เคล็ดลับความสำเร็จของ Phishing Attack และวิธีการป้องกันตัว

Loading

จะเห็นได้ว่าข่าวภัยคุกคามในปัจจุบันจำนวนมากได้เริ่มต้นจากการหลอกล่อผู้ใช้งานก่อนเป็นอันดับแรก วันนี้เราจึงขอสรุปวิธีการของ Phishing Attack ซึ่งเป็นการโจมตีที่ไม่มีเครื่องมือใดป้องกันได้ 100% นอกจากนี้ยังมีวิธีการป้องกันตัวให้ผู้อ่านได้เข้าใจและสามารถแนะนำคนรอบข้างได้ ผู้ร้ายได้ข้อมูลจากเหยื่อมาด้วยความเต็มใจ เทคนิคที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมมากในการหลอกลวงคือการใช้ Spear Phishing โดยแฮ็กเกอร์มีข้อมูลของเหยื่อและทำการหลอกล่อบางอย่างเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อยอมให้ข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม มีผลวิจัยพบว่าในรอบ 12 ปีที่ผ่านมาเทคนิคนี้ถูกใช้เพิ่มขึ้นถึง 5,753% นอกจากนี้เทคนิคอื่นๆ ที่สามารถได้รับข้อมูลของเหยื่อเช่น Pretexting หรือการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เหยื่อหลงเช่น ปลอมตัวเป็นคนมาทำผลสำรวจ เจ้าหน้าที่จากสรรพากรหรืออื่นๆ วิธีการ Dumpster Diving หรือการหาข้อมูลเอกสารจากถังขยะของเหยื่อก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ผู้ร้ายเก็บข้อมูลลูกจ้างในองค์กรได้อย่างไร ก่อนที่จะเจาะจงเหยื่อภายในองค์กรได้สักคนต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่อก่อน ดังนั้นวิธีการหาข้อมูลว่าใครทำงานในองค์กรดังกล่าวมีหลายวิธีดังนี้ Social Media เช่น Facebook หรือ LinkedIn และอื่นๆ โดยข้อมูลพื้นฐานที่จะได้คือ ที่ทำงานในอดีต การศึกษา ข้อมูลครอบครัว การคอมเม้นและลิ้งที่เข้าไป วันที่และเหตุการณ์สำคัญในชีวิต สิ่งที่ชอบ สถานที่ๆ เคยไป รูปภาพ และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอื่นที่ผู้ร้ายสามารถวิเคราะห์ได้เช่น การโพสต์ว่าเหยื่อน่าจะนอนหรืออยู่ในเวลาไหน สถานการณ์ของความสัมพันธ์ แนวความคิด หรือเป็นคนอย่างไรเพื่อหาเทคนิคหลอกล่อต่อไป Search Engine มีฐานข้อมูลในการค้นหาคนอย่างเช่น Pipl, Spoken และ ZabaSearch โดยไซต์เหล่านี้ได้รวบรวมโปรไฟล์ของคนจากหลายๆ แหล่งเอาไว้…

จัดระเบียบเข้ม! สายการบินอเมริกันลงดาบ ‘กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ’

Loading

  กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะอาจขึ้นเครื่องบินไม่ได้ ถ้าไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออก ในภาพเป็นกระเป๋าเดินทางอัจฉริยะแบรนด์ Bluesmart ที่มีแหล่งพลังงานสำรองให้เจ้าของชาร์จอุปกรณ์ได้ ไม่แน่ ปีหน้าโลกอาจได้เห็นการปูพรมประกาศห้ามใช้ ‘กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ’ หรือ smart bag ที่สามารถเคลื่อนตัวเองตามเจ้าของกระเป๋าได้ ล่าสุดสายการบินอเมริกันเดินหน้าประกาศกฏควบคุมการใช้ เนื่องจากกระเป๋าเหล่านี้มีแบตเตอรี่ในตัว อาจเป็นอันตรายหากนำขึ้นเครื่องบิน กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะหรือที่บางสื่อเรียกว่า smart luggage นั้นกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายเดือนที่ผ่านมา คาดว่าจะเป็นของขวัญที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ (American Airlines) หรือ AAL มองว่าการที่ smart bag เหล่านี้มักมีแหล่งพลังงานสำรองให้เจ้าของชาร์จอุปกรณ์ได้ อาจเป็นความเสี่ยงให้เกิดเหตุร้ายหากมีการนำกระเป๋าขึ้นเครื่อง นอกจากจะมีพอร์ต USB ติดพาวเวอร์แบงก์ที่บรรจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนไว้ภายใน กระเป๋าอัจฉริยะหลายรุ่นยังมีระบบ GPS เพื่อติดตามตำแหน่งกระเป๋าสำหรับป้องกันกระเป๋าสูญหาย ที่น่าสนใจคือระบบล็อกไฟฟ้า รวมถึงระบบแสดงน้ำหนักอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกปรับเงินเพราะน้ำหนักสัมภาระเกิน กระเป๋าอัจฉริยะบางรุ่นยังมีเครื่องยนต์ขับเคลื่อน ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้นั่งบนกระเป๋าสไตล์สกูตเตอร์ ขณะที่บางรุ่นมีเฉพาะระบบขับเคลื่อนตัวเอง เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องเหนื่อยกับการลากกระเป๋าทั่วสนามบิน ความอัจฉริยะเหล่านี้ไม่ใช่พิษภัย แต่เพราะแบตเตอรี่ภายในทำให้บริษัทสายการบินกังวลว่าแบตเตอรี่อาจเสี่ยงระเบิดขณะถูกเก็บใต้ท้องเครื่องบิน ทำให้สายการบินเริ่มหาทางบังคับผู้ใช้ให้ต้องถอดแบตเตอรี่ออกจากกระเป๋าแล้วพกพาขึ้นเครื่องบินด้วยตัวเอง แม้ว่ากระเป๋าอัจฉริยะส่วนใหญ่ จะไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออก AAL ถือเป็นสายการบินแรกที่ประกาศขอตรวจสอบกระเป๋าอัจฉริยะของผู้โดยสาร ซึ่งผู้โดยสารจะต้องนำแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนออกจากกระเป๋า และจะถูกห้ามใช้งานตลอดการเดินทาง ล่าสุด สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์…

