เวียดนามคุมเข้มความปลอดภัยรอบสถานีรถไฟก่อนผู้นำโสมแดงเยือน

Loading

รอยเตอร์ – เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สถานีรถไฟติดชายแดนจีน ที่คาดว่าผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือจะเดินทางด้วยรถไฟมายังเวียดนามในสัปดาห์หน้า ก่อนการประชุมซัมมิตกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ  เวียดนามกำลังเตรียมการเพื่อรับการมาถึงของผู้นำโสมแดงที่เดินทางด้วยรถไฟ เพื่อร่วมการประชุมซัมมิตในวันที่ 27-28 ก.พ. ในกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศ ตามการระบุของแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในแผนการเดินทางและการรักษาความปลอดภัยรถไฟของผู้นำคิมจะจอดที่สถานีโด่งดัง (Dong Dang) บริเวณชายแดน และเดินทางต่อด้วยรถยนต์มายังกรุงฮานอย เป็นระยะทางราว 170 กิโลเมตร แหล่งข่าวระบุ แหล่งข่าวของรอยเตอร์ยังรายงานว่าบริเวณสถานีรถไฟโด่งดังมีคนงานก่อสร้างเข้าจัดระเบียบทำความสะอาดในวันนี้ (21) นอกจากนั้นยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณดังกล่าว โดยช่างภาพของรอยเตอร์ถูกเจ้าหน้าที่ 2 นาย เข้าขัดขวางไม่ให้บันทึกภาพและขอตรวจดูบัตรประชาชน กระถางดอกไม้วางเรียงในสถานีที่ดูเหมือนว่าเพิ่งได้รับการทำความสะอาดมาเมื่อไม่นานนี้ เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการประชาชนในท้องถิ่นกล่าวกับรอยเตอร์ว่าเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดมีคำสั่งให้จัดระเบียบสถานีให้เรียบร้อย “เราได้รับคำสั่งให้เตรียมความพร้อมสำหรับงานสำคัญที่อาจเกิดขึ้นที่สถานีรถไฟ” เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าว  รถไฟ 2 ขบวนที่ส่วนใหญ่บรรทุกสินค้าวิ่งผ่านสถานีนี้ทุกวันทั้งเที่ยวไปและกลับจากจีน แม้เวียดนามและจีนจะมีช่วงกว้างของรางรถไฟต่างกัน แต่ในเส้นทางมุ่งไปยังกรุงฮานอยจากชายแดนสามารถรองรับรถไฟจีนได้ อย่างไรก็ตาม คิม จอง อึน มักเดินทางด้วยรถไฟหุ้มเกราะน้ำหนักมากของตัวเอง ที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับเครือข่ายรางรถไฟสมัยอาณานิคมที่ล้าสมัยของเวียดนาม และกระทรวงคมนาคมเวียดนามระบุว่าในปีนี้มีอุบัติเหตุรถไฟตกรางในประเทศแล้ว 4 ครั้ง. ———————————————————— ที่มา : MGR Online / 21 กุมภาพันธ์ 2562…

อังกฤษจัดเซฟต์เฮาส์ให้“ควีนเอลิซาเบธ”รับจลาจลจากเบร็กซิท

Loading

ในฐานะองค์ประมุขประเทศ สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงวางพระองค์เป็นกลางในทางการเมือง และมักไม่แสดงความคิดเห็นส่วนพระองค์ในประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคม สื่อชั้นนำอังกฤษสองแห่ง เผยแผนฉุกเฉินของรัฐบาล หากเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศจากกรณีเบร็กซิทไร้ข้อตกลงในเดือนหน้า ด้วยการประกาศใช้แผนฉุกเฉินช่วงสงครามเย็นอพยพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 ตลอดจนเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ให้แปรพระราชฐานไปประทับยังเซฟเฮาส์นอกกรุงลอนดอน “แผนอพยพฉุกเฉินนี้ถูกกำหนดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น แต่ตอนนี้ได้มีการนำกลับมาใช้ใหม่หากเกิดความไม่สงบ หรือเกิดจลาจลในประเทศจากกรณีของเบร็กซิทที่ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้”ซันเดย์ไทม์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งบริหารจัดการเกี่ยวกับปัญหาละเอียดอ่อน ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะ เมล สื่อสิ่งพิมพ์ชื่อดังอีกฉบับของอังกฤษ รายงานตรงกันว่า รัฐบาลมีแผนที่จะให้บรรดาเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ รวมถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 แปรพระราชฐานไปประทับที่อื่นเช่นกัน เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2แห่งสหราชอาณาจักร มีพระราชดำรัสเรียกร้องให้ประชาชนแสวงหาความเห็นพ้องต้องกันที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และคารพ ความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งบรรดาผู้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่าพระราชดำรัสครั้งนี้ สื่อถึงประเด็นร้อนของประเทศคือการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (เบร็กซิท) ซึ่ง ส.ส.จะต้องลงมติในข้อตกลงเบร็กซิทของนายกรัฐมนตรีเทรีซา เมย์ ทั้งนี้ ในฐานะองค์ประมุข สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงวางพระองค์เป็นกลางในทางการเมือง และมักไม่แสดงความคิดเห็นส่วนพระองค์ในประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคม แต่พระราชดำรัสครั้งล่าสุดในงานฉลองครบรอบ 100 ปีขององค์กรสตรีซานดริงแฮม ในมณฑลนอร์ฟอล์ก สมเด็จพระราชินีนาถฯ ตรัสว่าการยึดถือความอดทนอดกลั้น มิตรภาพ การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และการคำนึงถึงความต้องการของผู้อื่น ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต —————————————————– ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ / 4 กุมภาพันธ์…

