พบประตูลับในสภาแดนผู้ดี เปิดไปเจอทางเดินอายุกว่า 300 ปี ตะลึงหลอดไฟยังเปิดติด

Loading

ภาพทางเข้าที่ถูกค้นพบในสภาสามัญของสหราชอาณาจักร (ภาพจาก AFP) นักประวัติศาสตร์ค้นพบประตูลับที่นำไปสู่ทางเดินในอาคารสภาสามัญ เชื่อว่าเคยมีนายกรัฐมนตรีและกลุ่มทางการเมืองเป็นผู้ใช้งาน โดยทีมค้นพบขณะกำลังบูรณะตัวอาคาร คาดว่าเป็นทางเดินที่มีอายุราว 360 ปีเลยทีเดียว รายงานจากสำนักข่าวบีบีซีอ้างอิงข้อมูลในการแถลงจากเว็บไซต์สภาแห่งสหราชอาณาจักรเปิดเผยเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ทางเดินนี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลสที่ 2 ในค.ศ. 1660 เพื่อให้แขกเดินทางเข้างานเลี้ยงในเวสต์มินสเตอร์ ฮอลล์ ซึ่งตั้งอยู่ข้างโถงสภาสามัญที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เดิมทีแล้วทางเดินนี้ถูกใช้โดยสมาชิกสภาและนักการเมืองในฐานะทางเข้าหลักมาสู่สภาแต่ภายหลังถูกปิดและถูกผนังหนาปิดทับอีกชั้น ผู้ใช้งานซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเวลานั้น อาทิ Samuel Pepys สมาชิกสภาที่โด่งดังจากบันทึกที่เขาเก็บไว้ ทางเดินนี้เคยถูกค้นพบเมื่อปี 1950 ขณะบูรณะอาคารซึ่งได้รับความเสียหายจากระเบิด หลังจากนั้นทางเดินก็ถูกปิดอีกครั้งจนมาถึงปัจจุบัน มาร์ก คอลลินส์ นักประวัติศาสตร์ที่ศึกษาด้านทรัพย์สินของรัฐสภากล่าวว่า พวกเขาเคยคิดว่าทางเดินถูกผนังปิดทับไปแล้วหลังจากยุคสงคราม ขณะที่ลิซ ฮาลลัม สมิธ ที่ปรึกษาด้านสถาปัตยกรรมและมรดกรัฐสภา ชี้ว่า การค้นพบล่าสุดทำให้เห็นว่า รัฐสภายังมีปริศนารอคอยการค้นพบอีกมาก ภายในทางเดินยังพบกราฟฟิตีเป็นอักษรที่น่าจะเขียนขึ้นด้วยดินสอโดยบุคคลที่เป็นผู้ปิดทางเดินทั้งสองฝั่ง อักษรช่วงหนึ่งจารึกไว้ว่า “ห้องนี้ถูกปิดโดยทอม พอร์เตอร์ ผู้ซึ่งนิยมชมชอบในเอล(เครื่องดื่ม)เก่าๆ เป็นอย่างมาก”  ทีมยังพบสิ่งน่าประหลาดใจอีกอย่างคือ หลอดไฟที่น่าจะติดตั้งไว้ตั้งแต่ยุค 50s ยังใช้งานได้อยู่ หลอดไฟขนาดใหญ่มีจารึกสีทองข้อความว่า “ทรัพย์สินของรัฐบาล” (HM Government Property) ดร. คอลลินส์ ยังเผยว่า ทีมศึกษาสนใจค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาที่ไปของหลอดไฟอันแสนทนทานนี้ด้วย…

ระทึก!! ไฟไหม้ตึกสูงระฟ้า 33 ชั้นใน “เกาหลีใต้” ไหม้ตั้งแต่เมื่อคืนมาจนถึงเช้า มีไม่ต่ำกว่า 91 คน ถูกหามส่ง รพ.

Loading

เอเจนซีส์ – เกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์สูง 33 ชั้น ในเมืองอุลซาน (Ulsan) ของเกาหลีใต้ โดยเพลิงได้เริ่มต้นในเวลา 23.00 น.ของวานนี้ (8 ต.ค.) และยังคงไหม้อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเช้าวันศุกร์ (9 ต.ค.) ล่าสุด ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีจำนวน 91 คน ถูกส่งตัวโรงพยาบาล CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (9 ต.ค.) ว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่อาคารอพาร์ตเมนต์สูง 33 ชั้น ในเมืองอุลซาน (Ulsan) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ โดยไฟเริ่มไหม้ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวานนี้ (8 ต.ค.) และเพลิงยังคงไหม้ต่อเนื่องตลอดทั้งช่วงเช้าวันศุกร์ (9) เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ภาพข่าวแสดงให้เห็นถึงลูกไฟสีแดงฉานลามอยู่ด้านบนของอาคารและเปลวไฟโชนลุกขึ้นสู่ฟ้าที่ยังคงมืดมิด ส่วนถนนด้านล่างเต็มไปด้วยเศษซากที่ติดเขม่าดำกระจายไปทั่วท้องถนน พบว่า มีคนจำนวน 77 คน ได้รับการอพยพให้ออกมาจากอาคาร และอีกจำนวน 82 คน ถูกอพยพจากโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง อ้างอิงจากกระทรวงมหาดไทยและความปลอดภัยเกาหลีใต้ ซึ่งล่าสุดไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีจำนวน…

