สี จิ้นผิง ตำหนิ ทรูโด เผยแพร่เนื้อหาการประชุม

Loading

  สื่อแคนนาดา ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ขณะที่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน กล่าวแสดงความไม่พอใจนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรู โด ประเทศแคนาดา ที่มีการเปิดเผยเนื้อหาการประชุมต่อสื่อ ในการประชุม G20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย   โดยในคลิป ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้พูดผ่านล่ามว่า “สิ่งที่เราพูดคุยกันรั่วไหลไปยังหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และไม่ใช้วิธีสนทนา ซึ่งหากคุณมีความจริงใจ”   ซึ่งระหว่างที่ล่ามกำลังแปลถ้อยคำดังกล่าวยังไม่ทันจบ นายกรัฐมนตรีทรูโด ก็ถูกขึ้นมาว่า   “ในแคนาดา เราเชื่อในการเจรจาที่เสรี เปิดเผยตรงไปตรงมา จะทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ต่อไป แต่มีบางสิ่งที่แคนาดาไม่เห็นด้วย”   แต่ สี จิ้นผิง ยืนยันว่าการเจรจาของทั้งคู่ควรอยู่ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างที่ยอมรับได้   อย่างไรก็ตาม การแลกเปลี่ยนในช่วงเวลาสั้นๆนี้แสดงถึงความตึงเครียดระหว่างจีนและพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างเห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากข้อพิพาทด้านการค้าและข้อพิพาทเรื่องต้นตอการระบาดของโควิด-19 ในขณะที่จีนได้หันไปสร้างความร่วมมือกับรัสเซีย สำหรับความตึงเครียดระหว่างจีนและแคนนาดาเกิดขึ้นหลังจากกรณีทางการแคนนาได้จับกุมนายเมิ่ง หว่านโจว ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ในปี 2561…

ภัยจากการถูกเก็บดีเอ็นเอ (1)

Loading

  ปัจจุบัน ภัยจากการรั่วไหลของข้อมูลมาเป็นอันดับต้น ที่เป็นปัญหาในเมืองไทยตอนนี้ก็คือภัยจากคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันแล้วว่ามาจากเจ้าหน้าที่รัฐแอบนำข้อมูลไปขาย ใหญ่กว่านั้นก็เป็นระดับภูมิภาคและประเทศ วันนี้มีการเก็บสะสมข้อมูลดีเอ็นเอและลักษณะทางชีวภาพของเผ่าพันธุ์ทั่วโลก บ้านเมืองใดไม่ระวังก็อาจจะเผชิญภัยด้านความมั่นคงได้ในอนาคต   เดือนตุลาคม 2018 พลตรีอีกอร์ คิริลอฟ ผู้บัญชาการของกองบัญชาการพิทักษ์ป้องกันด้านรังสี เคมี และชีวภาพของรัสเซีย เปิดโปงเครือข่ายห้องแล็บของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯที่มาตั้งอยู่ในพื้นที่หลายแห่งใกล้ชายแดนรัสเซียและจีน เพื่อเก็บข้อมูลสารพันธุกรรม (Deoxyribonucleic acid หรือ DNA) ของผู้คนเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ ไม่ว่ารัสเซีย จีน คาซัค คีร์กีซ มองโกล ตาตาร์ ทาจิก อุซเบก ฯลฯ รัสเซียตั้งข้อสังเกตว่า การเข้ามาสะสมข้อมูลดีเอ็นเอของผู้คนจำนวนมาก สหรัฐฯ อาจจะเข้ามาสร้างอาวุธชีวภาพทำลายผู้คนทางแถบนี้ได้   หลังจากโซเวียตแตกเมื่อ ค.ศ.1991 สหรัฐฯ ก็พัฒนาความเป็นหุ้นส่วนด้านการวิจัยทางชีวภาพกับอดีตสาธารณรัฐของสหภาพโซเวียตหลายแห่ง หนึ่งในหลายโครงการของสหรัฐฯก็คือ โครงการลดภัยคุกคามทางชีวภาพ นันน์-ลูการ์ สหรัฐฯ อ้างว่า โครงการนี้ป้องกันไม่ให้การพัฒนาอาวุธชีวภาพรั่วไหล แต่รัสเซียส่งคำเตือนไปยังสาธารณรัฐทั้งหลายมาโดยตลอด ว่าความร่วมมืออย่างนี้เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียและเผ่าพันธุ์ในยุโรปตะวันออกและเอเชียกลาง   สำนักงานการลดภัยคุกคามด้านกลาโหมของสหรัฐฯ ใช้เงินอีก 102…

