นายกฯ ออสเตรเลียแนะนำ “ปิดมือถือวันละ 5 นาที” ลดความเสี่ยงการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้

Loading

  Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียแถลง ในระหว่างการประกาศแต่งตั้งหัวหน้าหน่วยงานดูแลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ โดยพูดถึงปัญหาและความสำคัญที่มากขึ้น ของการดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศ   เนื้อหาตอนหนึ่งเขาบอกว่าการดูแลความปลอดภัยนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนและองค์กรทุกภาคส่วนต้องให้ความร่วมมือ ซึ่งเขาแนะนำวิธีการง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวันนั่นคือ ปิดโทรศัพท์ทุกคืน เป็นเวลา 5 นาที เขาแนะนำว่าอาจทำระหว่างไปแปรงฟันก่อนเข้านอนก็ได้   คำแนะนำนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้ไม่ได้การันตีว่าโทรศัพท์จะปลอดภัยจากการถูกโจมตี แต่มัลแวร์จำนวนมากไม่ได้ฝังอยู่ในหน่วยความจำถาวร แต่ทำงานอยู่ในหน่วยความจำเท่านั้น เมื่อบูตเครื่องใหม่มัลแวร์จึงหายไป ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์บอกว่า ก็ทำให้ต้นทุนในการดึงข้อมูลของแฮ็กเกอร์ผ่านมัลแวร์ที่มักรันอยู่เบื้องหลัง มีมูลค่าสูงขึ้น และทำได้ลำบากมากขึ้นนั่นเอง     ที่มา: 7News Australia       ————————————————————————————————————————- ที่มา :                    Blognone by arjin         …

ติดฉลาก ‘National Cybersecurity’ บนอุปกรณ์ ‘ไอโอที’

Loading

    ณ ขณะนี้ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยว่า กระแสการป้องกันและรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ   อย่างในสหรัฐหน่วยงานกำกับดูแลการรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานของอุปกรณ์เริ่มมีความพยายามในการกำหนดมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น   องค์การอาหารและยา (FDA) ได้บังคับใช้ข้อกำหนดทางไซเบอร์สำหรับผู้ผลิต และเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มผู้นำในอุตสาหกรรมทางไซเบอร์ได้กล่าวเป็นนัยในการประชุม RSA เมื่อช่วงปลาย เม.ย. ที่ผ่านมาว่า จะมีประกาศจากทำเนียบขาวเกี่ยวกับแผนการพัฒนาโครงการติดฉลากความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ค.   แต่ที่น่าสนใจคือ จะมีการรวมกันของ OT และ IoT พร้อมกับการรักษาความปลอดภัยทั้งทางกายภาพและทางไซเบอร์ซึ่งเป็นการรวมตัวกัน ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องของมาตรฐานแต่เป็นข้อบังคับอีกด้วย   นอกจากนี้ ยังมีความจำเป็นที่เร่งด่วนในการสร้างและยกระดับวัฒนธรรมพื้นฐานในการออกแบบความปลอดภัยและความโปร่งใสของกระบวนการทำงาน เช่น กระบวนการสนับสนุนให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่มีคุณภาพ   ฝ่ายบริหารของไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐได้ประกาศเป็นครั้งแรกถึงแผนการทำงานร่วมกับภาคเอกชน หน่วยงาน รัฐบาลกลางและสถาบันการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการติดฉลากความปลอดภัยทางไซเบอร์บนอุปกรณ์ IoT   โดยระบุว่าแผนนี้มีความสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันมีการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้อย่างแพร่หลายและการเติบโตของตลาดเพิ่มสูงขึ้น   โปรแกรมการติดฉลากนี้จึงช่วยทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้มีความปลอดภัยและเป็นการจูงใจให้ผู้ผลิตปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์   โดยล่าสุดสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) ได้นำร่องการติดฉลากผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ บนอุปกรณ์ IoT โดยทีมงาน NIST ได้เริ่มจากการปรับแต่งเนื้อหาให้มีความเหมาะสมกับความเสี่ยงเฉพาะและทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม  …

สกมช. จับมือ ซิสโก้ ยกระดับด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้กับเยาวชนและบุคลากร

Loading

  “สกมช.” จับมือ ซิสโก้ ยกระดับด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ให้กับเยาวชนและบุคลากร พร้อมรับมือภัยคุกคาม ด้วยหลักสูตรระดับสากล   สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) โดย พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการรักษา ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) ด้านการส่งเสริมเพิ่มระดับความสามารถในการรักษาความปลอดภัย กับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย นายวีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ณ ห้องประชุม Confidential ชั้น 7 สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566     สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) หรือ NCSA ร่วมเสริมสร้างและแบ่งปันความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยเพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ผ่านหลักสูตรในโครงการ Cisco Networking…

แคสเปอร์สกี้ เผยยอดโจมตีไซเบอร์จาก Work from home ในอาเซียน ‘ลดลง’