คีร์กีซสถานยอมยกเลิกผลเลือกตั้ง หลังปชช.ประท้วงเดือด-บุกรัฐสภา

Loading

กกต.คีร์กีซสถานประกาศยกเลิกผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาแล้ว หลังจากการเกิดประท้วงต่อต้านอย่างรุนแรง เพราะพรรคที่ได้เข้าสภามีแต่ฝ่ายรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้านเลย สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศคีร์กีซสถาน ประกาศในวันอังคารที่ 6 ต.ค. 2563 ให้ผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ หลังจากเกิดการประท้วงอย่างรุนแรงของประชาชน ถึงขั้นมีการบุกรุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา และปะทะกับตำรวจจนมีผู้บาดเจ็บถึง 700 รายและเสียชีวิต 1 ศพเป็นวัยรุ่นอายุเพียง 19 ปี การเลือกตั้งของคีร์กีซสถานกำหนดให้พรรคที่จะมีสิทธิ์เข้าร่วมในรัฐสภา ต้องได้คะแนนเสียงเลือกตั้งเกิน 7% โดยในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ มีเพียง 4 พรรคจากทั้งหมด 16 พรรค ที่ผ่านเงื่อนไขดังกล่าว และ 3 ใน 4 พรรคที่ผ่านก็มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดี ซูโรนบัย จีนเบคอฟ ขณะที่ฝ่ายค้านไม่ผ่านเลย ทำให้ในวันจันทร์ที่ 12 พรรคที่เหลือประกาศประยอมรับผลการเลือกตั้ง กล่าวหาว่ามีการซื้อเสียง ข่มขู่ผู้ใช้สิทธิ์ ในวันเดียวกัน ประชาชนกว่า 5,000 คนออกมารวมตัวกันที่จัตุรัส อาลา-ทู ในกรุงบิชเคก เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้ง โดยการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบกระทั้งช่วงค่ำ ผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ แยกตัวออกมาและพยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ตำรวจจึงใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง,…

ระทึก! ‘ทรัมป์’ เผ่นหนีออกจากห้องแถลงข่าว หลังเกิดเหตุยิงกันนอกทำเนียบขาว

Loading

รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถูกตำรวจอารักขาประธานาธิบดี (ซีเคร็ต เซอร์วิส) พาออกจากห้องแถลงข่าวอย่างกะทันหันเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) หลังเกิดเหตุยิงกันที่ด้านนอกทำเนียบขาว ทรัมป์ กำลังยืนบนโพเดียมและชี้แจงเรื่องตลาดหุ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสคนหนึ่งเข้ามาเบรกและเชิญเขาออกไปจากห้อง ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สตีเวน มนูชิน และผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณ รัสส์ วอต ก็ถูกพาออกจากห้องแถลงข่าวเช่นเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ เดินกลับเข้าไปที่ห้องสื่อมวลชนอีกครั้งในอีกหลายนาทีต่อมา และชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้ยิงสกัดบุคคลคนๆ หนึ่งซึ่งมีอาวุธ และนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลแล้ว “มีการยิงกันเกิดขึ้นที่ด้านนอกทำเนียบขาว และดูเหมือนจะคุมสถานการณ์ได้แล้ว” ทรัมป์ บอก “แต่มีการยิงเกิดขึ้นจริงๆ และใครบางคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผมยังไม่ทราบว่าอาการเขาเป็นอย่างไร” ทรัมป์ เผยด้วยว่า จุดที่มีการยิงกันนั้นอยู่ใกล้กับรั้วด้านนอกทำเนียบ หน่วยซีเคร็ตเซอร์วิสแถลงผ่านสื่อทวิตเตอร์ว่า “เรากำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสที่เกี่ยวข้องกับเหตุยิงกันครั้งนี้ ชายผู้ต้องสงสัยและเจ้าหน้าที่ซีเคร็ตเซอร์วิสถูกนำส่งโรงพยาบาลทั้งคู่ แต่เรายืนยันว่าไม่มีใครบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ทำเนียบขาว และไม่มีผู้ถูกอารักขาคนใดได้รับอันตราย” ประตูห้องแถลงข่าวของทำเนียบขาวถูกล็อกทันที หลังจากเจ้าหน้าที่พาตัว ทรัมป์ ออกไป ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวชื่นชมตำรวจอารักขาซึ่งปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองตนอย่างรวดเร็ว และระบุว่าทางซีเคร็ตเซอร์วิสจะแถลงรายละเอียดให้ทราบในภายหลัง ————————————————————- ที่มา : MGR Online…