สหรัฐฯ ผลักดันระบบคนเข้าเมืองเเบบเน้น ‘คุณสมบัติ’ เเทนระบบครอบครัว

Loading

ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีนโยบายที่บรรดานักวิจารณ์เรียกว่า “การย้ายถิ่นระบบห่วงโซ่” หรือ chain immigration เเต่คนที่เห็นด้วยเรียกว่า “การย้ายถิ่นระบบครอบครัว” หรือ family-based immigration ระบบคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับระบบสนับสนุนหรือ sponsorship ที่ผู้ถือสัญชาติอเมริกันเเละผู้มีสิทธิ์อาศัยอยู่ถาวรอย่างถูกกฏหมาย หรือผู้ถือใบเขียว สามารถสนับสนุนให้ญาติของตนจากประเทศบ้านเกิด ย้ายเข้ามาอาศัยในสหรัฐฯ ได้ คู่สมรสเเละบุตรที่ยังอายุไม่ครบวัยเบญจเพศตามกฏหมาย มีสิทธิ์ในการสมัครในฐานะสมาชิกครอบครัวที่ใกล้ชิด เเละไม่จำเป็นต้องรอให้ได้หมายเลขวีซ่าเสียก่อน และสำหรับสมาชิกครอบครัวในกลุ่มนี้ ไม่มีการจำกัดจำนวนโควต้าว่าได้กี่คน โดยผู้ถือสัญชาติเพียงเเค่ยื่นใบสมัครเพื่อร้องขอเท่านั้น เเต่สำหรับสมาชิกครอบครัวในฐานะพี่ชายหรือน้องชาย พี่สาวหรือน้องสาว เเละบุตรที่โตเป็นผู้ใหญ่เเล้ว ขั้นตอนการพิจารณาอาจจะนานกว่าเเละยากมากขึ้น Naomi Tsu รองประธานด้านกฏหมายแห่ง Southern Poverty Law Center กล่าวว่า การขอวีซ่าย้ายมาอยู่สหรัฐฯ ให้กับพี่น้อง เป็นเรื่องยากมาก เพราะถือว่าเป็นสมาชิกครอบครัวอันดับท้ายๆ เเละจะยากขึ้นไปอีกหากเป็นประชาชนจากประเทศที่มีคนย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยูในสหรัฐฯ เป็นจำนวนมากเเล้ว Stephen Lee อาจารย์ด้านกฏหมายคนเข้าเมืองเเละการจัดการ ที่มหาวิทยาลัยเเคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ กล่าวกับรายการวิทยุเอ็นพีอาร์ว่า มีหลายกรณีที่ญาติอาจถูกตัดสิทธิ์ เขายกตัวอย่างว่า หากผู้สมัครเป็นผู้ก่อการร้าย เเม้ว่าจะเป็นคู่สมรสของผู้ถือสัญชาติ ก็ไม่มีสิทธิ์ย้ายเข้ามาอยู่ในสหรัฐฯ…

