ศาลมอสโกยืดเวลาจำคุกนักข่าวสหรัฐฯ อีก 3 เดือน ในข้อหา ‘เป็นสายลับ’

Loading

  สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานว่า เอฟวาน เกิร์ชโควิช ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันจากหนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ถูกศาลกรุงมอสโกสั่งยืดระยะเวลาการจำคุกเพิ่มก่อนจะมีการพิจารณาคดีในข้อหาจารกรรมข้อมูล ขณะที่สื่อต้นสังกัดยืนยันอีกครั้งว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นความเท็จ   เกิร์ชโควิชถูกคุมขังมาตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะปฏิบัติหน้าที่ในเมืองเยคาเตรินเบิร์ก (Yekaterinburg) หลังถูกทางการรัสเซียกล่าวหาว่าเป็นสายลับ แม้ต้นสังกัดของเกิร์ชโควิชและรัฐบาลสหรัฐฯ จะต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างเต็มที่ก็ตาม   ทั้งนี้ เกิร์ชโควิชเป็นสื่อมวลชนชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกคุมขังด้วยข้อหาจารกรรม นับตั้งแต่สมัยสงครามเย็นเป็นต้นมา   เกิร์ชโควิชปรากฏตัวในศาลกรุงมอสโกในวันพฤหัสบดีเพื่อรับฟังคำร้องของอัยการให้มีการยืดระยะเวลาการจับกุมตัวเขา โดยสื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับฟังการพิจารณาดังกล่าว ซึ่งสื่อ TASS อ้างว่า เป็นเพราะเรื่องข้อมูลชั้นความลับในคดีนี้ที่ทำให้ไม่สามารถให้มีสื่อเข้าฟังได้   หลังการยื่นคำร้อง ศาลมอสโกสั่งขยายเวลาคุมขังผู้สื่อข่าวรายนี้ จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 สิงหาคมให้เป็นสิ้นเดือนพฤศจิกายน   นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผู้พิพากษารัสเซียสั่งยืดระยะเวลาคุมขังเกิร์ชโควิชก่อนการพิจารณาคดีจริง โดยแต่ละครั้งเป็นการเพิ่มเวลาอีกสามเดือน   วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดีที่มีเนื้อหาว่า แสดงความผิดหวังต่อ “การถูกคุมขังตามอำเภอใจและไม่ชอบธรรม สำหรับการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนของ(เกิร์ชโควิช)” พร้อมย้ำว่า ข้อกล่าวหาที่รัสเซียกล่าวอ้างนั้น ไร้มูลและเป็นความเท็จ   “เราจะเดินหน้าผลักดันให้มีการปล่อยตัวเขาทันที งานสื่อมวลชนไม่ใช่อาชญากรรม” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ  …

ไมโครซอฟท์ญี่ปุ่นจ่อเปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันปลอดภัยใช้จัดการข้อมูลลับ

Loading

  ไมโครซอฟท์สาขาญี่ปุ่นจะเปิดตัว แชตจีพีที (ChatGPT) ซึ่งเป็นแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ (AI) เวอร์ชันที่ปลอดภัยมากขึ้น โดยสามารถใช้ในการจัดการกับข้อมูลลับของกระทรวงและหน่วยงานรัฐบาล รวมถึงองค์กรเอกชน   บริการ ChatGPT ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง (Genreative AI) เวอร์ชันใหม่นี้จะเหมาะกับการใช้งานของรัฐบาลญี่ปุ่น เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดจะถูกประมวลผลที่ศูนย์ข้อมูลในญี่ปุ่น ซึ่งแตกต่างจาก ChatGPT เวอร์ชันปัจจุบัน และคาดว่าธนาคารและบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องจัดการกับข้อมูลที่อ่อนไหวนั้น ก็อาจจะได้ประโยชน์จากบริการนี้ด้วย   สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นจะเป็นภูมิภาคที่ 3 ที่ไมโครซอฟท์เปิดให้บริการ AI เวอร์ชันใหม่นี้ ตามหลังสหรัฐและยุโรป   ด้านนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกำลังพยายามใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของญี่ปุ่น โดยหวังว่าจะช่วยให้ญี่ปุ่นรอดพ้นจากภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจมานานหลายสิบปี ซึ่งนายคิชิดะได้ให้คำมั่นเมื่อเดือน มิ.ย.ว่า จะใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อเร่งผลักดันนโยบายทุนนิยมใหม่ของเขา   รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาใช้ ChatGPT เพื่อลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงการเตรียมคำถามในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และจัดทำรายงานการประชุม   ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์เปิดเผยแผนเกี่ยวกับบริการใหม่ดังกล่าวในการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพีในกรุงโตเกียวเมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา…

แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ 2 กลุ่มแฮ็กบริษัทขีปนาวุธรัสเซีย