ไม่แปลกใจที่ข้อมูลรั่ว! เจอขนส่งใช้กระดาษรียูส เลขบัตรปชช.-ที่อยู่มาครบ

Loading

  ไม่แปลกใจเลยที่ข้อมูลรั่วไหล! โผล่อีกขนส่ง จ.สระแก้ว ใช้กระดาษรียูส รอบนี้มีทั้งเลขบัตรประชาชน ที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัวมาครบ   เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจ และพากันพูดถึงอย่างมาก ภายหลังเพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ได้ออกมาโพสต์ภาพที่ลูกเพจส่งให้ โดยในภาพเป็นภาพของใบมรณบัตร ที่ไม่ได้ใช้แล้ว แต่มีข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน รวมไปถึงสาเหตุการเสียชีวิต ครบหมด พร้อมระบุว่า “โอยยยย แฟนเพจท่านนึงไปจดทะเบียนสมรสมา แต่หลังใบเสร็จเป็นกระดาษใช้ซ้ำจากใบมรณบัตรครับ” จนมีชาวเน็ตไม่น้อยออกมาแชร์ประสบการณ์ที่เคยเจอแบบนี้ด้วยเช่นกันนั้น   ความคืบหน้าล่าสุด แฟนเพจชื่อดังอย่าง อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ก็ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวลักษณะดังกล่าวที่พบเจอจากขนส่ง จ.สระแก้ว ที่เจอใบนัดสอบใบขับขี่ที่ใช้กระดาษรียูส และมีข้อมูลส่วนตัวครบถ้วน โดยระบุข้อความว่า “อยากจะร้องเรียน ขนส่งหน่อย ทํางานชุ่ยมาก ขนส่งสระแก้ว       ไปอบรมทําใบขี่มา จนถึงสอบข้อเขียนสอบไม่ผ่าน ได้ใบนัดมา แต่ข้างหลังได้ใบรียูสมามีข้อมูลใครมาก็ไม่รู้ข้อมูลครบถ้วน เลขบัตรประชาชนเอย ชื่อ ที่อยู่ฯ แล้วเอกสารที่เราให้เขาไป ไม่วนไปให้คนอื่นแบบนี้เหรอ ข้อมูลส่วนตัวทั้งนั้น…

กระอัก ออสเตรเลีย ถูกเจาะระบบซ้ำ ข้อมูลสุขภาพรั่วไหล 4 ล้านคน

Loading

  วันที่ 26 ต.ค. เอเอฟพี รายงานว่า นักเจาะระบบคอมพิวเตอร์หรือแฮ็กเกอร์ลักลอบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวทางด้านสุขภาพนับล้านรายการภายในบริษัทเมดิแบงก์ หนึ่งในเอกชนทำธุรกิจด้านการประกันสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ออสเตรเลีย คาดว่าข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลไปถึง 3.9 ล้านคน ส่งผลให้รัฐบาลออกมายอมรับว่าบรรดาเอกชนยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ   การเจาะระบบล่าสุดเกิดหลังการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่แฮกเกอร์ลักลอบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานของบริษัทออพตัส ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารรายใหญ่ในออสเตรเลีย ส่งผลให้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ากว่า 9 ล้านคนรั่วไหล นับเป็นหนึ่งในการเจาะระบบครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย   นายมาร์ก เดรย์ฟัส อัยการสูงสุดออสเตรเลีย กล่าวว่า บรรดาเอกชนเหล่านี้กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ามากเกินความจำเป็นและล้มเหลวในการปกป้องข้อมูลเหล่านี้ พร้อมขู่จะลงโทษบรรดาเอกชนขั้นสูงสุดด้วยค่าปรับกว่า 1.2 พันล้านบาท ขณะที่นางแคลร์ โอนีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน (เทียบเท่ามหาดไทย) ยอมรับว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกินเยียวยา     ———————————————————————————————————————————————— ที่มา :                          ข่าวสดออนไลน์       …

