กองทัพฝรั่งเศสใช้ “โดรน” จู่โจมเป็นครั้งแรกในปฎิบัติการที่มาลี สังหารผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 40 ราย

Loading

เอเอฟพี – กองทัพฝรั่งเศสแถลงยืนยันว่าเป็นครั้งแรกในปฎิบัติการที่ใช้ “โดรน” ระหว่างปฎิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในมาลี มีผู้ก่อการร้ายเสียชีวิตไป 40 ราย เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(23 ธ.ค)ว่า ในวันเสาร์(21)ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง แถลงว่ากองกำลังฝรั่งเศสสามารถจัดการนักรบญิฮัดได้ 33 คนที่ม็อปติ (Mopti) ภาคกลางของมาเลียในปฎิบัติการที่เกิดขึ้นคืนก่อนหน้า และในวันจันทร์(23)กองบัญชาการกองทัพฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ยืนยันว่าได้มีการใช้โดรนสังหารในปฎิบัติการที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในวันเสาร์(21) และสามารถสังหารนักรบญิฮัดได้เพิ่มอีก 7 คน ในขณะที่กองกำลังคอมมานโดฝรั่งเศสตรวจค้นพื้นที่โจมตีในป่าวากาดู(Ouagadou) ห่างเมืองม็อปติออกไปราว 90 ไมล์ “พวกเขาถูกโจมตีโดยกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่บนรถมอเตอร์ไซค์” อ้างอิงจากแถลงการณ์ พบว่า โดรนรีปเปอร์สังหารและเครื่องบินลาดตระเวณมิราจ 2000 ของฝรั่งเศสได้ถูกส่งเข้ามาเพื่อปกป้องกองกำลังภาคพื้น “นี่เป็นครั้งแรกในการใช้โดรนติดอาวุธในปฎิบัติการ” แถลงการณ์จากกองทัพฝรั่งเศสยืนยัน การโจมตีเกิดขึ้น 2 วันหลังกองกำลังฝรั่งเศสประกาศสิ้นสุดการทดลองการใช้โดรนที่ถูกบังคับในระยะไกลสำหรับปฎิบัติการติดอาวุธ กองกำลังมีโดรน 3 ลำที่มีฐานใกล้กับกรุงนีอาเม (Niamey) ของไนเจอร์ สำหรับปฎิบัติการของฝรั่งเศสในช่วงสูดสัปดาห์เกิดขึ้นในพื้นที่ภายใต้การควบคุมของกลู่มมุสลิมติดอาวุธ คาติบา มาซินา( Katiba Macina)ที่ถูกก่อตั้งโดยนักการศาสนาอิสลามหัวรุนแรงในม็อปติ อามาดู โคอูฟา(Amadou Koufa) ตำรวจมาลี 2 นายได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระจากการถูกจับเป็นตัวประกัน และกองกำลังฝรั่งเศสามารถยึดยานพาหนะ มอเตอร์ไซค์และอาวุธ “ทำให้กองกำลังกลุ่มญิฮัดได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง” แถลงการณ์จากกองบัญชาการกองทัพฝรั่งเศสแถลงเมื่อวานนี้(23) ทั้งนี้ก่อนหน้าฝรั่งเศสเคยออกมาแถลงว่าประสบความสำเร็จในการสังหารนักรบญิฮัดได้…

เปิดปมทหารซาอุฯ กราดยิงฐานทัพสหรัฐฯ สะเทือนสัมพันธ์ ‘วอชิงตัน-ริยาด’

