แอปฯ แอนดรอยด์แอบเก็บข้อมูล แม้ผู้ใช้ไม่อนุญาต

Loading

รายงานล่าสุดระบุว่า แอปพลิเคชันในแอนดรอยด์แอบเก็บข้อมูลส่วนตัว แม้ผู้ใช้จะไม่อนุญาตให้เก็บข้อมูลก็ตาม โดยมีการประเมินว่ามีผู้ใช้ได้รับผลกระทบหลายร้อยล้านคน ผลการศึกษาล่าสุดระบุว่า แอปพลิเคชันยอดนิยมหลายแอปฯ บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ผู้ใช้โหลดจากกูเกิลเพลย์สโตร์แอบเก็บข้อมูลส่วนตัวจากโทรศัพท์ของผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปฏิเสธไม่ให้แอปเก็บข้อมูลแล้วก็ตาม โดยแอปฯ เหล่านี้ใช้ “ช่องทางข้างเคียง” หรือ “เปลี่ยนช่องทาง” ในการเก็บข้อมูล เช่น เก็บข้อมูลจากแอปฯ อื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ การศึกษานี้จัดทำขึ้นโดยสถาบันวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ระหว่างประเทศ ศูนย์วิจัยไม่แสวงหาผลกำไร ร่วมกับมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์คลีย์ โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กร รวมถึงโครงการวิทยาศาสตร์ความมั่นคงของหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐฯ ทีมวิจัยครั้งนี้ได้ติดตั้งแอปฯ ยอดนิยมในแต่ละหมวดบนกูเกิลเพลย์สโตร์ รวมทั้งหมด 88,000 แอปฯ แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ การศึกษาพบว่า มีแอปฯ ในแอนดรอยด์ประมาณ 60 แอปฯ ที่ใช้วิธีนี้ในการเก็บข้อมูลแล้ว และมีอีกหลายแอปฯ ที่เขียนโค้ดให้ใช้วิธีดังกล่าวในการเก็บข้อมูล โดยนักวิจัยประเมินว่า น่าจะมีผู้ใช้แอนดรอยด์ได้รับผลกระทบหลายร้อยล้านคน ในบางกรณี แอปฯ ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลตำแหน่งของอุปกรณ์จะเก็บข้อมูลไว้ใน SD card ของโทรศัพท์ ซึ่งทำให้แอปฯ ที่ไม่ได้รับอนุญาตสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้จาก SD card อีกทีหนึ่ง ส่วนอีกหลายกรณี ผู้ใช้อาจอนุญาตให้แอปฯ เข้าถึงข้อมูลโดยไม่เข้าใจอย่างชัดเจนว่าตัวเองยอมรับเงื่อนไขอะไรไปบ้าง…

