คาร์บอมบ์สนั่น “อิสตันบูล” ดับ 11 เจ็บ 36 พุ่งเป้าโจมตีรถรับส่ง ตร.ปราบจลาจล ปธน.ชี้น่าจะเป็นฝีมือกบฏเคิร์ด

Loading

      เอเจนซีส์ – เกิดเหตุคาร์บอมบ์โจมตีรถรับส่งตำรวจปราบจลาจลตุรกีในเมืองอิสตันบูลช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าวันอังคาร (7 มิ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และบาดเจ็บอีก 36 คน โดยบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้ๆ กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ, มหาวิทยาลัยใหญ่ และสำนักงานนายกเทศมนตรี ภายหลังเหตุร้ายคราวนี้ผ่านพ้นไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบ ขณะที่สื่อภาครัฐรายงานว่าตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเอาไว้ 4 คน      วาซิป ซาฮิน ผู้ว่าการนครอิสตันบูล เผยว่า คนร้ายกดรีโมตจุดชนวนระเบิดที่ซ่อนอยู่ในรถซึ่งจอดอยู่ขณะที่รถรับส่งตำรวจขับผ่าน เหตุร้ายคราวนี้ถือเป็นเหตุระเบิดรุนแรงครั้งที่ 4 ที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ที่สุดในตุรกีแห่งนี้ในรอบปีนี้ และแม้ยังไม่มีบุคคลหรือกลุ่มใดออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดได้ก่อการโจมตีในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงเมื่อเดือนที่แล้วในเมืองอิสตันบูลนี้เช่นเดียวกัน      ซาฮินเสริมว่า ระเบิดที่มุ่งโจมตีรถรับส่งตำรวจปราบจลาจลนั้นส่งผลให้ตำรวจ 7 นาย และพลเรือน 4 คน เสียชีวิต นอกจากนั้น ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บ 36 คน มี 3 คนอาการสาหัส      เหตุโจมตีนี้เกิดขึ้นในเขตเวซเนซิเลอร์ ระหว่างสำนักงาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานเทศบาลหลายแห่ง…

‘อัล-ชาบับ’ โจมตีโรงแรมในเมืองหลวงโซมาเลีย ดับ 10 จับตัวประกันหลายคน

Loading

     กลุ่มติดอาวุธ อัล-ชาบับ ในโซมาเลีย บุกโจมตีโรงแรมในกรุงโมกาดิชู เมื่อวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย และยังปักหลักอยู่ภายในอาคาร โดยจับตัวประกันไว้หลายคนด้วย…      สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักรบของกลุ่มติดอาวุธ อัล-ชาบับ ในโซมาเลีย ก่อเหตุบุกโจมตีโรงแรม ‘Ambassador’ ในเมืองหลวง กรุงโมกาดิชู ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐและนักธุรกิจมักเดินทางมาพัก เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ผ่านมา สังหารผู้คนอย่างน้อย 10 ราย และจับตัวประกันเอาไว้จำนวนหนึ่ง      การโจมตีเริ่มขึ้นด้วยระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตาย ที่ประตูหน้าของโรงแรม ก่อนที่นักรบจำนวนหนึ่งจะบุกเข้าไปภายในอาคาร โดยร้อยโท มูฮัมเหม็ด ฮุสเซน ตำรวจโซมาเลีย เปิดเผยว่า สมาชิกสภา 2 คนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วย และจนถึงตอนนี้สถานการณ์ที่โรงแรมยังไม่คลี่คลาย ยังมีนักรบอัล-ชาบับอีก 2 คนอยู่ภายในโรงแรม      ตอนนี้โรงแรมกำลังถูกโอบล้อมด้วย ทหารติดอาวุธหนักมากมาย โดยพวกเขาใช้จรวดอาร์พีจี และปืนกลติดรถกระบะในการต่อสู้กับนักรบติดอาวุธซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรม     …

ตำรวจปราบจลาจลเคนยา ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงกรรมการเลือกตั้ง

