้ ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดอยู่แล้วล่ะ เป็นอันตรายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่เรื่องแบบนี้การเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะ โดยเฉพาะในสถานที่ที่เราต่างต้องไปทำงานกันเป็นประจำอย่างออฟฟิศ The MATTER ได้รวบรวมสิ่งจำเป็นในการป้องกันและรับมือกับปัญหาอัคคีภัย มาทำเป็น checklist ง่ายๆ ให้ลองไปสำรวจดูกัน ว่าจากในลิสต์นี้ ออฟฟิศของคุณมีการเตรียมพร้อมในข้อไหนบ้าง? บันได / เส้นทางหนีไฟ: ต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง ประตูและบันไดทนต่อไฟ ประตูสามารถเปิดออกได้สะดวกตลอดเวลา และลำเลียงคนออกจากอาคารได้ภายใน 1 ชั่วโมง แผนผังอาคารแต่ละชั้น: ติดตั้งไว้หน้าลิฟต์แต่ละชั้น หรือห้องโถง ให้เห็นได้อย่างชัดเจน เครื่องมือดับเพลิงแบบมือถือ: เช่น ถังโฟมเคมี ตามชนิดและขนาดที่กำหนด ให้มี 1 เครื่องต่อพื้นที่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ทุกระยะไม่เกิน 45 เมตร แต่ไม่น้อยกว่าชั้นละ 1 เครื่อง ต้องสามารถหยิบไปใช้งานได้สะดวก ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ (อัตโนมัติ / กดมือ): ต้องมีไว้ทุกชั้น เพื่อส่งเสียงหรือสัญญาณให้คนในอาคารรับรู้อย่างทั่วถึง ระบบไฟส่องสว่างสำรอง: เพื่อให้มีแสงสว่างมองเห็นช่องทางเดินได้ขณะไฟไหม้ หรือไฟฟ้าดับ ป้ายบอกทางหนีไฟ: ขนาดของตัวหนังสือสูงอย่างน้อย 15…

ตร.สนามบินโรมาเนียล็อคตัว-ลากผู้โดยสารอียิปต์ลงจากเครื่อง

Loading

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินบูคาเรสต์ ลากผู้โดยสารอียิปต์ลงจากเครื่อง ท่ามกลางความตกใจของผู้โดยสารทั้งลำ เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นที่สนามบินบูคาเรสต์ บนเครื่องบินสายการบิน ทารอม   ของโรมาเนีย ที่เดินทางจากปารีส แวะจอดสนามบิน Henri Coandă เมืองหลวงโรมาเนีย ก่อนมุ่งหน้ากรุงไคโร  ประเทศอียิปต์ คลิปแสดงให้เห็นนาทีการทะเลาะวุ่นวาย ระหว่างผู้โดยสารชาวอียิปต์ กับลูกเรือ ที่พยายามขัดขืนการจับกุม ต่อมา ตำรวจสนามบินเข้าแทรกแซง ใช้กำลังบังคับผู้โดยสารคนนั้นลงจากเครื่องแบบถูลู่ถูกังและสวมกุญแจมือ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของภรรยาและลูกชาย และเสียงโหวกเหวกของผู้โดยสารบนเครื่อง ที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ Viorica Hagagg ผู้โดยสารที่แชร์เรื่องนี้บนเฟซบุ๊ก เล่าเหตุการณ์ว่า สตรีคนหนึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ นั่งติดกับทางออกฉุกเฉิน แต่ไม่เข้าใจระเบียบทางออกฉุกเฉิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจึงให้ครอบครัวนี้ย้ายไปด้านหลัง ไม่กี่นาทีหลังย้ายไปแล้ว  ตำรวจขอให้สตรีคนดังกล่าวมอบหนังสือเดินทาง และสั่งให้ลงจากเครื่องบินทั้งครอบครัวตามคำร้องขอของกัปตัน แต่ผู้โดยสารหญิงท่านนั้นและครอบครัวยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการให้ทำอะไร ผู้โดยสารคนอื่น ขอให้รปภ.หรือลูกเรือจัดหาล่าม แต่ตำรวจบอกว่าไม่จำเป็น  และแสดงท่าที่ไม่เป็นมิตรตลอดเวลา คลิปแสดงให้เห็นหน่วยแพทย์รุดดูอาการของภรรยา หลังจากสามีถูกลากลงจากเครื่อง มีรายงานว่าเธอเป็นเบาหวานและเป็นลม ต้องได้รับยาปรับระดับน้ำตาล ต่อมา ลูกเรือแจ้งผู้โดยสารว่า สตรีคนดังกล่าวถ่มน้ำลายใส่พนักงานต้อนรับ สายการบินเข้าไปตอบโพสต์ของ Viorica Hagagg บนเฟซบุ๊กว่า เสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่อาจเพิกเฉยหรือยอมให้ผู้โดยสาร ละเมิดกฎและคุกคามความปลอดภัยของผู้โดยสารคนอื่น ลูกเรือปฏิบัติตามขั้นตอนสำหรับเหตุการณ์ลักษณะนี้ เมื่อผู้โดยสารไม่ยอมย้ายที่นั่ง จึงต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ…

