สังคมโลก : สิ่งตอบแทน

Loading

  ผลสำรวจความคิดเห็นสาธารณะล่าสุด ในสหรัฐอเมริกา พบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่ตอบคำถาม ต้องการเห็นชาวอัฟกันที่เคยทำงานช่วยเหลือทหารกองทัพสหรัฐ และพันธมิตรนาโต ในสงครามอัฟกานิสถาน ได้รับอนุญาตให้ตั้งรกราก เริ่มชีวิตใหม่ในดินแดนอเมริกา มีเพียง 9% ของชาวอเมริกัน ที่คัดค้าน โพลสำรวจโดยสำนักข่าวเอพี-ศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะ เอ็นโออาร์ซี พบว่า 72% ของชาวอเมริกัน ต้องการให้รัฐบาลสหรัฐอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัย แก่ชาวอัฟกันที่เคยเป็นล่ามแปลภาษา หรือ ทำงานอื่น ๆ ช่วยเหลือทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน รวมทั้งสมาชิกในครอบครัว หากกลุ่มคนเหล่านี้ผ่านการตรวจสอบด้านความมั่นคง     ส่วนผลสำรวจคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรับผู้ลี้ภัยและผู้อพยพ อดีตทหารผ่านศึกสงครามอัฟกานิสถาน และทีมงานอพยพชาวอัฟกันออกนอกประเทศ หลังกลุ่มตาลีบันบุกยึดกรุงคาบูล เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มคนเหล่านี้มองว่าเป็น “หน้าที่” และ “ความจำเป็น” ของทางการสหรัฐ ในการช่วยเหลือชาวอัฟกัน ที่เคยช่วยเหลือทหารสหรัฐ ในช่วง 20 ปีของการทำสงครามกับกลุ่มตาลีบันและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ รวมถึง กลุ่มไอเอส ชาวอัฟกันเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อชีวิตสูงมาก เนื่องจากแต่ละคนถูกกลุ่มตาลีบันหมายหัวไว้หมด ในช่วงก่อนที่จะกลับมายึดครองอัฟกานิสถานเกือบทั้งประเทศ  …

กลาโหมไต้หวันคาดจีนจะพร้อมบุกยึดภายในปี 2025

Loading

  กลาโหมไต้หวันคาดจีนจะพร้อมบุกยึดไต้หวันแบบเต็มรูปแบบในปี 2025 ชิวกว๋อเจิ้ง รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไต้หวันเผยต่อคณะกรรมาธิการสภาที่พิจารณางบประมาณพิเศษทางการทหารว่า คาดว่าจีนจะมีศักยภาพเต็มรูปแบบในการบุกรุกโจมตีไต้หวันในปี 2025 “ในปี 2025 จีนจะทำให้ต้นทุนและจำนวนคนต่ำที่สุด ตอนนี้จีนมีศักยภาพแล้วแต่จะไม่เริ่มสงครามง่ายๆ เพราะต้องคำนึงถึงสิ่งอื่นๆ อีก”   เมื่อถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถามถึงความตึงเครียดทางการทหารกับจีนล่าสุด ชิวกว๋อเจิ้งเผยว่า สถานการณ์อยู่ในจุดที่แย่ที่สุดในรอบกว่า 40 ปีนับตั้งแต่เขาเข้าร่วมกับกองทัพ และยังกล่าวว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดในช่องแคบไต้หวันที่มีความอ่อนไหว   “สำหรับผมในฐานะทหารความเร่งด่วนอยู่ตรงหน้านี้แล้ว” ชิวกว๋อเจิ้งเผยกับคณะกรรมาธิการสภา   ทั้งนี้ จากการหารือ งบประมาณพิเศษทางการทหารของไต้หวันในอีก 5 ปีข้างหน้าส่วนใหญ่จะเน้นไปที่อาวุธที่ใช้งานทางทะเล รวมทั้งอาวุธต่อต้านเรือรบ เช่น ระบบขีปนาวุธภาคพื้นดิน ขณะที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เผยว่าได้พูดคุยกับประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน และทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงที่มีอยู่แล้วเกี่ยวกับไต้หวัน   “ผมได้พูดคุยกับสีเกี่ยวกับไต้หวัน เราตกลงกัน เราจะปฏิบัติตามข้อตกลงไต้หวัน นั่นคือสิ่งที่เราคุยกัน และเราพูดอย่างชัดเจนแล้วว่าผมคิดว่าเขาควรทำอย่างอื่นนอกเหนือจากการปฏิบัติตามข้อตกลง”   จากคำพูดดังกล่าวดูเหมือนว่าไบเดนจะเอ่ยถึงความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งสหรัฐยอมรับว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ถูกกฎหมายของจีนแต่เพียงผู้เดียว ความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวันน่าจะเป็นหัวข้อการสนทนาระหว่าง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ และหยางเจี๋ยฉือ…