Microsoft ทำข้อมูลภายในและข้อมูลสำคัญของลูกค้าหลุดออกไป 2.4 TB

Loading

  SOCRadar บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ได้เปิดเผยรายงานระบุว่า Microsoft ทำข้อมูลภายในรั่วไหล ซึ่งเป็นข้อมูลที่เก็บตั้งแต่ปี 2017 มาจนถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ รวมปริมาณ 2.4 TB   ข้อมูลที่หลุดออกมามีทั้งเอกสารภายในเกี่ยวกับการดำเนินของบริษัท, ข้อมูลผู้ใช้, รายละเอียดการสั่งซื้อและการเสนอขายผลิตภัณฑ์, รายละเอียดโครงการต่างๆ, ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ระบุตัวตนได้ รวมทั้งเอกสารอื่นที่อาจนำไปสู่การเปิดเผยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท ทั้งนี้ SOCRadar ระบุว่าข้อมูลชุดนี้มาจากการปรับแต่งที่ผิดพลาดของ Azure Blob Storage   Microsoft เองก็โพสต์บล็อกอธิบายเรื่องการสืบสวนเกี่ยวกับปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า SOCRadar ระบุเรื่องขอบข่ายความเสียหายเกินจริงไปมาก เพราะข้อมูลหลายส่วนนั้นแท้จริงแล้วเป็นข้อมูลสำเนาที่อ้างอิงมาจากอีเมลชุดเดียวกัน, โครงการเดียวกัน, ผู้ใช้กลุ่มเดียวกัน นอกจากนี้ Microsoft ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากช่องโหว่ของ Microsoft แต่มาจากการปรับแต่งค่าที่ผิดพลาดโดยไม่ได้เจตนาเท่านั้น   ทั้งนี้เมื่อมีลูกค้ารายหนึ่งได้ติดต่อสอบถาม Microsoft ว่ามีข้อมูลของพวกเขาหลุดออกไปด้วยหรือไม่ Microsoft ตอบแต่เพียงว่าไม่สามารถระบุข้อมูลที่ได้รับผลกระทบได้ แม้ลูกค้ารายดังกล่าวจะทักท้วงแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจาก Microsoft อีกครั้งในภายหลัง   จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและท่าทีของ Microsoft ต่อเรื่องนี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ Microsoft และการตั้งคำถามถึงวิธีจัดการปัญหา รวมทั้งนโยบายการสำรองข้อมูลและการทำลายข้อมูลเก่า ตลอดจนแนวปฏิบัติในการแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลว่าขาดประสิทธิภาพในการสื่อสาร…

“มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ” ยอมรับทำข้อมูลลูกค้ารั่ว เร่งปรับปรุงมาตรการป้องกัน

Loading

  สมาคมผู้ค้าหลักทรัพย์แห่งญี่ปุ่น (JSDA) เปิดเผยในวันนี้ (19 ต.ค.) ว่า เกิดเหตุการณ์ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลจากบริษัทมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ มอร์แกน สแตนลีย์ ซีเคียวริตีส์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น โดย JSDA ไม่ได้ระบุวันเวลาที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด   JSDA ระบุว่า มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ มอร์แกน สแตนลีย์ ซีเคียวริตีส์ ได้แชร์ข้อมูลที่เป็นความลับจำนวน 499 รายการจากลูกค้า 401 รายไปให้กับบริษัทออกหุ้นกู้บางราย   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ มอร์แกน สแตนลีย์ ซีเคียวริตีส์ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า JSDA ได้ตำหนิบริษัทอย่างรุนแรง และได้สั่งให้บริษัทปรับปรุงมาตรการปกป้องข้อมูลของลูกค้า   “เราจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังมาก และเราจะพยายามปรับปรุงการบริหารจัดการภายในของเราให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เราคาดหวังว่าจะสามารถกอบกู้ความเชื่อมั่นของลูกค้าให้กลับคืนมาโดยใช้มาตรการป้องกันของเรา ส่วนข้อมูลที่รั่วไหลนั้นอาจจะถูกส่งคืนหรือทำลายทิ้งในเวลาเดียวกัน” มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ มอร์แกน สแตนลีย์ ซีเคียวริตีส์ระบุในแถลงการณ์     ——————————————————————————————————————————– ที่มา :   …