Loading

    แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก เผยข้อมูลการลดลงของการ bruteforce โจมตีพนักงานที่ทำงานระยะไกลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องดีแต่ที่ไม่ถือเป็นสัญญาณที่น่าวางใจ   Remote Desktop Protocol (RDP) เป็นโปรโตคอลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Microsoft ซึ่งมีอินเทอร์เฟซแบบกราฟิกให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านเครือข่าย RDP ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยทั้งผู้ดูแลระบบและผู้ใช้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคน้อยเพื่อควบคุมเซิร์ฟเวอร์และพีซีอื่น ๆ จากระยะไกล     การโจมตี Bruteforce.Generic.RDP ใช้วิธีพยายามค้นหาคู่การล็อกอิน / พาสเวิร์ด ในการเข้าสู่ระบบ RDP ที่ถูกต้องโดยการตรวจสอบพาสเวิร์ดที่เป็นไปได้ทั้งหมดอย่างเป็นระบบ จนกว่าจะพบพาสเวิร์ดที่ถูกต้อง การโจมตีที่ประสบความสำเร็จจะทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์โฮสต์ที่เป็นเป้าหมายจากระยะไกลได้   อย่างไรก็ตาม Brute force Attack เป็นการเดา password ทุกความเป็นไปได้ของตัวอักษรในแต่ละหลัก เช่น รหัส ATM มีจำนวน 4 หลัก แต่ละหลักสามารถตั้งค่าตัวเลข 0-9 ดังนั้น โปรแกรมจะทำการไล่ตัวเลขจาก 0000 ไปจนถึง 9999 หมื่นวิธีจนได้ password   เมื่อปี 2022 ข้อมูลของแคสเปอร์สกี้แสดงให้เห็นว่าโซลูชัน…

ยอดภัยคุกคามทางเว็บไม่แผ่ว! พบในไทยกว่า 17.5 ล้านรายการ แนะคนไทยระวัง!

Loading

    แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของรัสเซีย เปิดรายงานล่าสุด ความปลอดภัยทางไซเบอร์ประจำปี สำหรับประเทศไทย ตรวจพบและบล็อกภัยคุกคามทางเว็บต่างๆ จำนวนเกือบ 17.3 ล้านรายการที่กำหนดเป้าหมายโจมตีผู้ใช้ในไทย!!!   Key Points :   –  ตรวจพบความพยายามในการคุกคามเว็บจำนวน 17,295,702 รายการในไทย – ผู้ใช้ชาวไทยจำนวน 29.1% ถูกโจมตีจากภัยคุกคามทางออนไลน์ ทำให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 109 ของโลก – เปิด 10 เคล็ดลับเลี่ยงถูกหลอกลวงทางออนไลน์   ในปี 2565 ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ตรวจพบความพยายามในการคุกคามเว็บจำนวน 17,295,702 รายการบนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่เข้าร่วม Kaspersky Security Network หรือ KSN ในประเทศไทย ซึ่งมีสัดส่วนสูงกว่าปีที่แล้ว 0.46% (17,216,656 รายการ) คิดเป็นผู้ใช้ชาวไทยจำนวน 29.1% ที่จะถูกโจมตีจากภัยคุกคามทางออนไลน์ ทำให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 109 ของโลก  …

ออสซี่จ่อยกเครื่องกฎระเบียบ-ตั้งหน่วยงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์

Loading

    นางแคลร์ โอนีล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลียเปิดเผยกับสถานีวิทยุเอบีซี (ABC Radio) วันนี้ (27 ก.พ.) ว่า ออสเตรเลียวางแผนจะยกเครื่องกฎระเบียบด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และจัดตั้งหน่วยงานเพื่อดูแลการลงทุนของรัฐบาลในภาคส่วนดังกล่าว และช่วยประสานงานในการตอบสนองต่อการโจมตีของแฮ็กเกอร์   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งมีรายงานจากบริษัทอย่างน้อย 8 แห่งที่ถูกแฮ็ก ซึ่งรวมถึง เมดิแบงก์ ไพรเวท จำกัด (Medibank Private Ltd) บริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ และออปตัส (Optus) บริษัทโทรคมนาคมในเครือสิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (Singtel)   นางโอนีลกล่าวว่า กฎระเบียบด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะจัดการกับการโจมตีและไม่สามารถปกป้องข้อมูลของผู้บริโภคได้ พร้อมกล่าวโทษรัฐบาลชุดก่อนหน้าที่นำกฎระเบียบเหล่านี้มาใช้   “กฎระเบียบเหล่านั้นไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่ควรค่าที่จะพิมพ์ลงบนกระดาษด้วยซ้ำ เมื่อต้องนำไปใช้รับมือกับเหตุการณ์ทางไซเบอร์จริง กฎระเบียบเหล่านั้นมันไม่เหมาะจะใช้ประโยชน์ในตอนนี้ และดิฉันคิดว่าจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูป” นางโอนีลกล่าว   นางโอนีลระบุว่า นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีจะพบปะกับบรรดาผู้นำอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในวันนี้ และนายกฯ ได้ตัดสินใจแต่งตั้งผู้ประสานงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลให้หน่วยงานของรัฐบาลทำงานร่วมกันเมื่อต้องรับมือกับเหตุการณ์ทางไซเบอร์ต่าง ๆ   ทั้งนี้ ทางการได้เผยแพร่เอกสารการอภิปรายเกี่ยวกับกลยุทธ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ใหม่…