Loading

เรืออากาศตรี โมฮัมเหม็ด ซาอีด อัลชามรานี วัย 21 ปี นายทหารซาอุฯ ซึ่งลุกขึ้นมาก่อเหตุกราดยิงภายในฐานทัพเรือเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา นับเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความตกตะลึงเมื่อทหารอากาศซาอุฯ นายหนึ่งลงมือกราดยิงคนตาย 3 ศพ และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ภายในฐานทัพเรือเพนซาโคลาที่รัฐฟลอริดาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นำมาสู่คำสั่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้ระงับการฝึกของทหารจากซาอุดีอาระเบียทั้งหมด ขณะเดียวกันก็จุดประเด็นคำถามเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารระหว่างวอชิงตันและริยาด รวมถึงมาตรการคัดกรองทหารต่างชาติที่จะเข้ารับการฝึกฝนในอเมริกา มาตรการ ‘safety stand down’ นี้จะส่งผลต่อนักเรียนการบินทหารซาอุฯ กว่า 300 นาย ตลอดจนทหารราบ (infantry personnel) และปฏิบัติการฝึกอื่นๆ ทั้งหมดของทหารซาอุฯ ยกเว้นแต่การเรียนภายในห้องเรียน เช่น วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งจะยังมีการเรียนการสอนตามปกติ เจ้าหน้าที่อาวุโสของเพนตากอนระบุว่า มาตรการนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้กระทรวงฯ ได้พิจารณาทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัย ซึ่งท้ายที่สุดจะถูกนำไปใช้กับนักศึกษาทหารต่างชาติทั้งหมดในสหรัฐฯ ซึ่งมีอยู่ราวๆ 5,000 นาย เรือโทหญิงแอนเดรียนา เจนูอัลดี โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯ ยืนยันว่า คำสั่งระงับปฏิบัติการฝึกของนักเรียนการบินทหารซาอุฯ ที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ (9) จะครอบคลุมศูนย์ฝึก 3 แห่ง ได้แก่…

เอฟบีไอสันนิษฐานเหตุยิงกราดที่ฐานทัพเรือฟลอริด้าเป็น “ก่อการร้าย”

Loading

The main gate at Naval Air Station Pensacola is seen on Navy Boulevard in Pensacola, Florida, March 16, 2016. สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI กำลังสืบสวนเหตุการณ์ยิงกราดที่ฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในรัฐฟลอริด้า เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ในลักษณะของการ “ก่อการร้าย” ราเชล โรจาส์ เจ้าหน้าที่พิเศษของ FBI ประจำสำนักงาน Jacksonville รัฐฟลอริด้า กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ว่า การสืบสวนครั้งนี้อยู่ภายใต้สมมตฐานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย แต่ก็เชื่อว่าผู้ก่อเหตุกระทำการเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุยิงกราดที่ฐานทัพเรือ ที่เมืองเพนซาโคลา ในรัฐฟลอริด้า คือ เรืออากาศตรีโมฮัมเหม็ด อัลชามรานี อายุ 21 ปี เป็นนักเรียนการบินจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่มาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนักบินที่ฐานทัพเรือดังกล่าว ผู้ก่อเหตุได้กราดยิงคนในตึกที่เป็นสถานที่สอนนักเรียนทหาร มีผู้เสียชีวิต 4 ราย รวมถึงตัวมือปืนซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในห้องเรียนเช่นกัน…

ระทึก! บึ้มในสวนใกล้ทำเนียบปธน.อินโดฯ ทหารเจ็บ 2 สถานทูตไทยเตือนเลี่ยงพื้นที่

Loading

เจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียระบุว่า เกิดเหตุระเบิดควันระเบิดในสวนสาธารณะใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย กาโตต์ เอ็ดดี ปราโมโน เจ้าหน้าที่ตำรวจจาการ์ตา ระบุว่า ระเบิดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่สวนสาธารณะอนุสาวรีย์แห่งชาติ โดยเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารพบระเบิดควันวางอยู่ในสวนและเกิดระเบิดขึ้นขณะที่กำลังจะเก็บระเบิดขึ้นมา ปราโมโนระบุว่า ทหาร 2 นาย ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่มีอาการคงที่ ปราโมโนระบุด้วยว่า กำลังมีการสืบสวนเหตุระเบิดดังกล่าว ซึ่งรวมไปถึงความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่จะบังเอิญทำหล่นเอาไว้เนื่องจากเวลานี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารหลายพันนายลงพื้นที่กรุงจาการ์ตา เพื่อรักษาความปลอดภัยการเดินขบวนของกลุ่มมุสลิมอนุรักษนิยมที่จัดขึ้นใกล้กับสวนสาธารณะดังกล่าว ด้านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ระบุว่า เกิดเหตุระเบิดบริเวณอนุสาวรีย์แห่งชาติ ในกรุงจาการ์ตา ยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา โพสข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ด้วยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เวลา 07.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณอนุสาวรีย์แห่งชาติ (Monas) ในกรุงจาการ์ตา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 ราย ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว…