รบ.จีนใช้มัลแวร์โจมตีโทรศัพท์อุยกูร์กว่า 2 ปี

Loading

ชาวอุยกูร์ในจีนถูกโจมตีอุปกรณ์สื่อสารทั้งระบบ iOS แอนดรอยด์ และวินโดวส์มานานกว่า 2 ปี โดยมีรายงานชี้ว่า รัฐบาลจีนเป็นผู้สนับสนุนปฏิบัติการโจมตีอุปกรณ์ของชาวอุยกูร์ สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ชาวอุยกูร์ที่อาศัยอยู่ในจีน โดยเฉพาะในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ถูกโจมตีโดยมัลแวร์ในระบบ iOS (ไอโอเอส) มาเป็นเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นปฏิบัติการของรัฐบาลจีนในการสอดส่องชาวอุยกูร์ในประเทศ สัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยของกูเกิลเป็นผู้ค้นพบปฏิบัติการโจมตีอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ iOS ของชาวอุยกูร์ โดยเว็บไซต์ต้องสงสัยมีผู้เข้าชมหลายพันคนต่อสัปดาห์ในช่วงเวลาอย่างน้อย 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังบริษัทแอปเปิลได้รับแจ้ง ก็รีบกำจัดมัลแวร์เหล่านี้โดยเร็ว โดยการโจมตีระบบ iOS ของชาวอุยกูร์อาจเป็นครั้งแรกที่มีการเจาะระบบครั้งแรกของ iOS ในประวัติศาสตร์ของไอโฟน เว็บไซต์ที่มีมัลแวร์สามารถเข้าไปควบคุมอุปกรณ์ที่ถูกแฮ็กได้เกือบทั้งหมด โดยอาศัยจุดอ่อนในระบบปฏิบัติการที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ซึ่งผู้ใช้อุปกรณ์นั้นอาจไม่รู้เลยว่าถูกโจมตี เพราะถูกหลอกให้เปิดเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์ แล้วก็ถูกโจมตีทันที แม้ไม่ได้คลิกอะไรบนเว็บไซต์นั้นอีก นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่ใช้ระบบแอนดรอยด์และวินโดว์สก็ถูกโจมตีเช่นกัน โดยใช้วิธีการฝังมัลแวร์ไปในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ชอบเข้า หรือเปลี่ยนทิศทางจากเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ต้องการเข้าไปเป็นเว็บไซต์ที่ทำขึ้นมาเลียนแบบ เพื่อที่จะโจมตีผู้ใช้อย่างไม่เลือกเป้าหมาย โดยโธมัส บรูสเตอร์ นักข่าวด้านความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวของนิตยสาร Forbes กล่าวว่า การโจมตีระบบแอนดรอยด์และวินโดวส์มีมานานกว่า 2 ปีแล้ว และจำนวนผู้ใช้ที่ถูกโจมตีก็มีจำนวนมากกว่าผู้ใช้ iOS อยู่มาก แซ็ค วิทเทเคอร์จากสำนักข่าว Tech…

ฐานข้อมูลระบบควบคุมประตูอิเล็กทรอนิกส์รั่วไหล ภาพลายนิ้วมือ, ภาพใบหน้า, รหัสผ่าน ของผู้ใช้นับล้านหลุด

Loading

นักวิจัยจากบริษัท vpnmentor ในอิสราเอลรายงานถึงฐานข้อมูล Elasticsearch ของบริษัท Suprema ที่ให้บริการควบคุมการเข้าอาคารและลงเวลาทำงานรั่วไหล โดยนักวิจัยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากอินเทอร์เน็ต บริการนี้ชื่อว่า Biostar 2 เป็นระบบลงเวลาที่ให้บริการ 1.5 ล้านจุดจาก 5,700 องค์กรใน 83 ประเทศทั่วโลก รวมข้อมูลที่นักวิจัยพบทั้งหมด 27.8 ล้านรายการ ข้อมูลเกือบทั้งหมดไม่มีการเข้ารหัสหรือแฮช ทำให้ผู้ที่เข้าถึงจะได้ ภาพลายนิ้วมือ, ภาพใบหน้า, ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่านที่ไม่ได้เข้ารหัส, ระดับสิทธิ์การเข้าอาคาร, ข้อมูลส่วนตัว, และประวัติการใช้งาน ลูกค้าของ Suprema นั้นมีตั้งแต่ธนาคาร, ตำรวจสหราชอาณาจักร, co-working space, ไปจนถึงยิม ทางนักวิจัยติดต่อ Suprema หลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ อย่างไรก็ดีช่องโหว่ถูกปิดไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ข้อมูลชีวมาตรอย่างลายนิ้วมือหรือใบหน้านั้นแม้จะเป็นข้อมูลที่สะดวกต่อการยืนยันตัวตน แต่เป็นข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เมื่อข้อมูลภาพลายนิ้วมือหลุดออกไป คนร้ายสามารถนำภาพไปสร้างลายนิ้วมือเทียมเพื่อยืนยันตัวตน ปลดล็อกโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่นโดยผู้เสียหายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ ได้ตลอดชีวิต —————————————————— ที่มา : Blognone / 15 August 2019…