ศาลสหรัฐฯไฟเขียวห้ามมุสลิม 6 ชาติเข้าประเทศ

Loading

The Supreme Court ruled in favor of Mr Trump’s controversial travel ban, delivering a victory to the President AP ศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำสั่งอนุญาตให้บังคับใช้มาตรการแบนคนจากชาติมุสลิม6ประเทศ ได้อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าจะอยู่ระหว่างรอพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ วันนี้ (5 ธ.ค.60) ศาลสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา มีคำตัดสินว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถบังคับใช้คำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแก้ไข ที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบหรือห้ามนักเดินทางจาก 6 ชาติมุสลิมและอีก 2 ประเทศ เดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่ากำลังอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ก็ตาม ซึ่งมาตรการนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีได้ผลักดันมาตรการป้องกันผู้ก่อการร้ายเดินทางเข้าประเทศมานานเกือบ 1 ปี ท่ามกลางเสียงคัดค้าน กล่าวหาว่า มาตรการของเขามุ่งเป้าไปที่ชาวมุสลิม, ละเมิดรัฐธรรมนูญ และไม่ได้ส่งเสริมความมั่นคงตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ทำให้มาตรการฉบับที่ 3 ซึ่งนายทรัมป์ประกาศใช้แทนคำสั่งฉบับที่ 2 ที่หมดอายุเมื่อเดือนกันยายน ได้เพิ่มเวเนซุเอลา และเกาหลีเหนือเข้ามาด้วย เพื่อลดข้อครหา ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยได้ยื่นฟ้องร้องคัดค้านทันที ที่ศาลในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย และนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตัดสินเมื่อเดือนตุลาคม ให้หยุดการบังคับใช้มาตรการห้ามนักเดินทางจากประเทศ ชาด, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซีเรีย และเยเมน ในระหว่างที่กำลังมีการฟ้องร้องทางกฎหมาย แต่ล่าสุด ศาลสูงสุดสหรัฐฯ กลับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ 2 ศาลแล้ว โดยศาลสูงสุดตัดสินใจอนุญาตให้บังคับใช้คำสั่งของประธานาธิบดีในทันที เพื่อจำกัดการเดินทางของคนจากประเทศที่มีความเสี่ยงก่อการร้ายสูง ————————————————————– ที่มา : TNN24 / 5 ธ.ค. 60, 11.59 น. Link :  http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=155744&t=news

เตือน 66% ของแอป Cryptocurrency ยอดนิยมบน Android ไม่เข้ารหัสข้อมูล

Loading

จากการที่กระแสงเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency เริ่มบูมมากขึ้น ส่งผลให้มีแอปพลิเคชันสำหรับแลกเปลี่ยนหรือทำธุรกรรมโดยใช้ Cryptocurrency เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชันเหล่านี้ยังขาดการออกแบบให้มีความมั่นคงปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสข้อมูล High-Tech Bridge บริษัทที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศชื่อดัง ได้ออกมาแจ้งเตือนถึงภัยคุกคามบนแอปพลิเคชัน Cryptocurrency ซึ่งนอกจากจะพบว่ามีแฮ็กเกอร์สร้างแอปพลิเคชันปลอมเพื่อหลอกขโมยชื่อบัญชีและรหัสผ่านของผู้ใช้แล้ว ยังแอปพลิคเชันแท้ส่วนใหญ่ยังขาดการพัฒนาให้มีความมั่นคงปลอดภัย ส่งผลให้อาจถูกแฮ็กเกอร์ขโมยข้อมูลสำคัญออกไปได้ High-Tech Bridge ใช้ Mobile X-Ray ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับวิเคราะห์แอปพลิเคชันบนอุปกรณพกพาที่พัฒนาขึ้นมาเอง ในการสำรวจแอปพลิเคชัน Crytocurrency ยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันสำหรับติดตามค่าเงิน แลกเปลี่ยนเงินตรา หรือ Wallet จำนวนรวม 90 แอป พบสถิติที่น่าสนใจ ดังนี้ ร้อยละ 94 ใช้การเข้ารหัสข้อมูลแบบเก่าที่ไม่แนะนำให้ใช้กันแล้ว ร้อยละ 66 ไม่ได้ใช้ HTTPS ในการเข้ารหัสข้อมูลที่รับส่งกับภายนอก ร้อยละ 44 มีการ Hard Code รหัสผ่านลงไปในโค้ดของแอปพลิเคชันเลย ร้อยละ 94 ของแอปพลิเคชันมีความเสี่ยงระดับปานกลางหรือสูงกว่ามากกว่า 3 รายการ…

อินโดนีเซียเตือนภัย “ภูเขาไฟอากุง” อาจระเบิดบนเกาะบาหลี

Loading

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียและประเทศใกล้เคียงมีคำเตือนไปยังสายการบินต่างๆ ที่จะเดินทางผ่านภูเขาไฟอากุง (Agung) บนเกาะบาหลี หลังจากภูเขาไฟแห่งนี้ปล่อยควันไฟและเถ้าถ่านสูงกว่า 6,000 เมตร ทางการอินโดฯ ได้เพิ่มระดับการเตือนภัยของภูเขาไฟอากุงเป็น “ระดับสีแดง” ซึ่งเป็นระดับสูงสุด แต่สนามบินนานาชาติของบาหลียังคงเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม สายการบินบางแห่ง รวมทั้ง AirAsia Garuda และ Virgin Australia ต่างประกาศยกเลิกเที่ยวบินที่เข้าและออกจากเกาะบาหลี ตั้งแต่วันอาทิตย์ โดยผู้โดยสารสามารถขอค่าตั๋วคืนได้ตามระเบียบข้อบังคับของแต่ละสายการบิน เกาะบาหลีคือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอินโดนีเซีย แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะแห่งนี้เกือบ 5 ล้านคน แต่ธุรกิจต่างๆ เริ่มซบเซาตั้งแต่เดือนกันยายน เมื่อภูเขาไฟอากุงเริ่มการปะทุรอบใหม่ ———————————————————- ที่มา : VOA Thai / พฤศจิกายน 27, 2017 Link : https://www.voathai.com/a/indonesia-bali-volcano-tourism/4137323.html