พังยับ รถบรรทุกน้ำมันชนเครื่องบินแอร์บัสที่สนามบินใหญ่สุดในมอสโก

Loading

ฤกษ์ไม่ดี กลับมาบินได้วันแรก เกิดเหตุไม่คาดฝันที่สนามบินใหญ่สุดในมอสโก รถบรรทุกน้ำมันชนด้านหน้าเครื่องบินแอร์บัส สายการบินแอโรฟลอตโชคดีไร้เจ็บ เที่ยวบินระหว่างประเทศในรัสเซียเพิ่งกลับมาให้บริการวันแรกใน 4 เดือนหลังพักยาวจากวิกฤติโควิด-19 เมื่อวาน( 1 ส.ค.) ก็เจออุบัติเหตุตั้งแต่วันแรกที่สนามบิน Sheremetyevo ในกรุงมอสโก เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันชนประสานงาเครื่องบินแอร์บัส เอ 321 ของสายการบินแห่งชาติ แอโรฟลอต ขณะจอดอยู่ที่สนามบิน และกำลังตระเตรียมสำหรับเที่ยวบินไปยังเมืองโซชิ เมืองตากอากาศริมทะเลดำ ไม่มีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่บนเครื่องในเวลานั้น สนามบินนานาชาติ Sheremetyevo เป็น 1 ใน 4 สนามบินของกรุงมอสโก และมีขนาดใหญ่สุดในรัสเซีย เครื่องบินแอร์บัสและรถบรรทุกน้ำมันเสียหายด้วยกันทั้งคู่ ภาพและคลิปวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นรอยร้าวขนาดใหญ่ที่จมูกเครื่องบินราคากว่า 118 ล้านดอลลาร์ ส่วนรถบรรทุก กระจกหน้าแตกกระจาย ห้องคนขับยุบลงมาครึ่งหนึ่ง มีรายงานว่า คนขับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับต้องส่งรพ. อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่กระทบการปฏิบัติงานที่สนามบิน ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างสอบสวน —————————————————— ที่มา : คมชัดลึก / 2 สิงหาคม 2563 Link : https://www.komchadluek.net/news/foreign/438919?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_foreign

พบแล้ว! ทหารนั่งพาดเท้าบนเก้าอี้บัลลังก์ ปธ.รัฐสภา เพราะเพื่อนพาเข้า

Loading

เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สั่งสอบนายทหารนั่งเก้าอี้บนบัลลังก์ประธานรัฐสภาที่ห้องประชุมพระสุริยัน โดยมีการยกเท้าและมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม วันนี้ (14 พ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีภาพนายทหารยศร้อยเอก นายหนึ่งที่โพสต์ลงในอินสตาแกรม และเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะนั่งเก้าอี้บนบัลลังก์ประธานรัฐสภา ที่ห้องประชุมพระสุริยัน อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยมีการยกเท้า และมีท่าทางที่ไม่เหมาะสมนั้น ล่าสุด นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วว่า นายทหารดังกล่าวเข้ามาในอาคารรัฐสภาได้อย่างไร เป็นผู้ติดตามของใครหรือไม่ โดยมองว่า การถ่ายภาพดังกล่าวไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะรัฐสภาถือเป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และบัลลังก์ประธานรัฐสภาเป็นที่นั่งสำหรับทำหน้าที่ของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นที่เคารพของสมาชิกในที่ประชุม ไม่ควรที่บุคคลอื่นซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องจะขึ้นไปได้ ทั้งนี้ พบว่านายทหารคนดังกล่าว แอบเข้ามาในห้องประชุมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีเพื่อนข้าราชการรัฐสภาพาเข้ามา ซึ่งขณะนี้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งให้ข้าราชการรัฐสภาคนดังกล่าว เขียนรายงานชี้แจงแล้ว เพื่อเรียนให้ประธานรัฐสภารับทราบ และอาจจะต้องรายงานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของนายทหารคนดังกล่าวให้ดำเนินการต่อไป เพราะสภาไม่มีอำนาจที่จะไปเอาผิดข้าราชการต่างหน่วยงานได้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังชี้แจงด้วยว่า บัลลังก์ดังกล่าวเมื่อมีการซักซ้อมการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อน นายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภายังไม่กล้านั่ง ทั้งที่สื่อมวลชนขอให้นั่งเพื่อเก็บภาพ แต่เนื่องจากยังไม่มีพระบรมราชโองการเปิดสมัยประชุมรัฐสภา จึงไม่มีอำนาจที่จะไปนั่งทำหน้าที่ได้ เพราะรัฐสภาถือเป็นองค์อำนาจใน 3 อำนาจอธิปไตย เช่นเดียวกับ ศาล และคณะรัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้รายงานให้นายชวน…