นายกเทศมนตรีทั่วประเทศในอเมริกา ร่วมลงนามไม่จ่ายค่าไถ่ให้กับแฮกเกอร์

Loading

นายกเทศมนตรีกว่า 225 รายทั่วสหรัฐอเมริกาได้สนับสนุนให้มีการลงมติเพื่อไม่จ่ายค่าไถ่ให้กับแฮกเกอร์ เพราะเป็นสาเหตุให้ปัญหานี้ไม่มีทางหมด โดยมตินี้มาจากการประชุมประจำปีของนายกเทศมนตรีสหรัฐที่จัดขึ้นที่โฮโนลูลูตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม ตามคำแถลง จะต้องมีอย่างน้อย 170 เขตเมืองหรือระบบของรัฐได้รับการกำหนดเป้าหมายป้องกันการโจมตี ransomware ตั้งแต่ปี 2013 โดยการโจมตีเหล่านี้ใช้โปรแกรมมัลแวร์ที่ทำให้ระบบไม่สามารถใช้งานได้ และแฮกเกอร์มักจะเรียกร้องการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ (ส่วนใหญ่จะเป็นบิทคอยน์) เพื่อแลกกับการใช้งานระบบเหมือนเดิม ในอีกมุมหนึ่ง มตินี้เกิดขึ้นจากมืองในสหรัฐอเมริกาหลายแห่งถูกโจมตีโดย ransomware การโจมตีในปีนี้รวมถึง Lake City, Florida ซึ่งแต่ละครั้ง แฮกเกอร์จะให้จ่ายเงินจำนวน 43 bitcoins เพื่อแลกกับการเข้าถึงระบบโทรศัพท์และอีเมลได้อีกครั้ง นอจากนั้นยังมีการโจมตีระดับสูงอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ โดยเกิดขึ้นในบัลติมอร์ในเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นการปิดระบบเมืองสำคัญผ่านอีเมลฟิชชิง แฮ็กเกอร์เรียกร้องให้หน่วยงานจ่ายเงินจำนวน 13 bitcoins (ประมาณ $ 76,280 ในเวลานั้นและตอนนี้ประมาณที่ $ 151,599) แต่ Sheryl Goldstein ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของนายกเทศมนตรีได้รับคำแนะนำจาก FBI ให้ไม่จ่ายค่าไถ่เพราะ ถ้าจ่ายครั้งนี้ เราก็ยิ่งต้องจ่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ  โดยประมาณว่าการโจมตีมีค่าใช้จ่ายในเมืองอย่างน้อย 18…

บริษัทคู่สัญญาหน่วยข่าวกรองรัสเซียถูกแฮ็กฉกข้อมูลลับเปิดเผยสู่สาธารณะ

Loading

มีรายงานการเปิดเผยถึงเหตุการณ์บริษัทคู่สัญญาของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย (FSB) ที่ชื่อ ‘SyTech’ ได้ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์มือดีนามแฝงว่า ov1ru$ เจาะเข้าไปขโมยข้อมูลสำคัญไปได้ว่า 7.5TB ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาก็ได้มีการเปิดเผยข้อมูลของโครงการลับหลายโปรเจ็คสู่สาธารณะ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมาโดยฝีมือของกลุ่ม ov1ru$ ซึ่งได้เจาะเข้าไปถึงเซิร์ฟเวอร์ AD ของ SyTech ทำให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายทั้งหมดได้และขโมยข้อมูลไปได้กว่า 7.5 TB นอกจากนี้แฮ็กเกอร์ยังได้เปลี่ยนรูปเว็บไซต์บริษัทด้วย ‘Yoba face’ ซึ่งฮิตกันในหมู่ผู้ใช้งานรัสเซียออกแนวเกรียน (Trolling) อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นยังได้แชร์ข้อมูลที่ขโมยมาให้กับแฮ็กเกอร์อีกกลุ่มหนึ่งที่ชื่อ Digital Revolution ซึ่งเป็นกลุ่มเบื้องหลังอีกเหตุการณ์แฮ็กบริษัทคู่สัญญา FSB ที่ชื่อ Quantum ในปีก่อน ถัดมาวันที่ 18 ก.ค กลุ่ม Digital Revolution จึงได้เปิดเผยข้อมูลให้แก่นักข่าวรัสเซียออกสู่สาธารณะ โดยโครงการของ SyTech ที่ถูกเปิดเผยออกมามีดังนี้ Nautilus – โปรเจ็คการเก็บสะสมข้อมูลของผู้ใช้งาน Social Media เช่น Facebook, Myspace และ LinkedIn Nautilus-S –…