Loading

  นักวิจัยจาก SentinelOne ชี้แฮ็กเกอร์ 2 กลุ่มที่รัฐบาลเกาหลีเหนือหนุนหลังเข้าแฮ็ก NPO Mash บริษัทวิศวกรรมขีปนาวุธจากรัสเซียตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว   NPO Mash หรือชื่อเต็มคือ NPO Mashinostroyeniya ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองรอยตอฟ ใกล้กับกรุงมอสโกถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ชื่อว่า ScarCruft และ Lazarus แฮ็กมาตั้งแต่อย่างน้อยในปี 2021   บริษัทแห่งนี้เป็นผู้นำในด้านการผลิตขีปนาวุธและยานอวกาศให้แก่กองทัพรัสเซียและครอบครองข้อมูลละเอียดอ่อนขั้นสูงเกี่ยวกับเทคโนโลยีขีปนาวุธ   SentinelOne พบข้อมูลการแฮ็กนี้เมื่อเจอเข้ากับชุดข้อมูลการสื่อสารภายในที่เจ้าหน้าที่ไอทีของ NPO Mash ทำหลุดออกมาระหว่างการตรวจสอบการแฮ็กโดยเกาหลีเหนือ ซึ่ง NPO Mash พบการโจมตีนี้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว   การตรวจสอบพบว่า ScarCruft ได้เข้าเจาะเซิร์ฟเวอร์อีเมล Linux ของ NPO Mash ขณะที่ Lazarus แอบฝังแบ็กดอร์หรือทางลัดดิจิทัลที่ชื่อ OpenCarrot ในเครือข่ายภายในของบริษัท   สำหรับ ScarCruft (หรือ APT37) เกี่ยวข้องกับกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ (MSS) ของเกาหลีเหนือ…

สหรัฐฯ ลั่นยังพร้อมแชร์ข่าวกรองให้ ‘ญี่ปุ่น’ หลังมีข่าวถูก ‘แฮ็กเกอร์จีน’ เจาะเครือข่ายไซเบอร์ทางทหาร

Loading

  กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้ (8 ส.ค.) ว่ายังคงเชื่อมั่นและพร้อมที่จะแบ่งปันข่าวกรองให้ญี่ปุ่น หลังสื่อดังในอเมริกาออกมาแฉว่าหน่วยแฮ็กเกอร์ทางทหารของจีนได้ทำการเจาะเครือข่ายข้อมูลด้านกลาโหมที่เปราะบางที่สุดของญี่ปุ่นได้แล้ว   หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เผยแพร่รายงานเมื่อวันจันทร์ (7) โดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นทั้งอดีตและปัจจุบันซึ่งระบุว่า แฮ็กเกอร์ของกองทัพจีนได้เจาะเครือข่ายกลาโหมชั้นความลับของญี่ปุ่นเมื่อปี 2020 และสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับแสนยานุภาพทางทหารของกองกำลังญี่ปุ่น ตลอดจนแผนงาน และผลการประเมินข้อบกพร่องต่าง ๆ   ฮิโรคาซุ มัตสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าววานนี้ (8 ส.ค.) ว่า ญี่ปุ่นไม่สามารถยืนยันได้มีข้อมูลด้านความมั่นคงใด ๆ รั่วไหลออกไปหรือไม่   อย่างไรก็ตาม วอชิงตันโพสต์อ้างข้อมูลจากอดีตนายทหารสหรัฐฯ คนหนึ่งซึ่งยอมรับว่า ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้จัดว่า “รุนแรงและเลวร้ายอย่างน่าตกตะลึง” และผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ถึงขั้นต้องบินไปโตเกียวเพื่อหารือกับรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ซึ่งขอให้ทางสหรัฐฯ แจ้งเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นทราบ   วอชิงตันโพสต์ระบุด้วยว่า แม้ญี่ปุ่นจะยกระดับป้องกันความปลอดภัยของเครือข่ายข้อมูลกลาโหม แต่เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามหลายคนเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้ “ยังไม่เพียงพอ” ที่จะสกัดหน่วยจารกรรมจีน และอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการแชร์ข้อมูลข่าวกรองที่มากยิ่งขึ้นระหว่างเพนตากอนกับกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในอนาคต   ล่าสุด ซาบรีนา ซิงห์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานของวอชิงตันโพสต์ โดยขอให้โตเกียวเป็นฝ่ายชี้แจงเอง แต่ย้ำว่าสหรัฐฯ…