หวั่นภัยก่อการร้าย บริติชแอร์เวย์ระงับบินไคโร

Loading

สายการบินบริติชแอร์เวย์ของอังกฤษประกาศระงับเที่ยวบินไปกรุงไคโรของอียิปต์ 7 วันเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ ภายหลังทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย ขณะรัฐบาลอังกฤษเตือนมีความเสี่ยงสูงจากภัยก่อการร้ายในอียิปต์ รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคมกล่าวว่า สายการบินลุฟต์ฮันซาของเยอรมนีก็ระงับเที่ยวบินจากนครมิวนิกและแฟรงก์เฟิร์ตไปยังกรุงไคโรเมื่อวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม โดยคำแถลงไม่ได้ระบุเหตุผล แต่สายการบินนี้กลับมาให้บริการตามปรกติแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนบริติชแอร์เวย์ (บีเอ) ประกาศระงับการบินไปยังกรุงไคโรนาน 7 วัน โดยแถลงการณ์อ้างเหตุผลว่า สายการบินทบทวนการจัดการด้านความปลอดภัยของสนามบินทั่วโลกที่เราให้บริการทุกแห่งอย่างสม่ำเสมอ และได้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินไปกรุงไคโร เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ระหว่างรอการประเมินเพิ่มเติม ว่ามีความปลอดภัยสำหรับการบินแล้ว “ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของลูกค้าและลูกเรือของเราเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอันดับแรกอยู่เสมอ และเราจะไม่ทำการบินจนกว่าจะปลอดภัย” แถลงการณ์กล่าว ด้านกระทรวงการบินพลเรือนของอียิปต์กล่าวว่า กระทรวงกำลังทำงานร่วมกับสถานทูตอังกฤษประจำกรุงไคโร และตัวแทนของบีเอในอียิปต์ และได้ส่งเที่ยวบินพิเศษของอียิปต์แอร์ไปยังกรุงลอนดอนทุกวันเพื่อรับผู้โดยสารที่ตกค้าง ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษมีคำแนะนำถึงชาวอังกฤษที่กำลังจะเดินทางไปอียิปต์ โดยเตือนว่ามีความเสี่ยงสูงของการก่อการร้ายโจมตีภาคการบิน และได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมสำหรับเที่ยวบินจากอังกฤษไปยังอียิปต์แล้ว ขอให้พลเมืองอังกฤษให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของสนามบินต่างๆ อย่างเต็มที่ รัฐบาลอังกฤษแนะนำพลเมืองอังกฤษให้หลีกเลี่ยงการเดินทางทางอากาศทั้งขาเข้าและขาออกจากเมืองชาร์มเอลเชค เมืองพักตากอากาศของอียิปต์บนคาบสมุทรไซนาย หากไม่มีกิจธุระจำเป็น คำเตือนอ้างถึงความเป็นไปได้สูงที่ผู้ก่อการร้ายจะพยายามก่อเหตุในอียิปต์ แม้การโจมตีส่วนใหญ่จะเกิดในเขตไซนายเหนือ แต่ยังคงมีความเสี่ยงก่อการร้ายทั่วประเทศอียิปต์ รวมถึงในกรุงไคโร. —————————————————————– ที่มา : ไทยโพสต์ / 21 กรกฎาคม 2562 Link : https://www.thaipost.net/main/detail/41555

สถานกงสุลฯ เตือนภัยคนไทยเดินทางไปซานฟรานฯ แอลเอ และลาสเวกัส

Loading

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ประกาศเตือนภัยคนไทยที่เดินทางไปนครซานฟรานซิสโก นครลอสแอนเจลิส และเมืองลาสเวกัส ให้ระวังภัยมิจฉาชีพที่ใช้วิธีทุบรถยนต์เพื่อขโมยของมีค่าภายในรถยนต์นั้น คำเตือนนี้มีขึ้นหลังจากที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากเดินทางมายังสถานกงสุลฯ เพื่อขอให้ออกเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งสูญหายไปจากการถูกโจรกรรมทรัพย์สิน สถานกงสุลฯ ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวไทยกว่า 40 ราย ที่ถูกทุบรถยนต์เพื่อโจรกรรมทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ 3 เมืองใหญ่ข้างต้น ซึ่งล้วนเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย สถานกงสุลฯ ยังได้มีคำแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเมืองเหล่านั้น กล่าวคือ – พยายามไม่นำของมีค่าและเงินสดติดตัวเกินความจำเป็น – อย่างวางกระเป๋าหรือสัมภาระต่างๆ ทิ้งไว้ในรถยนต์ ทำให้เป็นเป้าสายตาของมิจฉาชีพ – ควรเก็บหนังสือเดินทางติดตัวตลอดเวลา และถ่ายรูปสำเนาหนังสือเดินทางเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือในกรณีฉุกเฉิน – เมื่อประสบเหตุให้รีบแจ้งตำรวจ และติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ทันที   ที่มา : VOA News / กรกฎาคม 19, 2019 Link : https://www.voathai.com/a/thai-concular-warns-thai-touists/5006369.html