Loading

     เมื่อ 23 พ.ค.59 ตำรวจเคนยาทำการปราบปรามชาวเคนยาที่รวมตัวกันประท้วงคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งตามเมืองต่าง ๆ โดยกำลังตำรวจปราบจลาจลเคนยาทำการปราบปรามด้วยการใช้แก๊ซน้ำตาและฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ประท้วง ทางการเคนยาอ้างว่า การประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แหล่งข่าวท้องถิ่นรายงานว่า กำลังตำรวจทำการปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรง โดยใช้กำลังทำร้ายและยิงด้วยกระสุน      ทางการเคนยากล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คนจากเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจที่เมือง 2 แห่งทางตะวันตกของเคนยา เมื่อวานนี้ โดย 2 คนเสียชีวิตหลังถูกยิงบาดเจ็บที่เมืองซิอายา และอีกคนเสียชีวิตจากการถูกยิงเช่นเดียวกันที่เมืองคิซุมุ ตำรวจปราบจลาจลกล่าวว่า จำเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัว และตำรวจบาดเจ็บ 7 นาย การประท้วงซึ่งดำเนินมา 4 สัปดาห์แล้ว จัดขึ้นโดยพรรคซีโออาร์ดีซึ่งเป็นฝ่ายค้าน เพื่อต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค คือนายไรลา โอดิงกา ———————————————— ที่มา : Voice of America / 23 พ.ค.59

ตำรวจอังกฤษออกแถลงการขอโทษกรณีมีการใช้ภาษาอาหรับสรรเสริญพระเจ้าขณะซ้อมแผนเผชิญเหตุ

Loading

     เมื่อ 10 พ.ค.59 ทางการตำรวจอังกฤษออกแถลงการขอโทษจากกรณีมีการใช้ภาษาอาหรับสรรเสริญพระเจ้า ขณะทำการฝึกซ้อมเผชิญเหตุร้ายในเมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ ทางการเมืองแมนเชสเตอร์กำหนดทำการฝึกเผชิญภัยเป็นเวลา 3 วัน โดยมีอาสาสมัครจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยดับเพลิง หน่วยกู้ภัย และหน่วยรถกู้ฃีพประจำภาคตะวันตกเหนือ จำนวน 800 คน ทั้งนี้กำหนดแผนการฝึกซ้อมเผชิญเหตุการระเบิดแบบพลีชีพที่เกิดขึ้นในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ —————————————— ที่มา : ABC News Radio | May 10, 2016

เนเธอร์แลนด์ปิดสนามบิน เร่งอพยพผู้โดยสาร

Loading

ตำรวจเนเธอร์แลนด์ปิดสนามบินในอัมสเตอร์ดัม เร่งอพยพผู้โดยสาร พร้อมจับผู้ต้องสงสัย 1 คน      วันนี้ (13 เม.ย.59) ตำรวจเนเธอร์แลนด์ปิดพื้นที่บางส่วนของสนามบินสคิปโฮล ในนครอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ โดยพื้นที่ที่ถูกปิด เป็นบริเวณที่เรียกว่า สคิปโฮล พลาซ่า ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งและที่ตั้งร้านค้าต่างๆ ในสนามบิน อยู่ใกล้กับทางเข้าของสนามบินสคิปโฮล ตำรวจห้ามคนเข้าออกพื้นที่ส่วนนี้ และอพยพผู้โดยสารทั้งหมดออกจากพื้นที่ดังกล่าว และจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ใกล้กับทางเข้าสนามบินสคิปโฮล หลังจากสงสัยว่า มีวัตถุอันตรายอยู่ในกระเป๋าเดินทางของเขา      จากนั้นตำรวจใช้หุ่นยนต์ตรวจระเบิด เข้าตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง 1 ใบของผู้ต้องสงสัย ที่ถูกทิ้งไว้อยู่กลางถนนใกล้กับทางเข้าสนามบิน อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจค้น ไม่พบว่ามีวัตถุอันตรายอยู่ในกระเป๋าแต่อย่างใด      ส่วนตำรวจเนเธอร์แลนด์ติดอาวุธครบมืออีกส่วนหนึ่ง ได้ยืนรักษาการณ์อยู่บนถนนใกล้กับโรงแรมเชอราตั้น อัมสเตอร์ดัม แอร์พอร์ท ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้กับทางเข้าสนามบินสคิปโฮลด้วย หลังการตรวจค้น ตำรวจยืนยันว่า ไม่มีวัตถุอันตรายใดๆ ที่สนามบินสคิปโฮล และประกาศว่า การตรวจค้นได้ยุติลงแล้ว และสถานการณ์ที่สนามบินสคิปโฮล กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้วในวันนี้ รวมเวลาที่ปิดสนามบินไปประมาณเกือบ 4 ชั่วโมง      อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเที่ยวบินที่สนามบินสคิปโฮลแต่อย่างใด ——————————— ที่มา : TNN Thailand วันที่ 13 เมษายน 2559 Link : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=96992&t=news