แบงค์ใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลียถูกกล่าวหาฟอกเงิน-สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย

Loading

A pedestrian looks at his phone as he walks past a logo for Australia’s Westpac Banking Corp located outside a branch in central Sydney, Australia, November 5, 2018. REUTERS/David Gray ธนาคารใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย Westpac ถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินให้แก่กลุ่มก่อการร้าย รวม 23 ล้านกรณี ผู้ตรวจสอบของรัฐบาลออสเตรเลียกล่าวหาว่า ธนาคาร Westpac ยินยอมให้องค์กรจากหลายประเทศ รวมทั้ง อิรัก เลบานอน ซิมบับเว และสาธารณรัฐคองโก เข้าถึงภาคการเงินของออสเตรเลียโดยไม่มีการตรวจสอบที่เหมาะสม ซึ่งเปิดโอกาสให้กลุ่มอาชญากรหรือผู้ก่อการร้ายสามารถโอนถ่ายเงินเข้าและออกจากออสเตรเลียได้ ศูนย์วิเคราะห์และรายงานธุรกรรมการเงินของออสเตรเลีย หรือ AUSTRAC ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบอาชญากรรมด้านการเงิน กล่าวหาด้วยว่า Westpac ล้มเหลวในการตรวจสอบธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาประโยชน์จากเด็กในฟิลิปปินส์และประเทศในอาเซียน และยังอนุญาตให้มีการสั่งจ่ายเงินอย่างน่าสงสัยจากผู้ที่ถูกตัดสินว่าละเมิดทางเพศต่อเด็กจำนวนมากด้วย…

ไอเอสดึงแม่บ้านอาเซียน เข้ากลุ่ม เลือกคนมีปัญหาเป็นสายก่อการร้าย

Loading

ไอเอสดึงแม่บ้านอาเซียน – ซีเอ็นเอ็น รายงานการเปิดข้อมูลกระทรวงกิจการภายในของสิงคโปร์ที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคอาเซียน พบว่า กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส เพ่งเล็งเป้าหมายสตรีผู้รับจ้างทำงานแม่บ้านและสาวใช้ ซึ่งเผชิญความโดดเดี่ยว มีปัญหาหนี้สินและปัญหาครอบครัว เข้าเป็นสมาชิกใหม่ สิงคโปร์จับกุม แม่บ้านชาวอินโดนีเซีย 3 คนที่รับจ้างทำงานบ้านในสิงคโปร์ เมื่อเดือน ก.ย. ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคง ทั้งตกเป็นผู้ต้องหาสนับสนุนทางการเงินให้กลุ่มก่อการร้าย  และใช้เวลาว่างทำกิจกรรมสนับสนุนกลุ่มไอเอสทางออนไลน์  ทำให้ทั้ง 3 คนอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และถูกปรับ 500,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 11,300,000 บาท ตำรวจอินโดนีเซียตรวจพบระเบิด 3 ก.ก. ในบ้านพักเมืองเบกาซี ชวาตะวันตก เมื่อปี 2559 พบ 1 ใน 4 คนร้ายทำงานเป็นแม่บ้านรับจ้างที่สิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายเผยว่าผู้หญิง 3 คนนี้ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในสิงคโปร์และฮ่องกง เนื่องจากมีแนวร่วมกระจายอยู่ในเอเชีย หลังจากไอเอสในตะวันออกกลางอ่อนกำลังลง นาวา นูรานิยาห์ นักวิจัยสถาบันวิเคราะห์นโยบายความขัดแย้งของอินโดนีเซีย หรือ IPAC บอกว่ากลุ่มผู้หญิงเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มไอเอสและถูกใช้ให้สร้างรายได้แก่ไอเอส ระหว่างปี 2558-2559 มีผู้หญิงชาวอินโดนีเซียอย่างน้อย 50…