ระวัง เปิดซิมต่างประเทศ แล้วโดนติดคุก

Loading

ระวัง เปิดซิมต่างประเทศ แล้วโดนติดคุก เกิดขึ้นมากที่ไทเป ไต้หวัน โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานที่ไต้หวันโดนเยอะ ถูกหลอกเซ็นเชื่อในแบบฟอร์มยื่นขอเปิดซิมการ์ดมือถือ ส่งผลให้แรงงานไทยไม่ต่ำกว่า 200 คน หลังจากเดินทางเข้าสู่ไต้หวันได้ไม่นาน ก็ตกเป็นผู้ต้องหา ถูกตำรวจออกหมายเรียกไปสอบปากคำ ข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ หรือหลอกลวงต้มตุ๋นชาวไต้หวัน ทั้งๆ ที่พูดภาษาจีนไม่ได้สักคำ บางคนยังไม่ทันจะเดินทางเข้าไต้หวัน ก็ตกเป็นผู้ต้องหาเสียแล้ว จากบริษัทจัดหางานไทยที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามกล่าวว่า มีพนักงานบริษัทจัดหางานไทยบางบริษัท นำแบบฟอร์มยื่นขอเปิดซิม ของค่ายมือถือในไต้หวัน ซึ่งมีตัวแทนอยู่ในประเทศไทย ไปหลอกให้คนงานเซ็น โดยนำไปปะปนกับเอกสารการเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน จากนั้นก็ยื่นขอเปิดซิมต่อค่ายโทรศัพท์มือถือ แล้วนำซิมการ์ดเหล่านี้ไปขายต่อให้แก๊งมิจฉาชีพในไต้หวันนำไปก่อคดี ในราคา 3,000 – 5,000 เหรียญ ต่อ 1 เบอร์ เมื่อตำรวจดักจับสัญญาณมือถือของแก๊งมิจฉาชีพได้ พบเจ้าของเบอร์มือถือเป็นคนงานไทย จะออกหมายเรียกให้ไปสอบปากคำ ฐานเป็นผู้ต้องหาต้มตุ๋น คนงานไทยบางคนได้รับหลายใบ ต้องขอให้ล่ามพาไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจหลายท้องที่ ทำให้วิตกกังวล ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ แม้ว่าสุดที่ท้ายคนงานไทยที่ตกเป็นเหยื่อเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะไม่ถูกสั่งฟ้อง แต่กว่าคดีจะสิ้นสุด ก็ต้องเสียเวลาทำงาน และเสียสุขภาพจิตเป็นปี ขณะที่บางคนโชคร้าย ให้การกลับไปกลับมา ถูกพิพากษาจำคุก ต้องไปรับโทษในคดีที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น จากสถิติของสำนักงานแรงงานไทย ตั้งแต่ปี…

รัฐบาลสิงคโปร์สั่งขึ้นทะเบียนโดรนทุกลำ หลังเหตุป่วนสนามบินนานาชาติชางงี

Loading

รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมออกกฎหมายให้โดรนทุกลำในประเทศต้องขึ้นทะเบียนก่อนนำไปใช้งาน พร้อมเล็งเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ที่ละเมิดกฎหมาย โดยรัฐบาลให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดหลังจากเกิดเหตุโดรนบินป่วนท่าอากาศยานนานาชาติสิงคโปร์ชางงี ส่งผลให้เที่ยวบินหลายลำเกิดการล่าช้าจนถึงขั้นต้องปิดรันเวย์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้านนาย Lam Pin Min in รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ เผยถึงเหตุผลการขึ้นทะเบียนโดรนว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับสารการบินและผู้ใช้งานสนามบินได้ เพราะจะทำให้นักบินโดรนจะทำการบินอย่างมีความรับผิดชอบ แต่ทางกระทรวงยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายได้แน่ชัด แต่จะพยายามให้ทันภายในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันกฎหมายสิงคโปร์ห้ามการนำโดรนบินภายในรัศมี 5 กิโลเมตร หรือที่ระดับความสูง 61 เมตร ของสนามบินและฐานทัพทหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้กระทำผิดมีระวางโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ และท่าอากาศยานนานาชาติสิงคโปร์ชางงี นับเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารมากที่สุดในโลก ให้บริการผู้โดยสารจำนวนถึง 65.6 ล้านคนในปีที่แล้ว ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Channel News Asia, 8/07/2019 Link : https://www.tcijthai.com/news/2019/7/asean/9202