ญี่ปุ่นบังคับใช้กม.ความมั่นคง จีน เกาหลีเตือนอย่าลืมประวัติศาสตร์

Loading

     กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติชุดใหม่ของญี่ปุ่นมีผลบังคับใช้แล้ว หลังจากผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว ขณะที่เพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีใต้เตือนญี่ปุ่นอย่าลืมคำมั่นในการรักษาสันติภาพ      ชุดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาตินี้จะอนุญาตให้ญี่ปุ่นใช้กองกำลังป้องกันตนเองในการใช้สิทธิ์ในการป้องกันตนเองร่วมกัน โดยญี่ปุ่นจะสามารถปกป้องประเทศอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดหากความอยู่รอดของญี่ปุ่นถูกคุกคาม      นอกจากนี้ กองกำลังป้องกันตนเองซึ่งปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติจะสามารถใช้อาวุธของตนเองได้ เพื่อช่วยเหลือกองกำลังต่างชาติที่ถูกกลุ่มติดอาวุธโจมตี      สถานีโทรทัศน์ NHK ยกตัวอย่าง “ปฏิบัติการในซูดานใต้” ที่กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นปฏิบัติงานร่วมกับสหประชาชาติ โดยสมมุติว่าเกิดมีกองกำลังบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ      ก่อนหน้าที่จะมีกฏหมายชุดนี้ กองกำลังของญี่ปุ่นสามารถใช้อาวุธได้เฉพาะการป้องกันตัวเท่านั้น แต่ถ้าการโจมตีเกิดขึ้นนอกบริเวณที่กองกำลังของญี่ปุ่นปฏิบัติงานอยู่ พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธช่วยกองกำลังประเทศอื่น แต่ตามกฏหมายชุดใหม่นี้ เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นสามารถรีบรุดไปยังพื้นที่เกิดเหตุและช่วยเหลือพันธมิตรได้      กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติชุดใหม่นี้นับเป็นกฎหมายที่สร้างความขัดแย้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ อ้างว่ากฎหมายนี้มีความจำเป็นต่อการเป็นพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ และเพื่อรับมือกับการขยายอิทธิพลของประเทศจีน      หากแต่พรรคฝ่ายค้าน,นักวิชาการ และประชาชนจำนวนมากคัดค้านกฎหมายนี้ โดยระบุว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอาจนำไปสู่การเสริมสร้างกองทัพญี่ปุ่น จนถูกเรียกว่าเป็น “กฎหมายสงคราม”      อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของนายอะเบะสามารถผลักดันกฎหมายจนผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาได้อย่างทุลักทุเล ท่ามกลางการประท้วงวุ่นวายทั้งภายในรัฐสภาและสังคมวงกว้าง จีน เกาหลีจับตาญี่ปุ่นขยายบทบาทกองทัพ  …