ลบครหา ‘ฮุน เซน’สั่งแก้กม.ห้ามคนสองสัญชาตินั่งเก้าอี้นายกฯ

Loading

  นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา มีคำสั่งให้แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อห้ามบุคคลที่ถือสัญชาติอื่นด้วย ดำรงตำแหน่งระดับสูงของประเทศ รวมถึงนายกรัฐมนตรี หลังจากการ์เดียนรายงานว่าตัวเขาเป็นคนหนึ่งที่มีพาสปอร์ตไซปรัส รายงานรอยเตอร์กล่าวว่า ฮุน เซน โพสต์ลงเพจเฟซบุ๊กของเขาเมื่อวันพุธที่ 6 ตุลาคมว่า เขาได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการแก้ไขกฎหมายประเด็นดังกล่าว โดยเห็นว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี, ประธานวุฒิสภา, ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานศาลรัฐธรรมนูญ ควรต้องเป็นผู้ที่ถือสัญชาติกัมพูชาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น “เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อชาติ และหลีกเลี่ยงการแทรกแซงจากต่างชาติ“ คำกล่าวของผู้นำกัมพูชาที่ครองอำนาจมานับแต่ปี 2522 มีออกมาไม่กี่วันหลังจากเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนระหว่างประเทศ (ไอซีไอเจ) เผยแพร่รายงานเอกสารลับ “แพนโดราเปเปอร์ส” ที่เปิดโปงผู้นำประเทศ, นักการเมือง และบุคคลมีชื่อเสียงและอิทธิพลจากทั่วโลก ที่เกี่ยวพันกับการปิดบังการถือครองทรัพย์สินในต่างแดน โดยหนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษซึ่งร่วมอยู่ในเครือข่ายไอซีไอเจด้วย รายงานว่า ฮุน เซน ก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ไม่ใช่ชาวยุโรปหลายพันคนที่ถือหนังสือเดินทางของไซปรัส ทนายความของรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธข้อมูลนี้เมื่อวันพุธว่า รายงานของการ์เดียนไม่เป็นความจริง และนายกฯ ฮุน เซน มีสัญชาติกัมพูชาเท่านั้น.   ————————————————————————————————————————————————— ที่มา : ไทยโพสต์       / วันที่เผยแพร่  6…

สหรัฐอ้าง “ความมั่นคง” ไม่ให้วีซ่านักศึกษาจีน “อย่างเจาะจง”

Loading

  รัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันยังคงยึดนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนหน้า ในการไม่ออกวีซ่าให้กับนักศึกษาจีน “ที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพ” สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ว่านับตั้งแต่คำประกาศหมายเลข 10043 ลงนามและมีผลบังคับใช้เมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว โดยผู้นำสหรัฐในเวลานั้น คือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แหล่งข่าวด้านการทูตของจีนเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า รัฐบาลวอชิงตันปฏิเสธการออกวีซ่าให้แก่นักศึกษาจีนอย่างน้อย 500 คน อย่างไรก็ตาม รายงานบางกระแสระบุว่า มีผู้ถูกปฏิเสธวีซ่ามากกว่า 1,000 คนแล้ว ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวของทรัมป์ที่รัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงใช้ต่อ “ไม่ใช่การปิดกั้น” หรือ “ห้ามอย่างเด็ดขาด” ไม่ให้นักศึกษาจีนเข้าไปศึกษาจ่อในสหรัฐ แต่จะเป็นการ “เพิ่มเงื่อนไข” ในการพิจารณาออกวีซ่า “ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง” กล่าวคือ การขอสงวนสิทธิ์ไม่อนุมัติวีซ่าให้แก่บุคคล ซึ่งสหรัฐเชื่อว่า มีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) หรือบุคคลที่รัฐบาลวอชิงตันตรวจพบว่า มาจากสถานบันการศึกษาในจีน “ที่ได้รับความสนับสนุน” จากพีแอลเอ หรือมีความสัมพันธ์กัน   Arirang News แต่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่งกล่าวว่า มาตรการดังกล่าว “มีความจำเป็น” เพื่อ…