พ่อลูก ‘ชาวไต้หวัน’ โดนจับข้อหาสอดแนมความลับให้จีน

Loading

  นักธุรกิจไต้หวันพร้อมกับลูกชาย ถูกฟ้องร้องในข้อหาจ้างวานทหาร 2 นาย ช่วยรวบรวมข้อมูลลับการฝึกซ้อมกองทัพไต้หวันครั้งใหญ่ให้กับจีน   สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างสำนักอัยการสูงสุดไต้หวันรายงานว่า หลังจากนักธุรกิจไทเปแซ่ฮวงรายนี้ย้ายไปทำการค้าที่มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ในปี 2558 เขาและลูกชายถูกเกลี่ยกล่อมจากเจ้าหน้าที่จีน ให้จัดหาเอกสารลับด้านความมั่นคงของไต้หวันให้กับจีน   “พ่อลูกคู่นี้ จงใจคุกคามความมั่นคงไต้หวัน และร่วมสร้างเครือข่ายล้วงความลับไต้หวันในเกาะไทเป เพื่อชักจูงใจทหารเกณฑ์ให้ทำงานด้วย” ใจความหนึ่งระบุในแถลงการณ์อัยการสูงสุดไต้หวันที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (7 ส.ค.)   พ่อลูกแซ่ฮวงสองคนนี้ ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงและกฎหมายความคุ้มครองความลับของไต้หวัน ส่วนทหารเกณฑ์ถูกตั้งข้อหาละเมิดประมวลกฎหมายอาญาของกองทัพไต้หวัน โทษฐานทุจริต   “ปัจจุบัน ทหารเกณฑ์สองคนนี้ทำงานให้กับหน่วยป้องกันภัยทางอากาศและขีปนาวุธของกองทัพอากาศไต้หวัน ซึ่งนักธุรกิจพ่อในคดีนี้ได้ขอให้พวกเขาลงนามในหนังสือความตกลงเพื่อแสดงความภักดีต่อปักกิ่ง”รายงานระบุ   หลังจากนั้นพวกเขาได้พยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกซ้อมฮั่นกวง ซึ่งเป็นการซ้อมรบประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวันเมื่อสองสัปดาห์ และเอกสารทางการทหารอื่น ๆ เพื่อแอบส่งมอบให้เจ้าหน้าที่จีนด้วยตัวเองหรือส่งผ่านทางโทรศัพท์มือถือ   อย่างไรก็ตาม สองสามปีที่ผ่านมาจีนกดดันทางทหารและการเมืองเกาะไทเปอย่างหนัก โดยอ้างว่าไต้หวันเป็นเขตปกครองตนเองของจีน ซึ่งได้สร้างความตึงเครียดระหว่างกันมากขึ้น       ————————————————————————————————————————————————— ที่มา :                 …

ไต้หวันลุยสอบเจ้าหน้าที่ต้องสงสัยปล่อยข้อมูลลับรั่วไหลถึงมือจีน

Loading

  ไต้หวันเปิดปฏิบัติการสอบสวนเจ้าหน้าที่หลายคนที่ต้องสงสัยว่าแอบเปิดเผยความลับทางการทหารให้กับจีน ตอกย้ำถึงภัยคุมคามด้านการจารกรรมข้อมูลจากจีนที่ไต้หวันต้องเผชิญ   กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุผ่านแถลงการณ์ในวันนี้ (2 ส.ค.) ว่า มีหลักฐานซึ่งบ่งชี้ว่า บุคลากรทางการทหาร ซึ่งรวมถึงนายทหารระดับพันโท ได้มอบข้อมูลที่ละเอียดอ่อนให้แก่คณะผู้แทนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน   ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ลิเบอร์ตี้ ไทม์สของไต้หวันรายงานว่า สมาชิกกองทัพอากาศและกองบัญชาการพิเศษทั้งที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่และที่เกษียณไปแล้วหลายรายตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ปล่อยข้อมูลลับให้กับจีน โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่รายงานว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวไว้ 2 คน ขณะที่อีก 4 คนได้รับการประกันตัว   กองทัพไต้หวันต้องเผชิญความยากลำบากอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดสายลับที่เชื่อมโยงกับจีน โดยสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทางการทหารที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน มีความกังวลมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับความสามารถของไต้หวันในการเก็บความลับทางเทคโนโลยีและความลับอื่น ๆ ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของจีน   กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในวันนี้ว่า ทางกระทรวงฯ จะเพิ่มการให้ความรู้เกี่ยวกับความพยายามในการแทรกซึมจากจีนให้กับบุคลากรไต้หวัน ควบคู่ไปกับการยกระดับการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ นายอเล็กซ์ หวง รองเลขาธิการของทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลครั้งล่าสุดว่า “เป็นเหตุการณ์ที่น่าละอายยิ่งและผู้กระทำผิดสมควรได้รับการลงโทษอย่างหนัก”   เมื่อปลายปีที่แล้ว กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า การสอดแนมจากจีนเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรง และต่อมาในเดือน ม.ค. ไต้หวันได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ประจำการ 3 นายและเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศที่เกษียณไปแล้ว 1 นายในข้อหาสอดแนม      …