อียูเตือนประเทศสมาชิกเรื่องการออกหนังสือเดินทางวีไอพี หวั่นปัญหาฟอกเงิน

Loading

สหภาพยุโรปเรียกร้องให้ประเทศต่างๆในกลุ่ม ที่มีโครงการออกหนังสือเดินทางวีไอพี เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจประวัติ เพราะอาจเป็นช่องการการกระทำผิดด้านภาษีและการฟอกเงินได้ นอกจากนั้นอาจเป็นช่องโหว่งเรื่องความมั่นคงปลอดภัยด้วย ข้อมูลจากหน่วยงาน Transparency International และ Global Witness ชี้ว่า ประเทศในกลุ่มอียู ออกหนังสือเดินทางพิเศษและวีซ่าพิเศษให้กับชาวต่างชาติที่ร่ำรวยทั่วโลกมาแล้ว 1 แสนรายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และสามารถดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากชาวต่างชาติได้ประมาณ 25,000 ล้านยูโร คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวในรายงานว่า การออกเอกสารพิเศษเหล่านี้เปิดทางให้คนได้สัญชาติหรือสิทธิ์พำนักถาวรในประทเศทั้งหมด 28 แห่งของกลุ่มอียู บัลกาเรีย มอลต้า และไซปรัส ออกหนังสือเดินทางพิเศษให้กับนักลงทุน ที่ลงทุนระหว่าง 8 แสน ถึง 2 ล้านยูโร สามประเทศดังกล่าวเป็นตัวอย่างของประเทศกลุ่มอียู 20 แห่ง ที่ให้สิทธิ์พำนักพิเศษ แลกกับเงินลงทุน —————————————————– ที่มา : VOA Thai / มกราคม 24, 2019 Link : https://www.voathai.com/a/business-news-ro-23jan19/4756618.html

จนท.สนามบินสหรัฐฯสะเพร่าปล่อยผู้โดยสารพกปืนขึ้นเครื่อง แต่แจงไม่เกี่ยวชัตดาวน์

Loading

ซีเอ็นเอ็น – นักเดินทางคนหนึ่งพกปืนผ่านมาตรการคัดกรอง โดยสารเครื่องบินลำหนึ่งจากท่าอากาศยานฮาร์ทสฟิลด์-แจ็คสัน ในแอตแลนตา มุ่งหน้าสู่สนามบินนาริตะ เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ตามถ้อยแถลงของสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งสหรัฐฯในวันจันทร์(14ม.ค.) แต่ทางหน่วยงานแห่งนี้ยืนยันข้อบกพร่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับภาวะชัตดาวน์ เดลต้า แอร์ไลน์ส ก็ออกถ้อยแถลงถึงซีเอ็นเอ็นเช่นกัน ด้วยระบุว่าทางสายการบินได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปยังสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งสหรัฐฯแล้ว เหตุละเมิดมาตรการรักษาความปลอดภัยครั้งนี้มีขึ้น 2 สัปดาห์หลังหน่วยงานต่างๆของรัฐบาลเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ โดยระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ของ TSA ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแต่ไม่ได้รับค่าจ้าง ทั้งนี้ซีเอ็นเอ็นรายงานเหตุการณ์นี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มกราคม หรือ 1 วันหลังเกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของ TSA หลายร้อยคนตามท่าอากาศยานหลักต่างๆอย่างน้อย 4 แห่งโทรมาลาป่วย อย่างไรก็ตามทาง TSA ปฏิเสธข้อสันนิษฐานว่าภาวะชัตดาวน์เป็นตัวก่อให้เกิดข้อผิดพลาดด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยและยืนยันว่าจำนวนของเจ้าหน้าที่ TSA ที่ปฏิบัติงานในวันนั้นอยู่ในระดับปกติ “ข้อสันนิษฐานที่ว่าเรื่องนี้อาจเป็นผลจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนนั้นไม่ถูกต้อง” TSA “อัตราการลาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าของเจ้าหน้าที่ TSA ในวันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม 2019 นั้น มีเพียง 4.8% น้อยกว่าระดับ 6.8%ของวันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม 2014 ดังนั้นข้อเท็จจริงคืออัตราการลาของปีที่แล้วสูงกว่าปีนี้เสียอีก” สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งสหรัฐฯ(TSA)…