เปิดสาเหตุ “ออสเตรเลีย” ต้องการเรือดำน้ำนิวเคลียร์

Loading

  ทำไมออสเตรเลีย ต้องการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อต้องการปกป้องประเทศในหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งเสมือนหลังบ้านของตัวเอง ประเทศที่เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกมี 14 ประเทศ ได้แก่ ปาปัวนิวกินี, ปาเลา, สหพันธรัฐไมโครนีเชีย, หมู่เกาะมาร์แชลล์, นาอูรู, หมู่เกาะโซโลมอน, วานูอาตู, ฟิจิ, ตูวาลู, ตองกา, นีอูเอ, ซามัว, คิริบาส และหมู่เกาะคุก ปาปัวนิวกินี หนึ่งในประเทศแปซิฟิก ที่กำลังเต็มไปด้วยธงสีแดงของจีน โดยจีนมีผลประโยชน์ตั้งแต่การลงทุนขนาดใหญ่ กลุ่มอาคารและสาธารณูปโภคที่กำลังก่อสร้าง ไปจนถึงร้านอาหารจีนที่เกิดขึ้นทั่วเกาะ     เหล่านี้คือประจักษ์พยานของอุ้งมือพญามังกรที่เอื้อมมายังภูมิภาคนี้ คนที่นี่จำนวนมากได้ประโยชน์จากการลงทุนของจีน อย่างน้อยก็ในขณะนี้   อิทธิพลของจีนไม่ได้หยุดอยู่แค่ปาปัวนิวกินี ข้อมูลจาก สถาบัน Lowy Institute ในนครซิดนีย์ระบุว่า ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนเข้ามาลงทุนและให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กลุ่มประเทศในโอเชียเนียหรือประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกมากกว่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 60,000 ล้านบาท รวมถึงยังมีความพยายามล็อบบี้กลุ่มประเทศเหล่านี้เพื่อผลทางการเมือง เช่น ในเดือนกันยายน ปี 2019 ที่จู่ ๆ คิริบาส…

‘บิ๊กป้อม’สั่ง’มั่นคง’ทุกหน่วย ติดตามขบวนการค้าอาวุธชายแดนไทย-พม่า คุมเข้มคลังอาวุธในไทย

Loading

  21 ก.ย.64 – พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาที่ผ่านมา ส่งผลให้ขบวนการค้าอาวุธสงครามตามแนวชายแดน ไทย – เมียนมา กลับมาเคลื่อนไหวถี่ขึ้น และอาจเป็นปัญหานำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้นหลังสิ้นฤดูฝน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง เพิ่มการคุมเข้มเฝ้าระวังและติดตามขบวนการลักลอบค้าอาวุธสงครามข้ามแดนมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับงานข่าวเชิงลึกเชื่อมโยงกับทุกบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การจัดหา การเคลื่อนย้ายนำส่ง ทั้งจากต้นทางและปลายทาง รวมทั้งเส้นทางการเงินของทั้งขบวนการ โดยเฉพาะการจับกุมเครือข่ายขบวนการค้าอาวุธใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีที่ผ่านมา ซึ่งพบความเชื่อมโยงกับบุคคลในหลายวงการ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้เร่งสืบสวนขยายผลดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมดไม่มียกเว้น ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำว่า ไทยไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในเมียนมาทุกกรณี พร้อมทั้ง ขอให้ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดกวดขันการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ กระสุนและวัตถุระเบิดในความรับผิดชอบของทุกหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เกิดการสูญหายอย่างเด็ดขาด สำหรับหน่วยงานที่พบอาวุธปืนสูญหายหรือถูกลักลอบโจรกรรม ให้เร่งสอบสวนขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และต้องติดตามนำอาวุธกลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อมิให้นำไปสร้างปัญหาความรุนแรงต่อไป.   —————————————————————————————————————— ที่มา : ไทยโพสต์     / วันที่เผยแพร่ 21 กันยายน 2564…