ผู้ประท้วงปะทะ จนท.รัฐบาลกลางเมืองพอร์ตแลนด์หลังศาลสั่งห้ามการใช้กำลัง

Loading

Protesters throw flaming debris over a fence at the Mark O. Hatfield United States Courthouse on Wednesday, July 22, 2020, in Portland, Ore. Following a larger Black Lives Matter Rally, several hundred demonstrators faced off against federal… ประชาชนในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ยังคงเดินหน้าประท้วงต่อเนื่อง และปะทะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง หลังศาลออกคำสั่งยับยั้งไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันส่งมา ใช้กำลังกับผู้สื่อข่าวและผู้สังเกตการณ์เหตุประท้วง ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ชุมนุมปะทะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางที่ปักหลักดูแลอาคารสำนักงานศาลของเมืองพอร์ตแลนด์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่บางส่วนจะยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชน เพื่อกันให้ออกจากบริเวณอาคาร พร้อมประกาศว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย เหตุปะทะกันระหว่างทั้งสองฝ่ายนี้เกิดขึ้น หลังผู้พิพากษา ไมเคิล ไซมอน ออกคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยับยั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางไม่ให้ใช้กำลัง เข้าสลาย…

ประท้วงเดือดเมืองพอร์ตแลนด์ ม็อบบุกเผา สน. เทศมนตรีจี้ทหารออกจากเมือง

Loading

ความไม่สงบในเมืองพอร์ตแลนด์ของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดกลุ่มผู้ประท้วงก่อเหตุบุกเผาสำนักงานตำรวจ และปะทะกับเจ้าหน้าที่ จนมีผู้บาดเจ็บ สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สำนักงานตำรวจเมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐโอเรกอน ของสหรัฐฯ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 ก.ค. 2563 ตามเวลาท้องถิ่น ว่า ผู้ประท้วงบุกเข้าไปภายในสำนักงานสมาคมตำรวจทางเหนือของเมืองพอร์ตแลนด์แล้วจุดไฟเผา ขณะที่ผู้ประท้วงบางคนขว้างปาก้อนหินและลูกโป่งบรรจุสีใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ในขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงกลุ่มใหญ่ออกมารวมตัวกันใกล้สำนักงานศาลรัฐบาลกลางและศูนย์ยุติธรรม ในย่านใจกลางเมือง โดยบางคนถอนรั้วที่เจ้าหน้าที่นำมาวางกั้นรอบสำนักงานศาลออกไปด้วย ทั้งนี้ ชาวเมืองพอร์ตแลนด์ ออกมาชุมนุมต่อเนื่องอย่างน้อย 50 คืนแล้ว นับตั้งแต่การเสียชีวิตของ นายจอร์จ ฟลอยด์ โดยในเบื้องต้นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ และการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ซึ่งการประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ แม้จะมีการปะทะกันประปราย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การประท้วงส่วนใหญ่มีแรงผลักดันจากความไม่พอใจวิธีการรับมือการประท้วงของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง รวมทั้งการให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่พกตราประจำตัว ออกจับกุมผู้ประท้วง นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงมาตุภูมิ จับผู้ประท้วงแล้วพาตัวขึ้นรถที่ไม่มีตราตำรวจด้วย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความปกป้องการกระทำของเจ้าหน้าที่ในวันอาทิตย์ “เราพยายามช่วยพอร์ตแลนด์ ไม่ได้ทำร้าย” นายทรัมป์ ระบุ “ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้นำของพวกเขาควบคุมพวกนิยมอนาธิปไตยและพวกผู้ปลุกปั่นไม่ได้ พวกเขามีมาตรการไม่เพียงพอ เราต้องปกป้องทรัพย์สินของรัฐบาลกลาง และประชาชนของเรา…

ทำไมเราจึงถือหนังสือเดินทางพิเศษและอพยพออกจากบ้านเกิด

Loading

เกรซ ชอย บีบีซี นิวส์ ฮ่องกง นับตั้งแต่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่มีความเข้มงวด ผู้คนก็เริ่มพูดคุยกันถึงกลยุทธ์การอพยพออกจากฮ่องกง มีชาวฮ่องกงมากถึง 3 ล้านคนที่สามารถอพยพออกไปได้โดยใช้หนังสือเดินทางสัญชาติบริติชโพ้นทะเล (British National Overseas–BNO) พวกเขาจะเลือกใช้แนวทางนี้อพยพออกไปจริง ๆ หรือไม่ แล้วคนที่เหลืออยู่จะทำอย่างไร ไมเคิลและเซเรนา ตัดสินใจเดินทางออกจากฮ่องกงเป็นการถาวร และไปลงหลักปักฐานในสหราชอาณาจักร ประเทศที่พวกเขาไม่เคยย่างเท้าไปเหยียบ สามีภรรยาคู่นี้มีหนังสือเดินทาง BNO ซึ่งออกให้กับชาวฮ่องกงที่ลงทะเบียนก่อนที่จะมีการส่งมอบฮ่องกงคืนให้แก่จีนในเดือน ก.ค. 1997 หนังสือเดินทางประเภทนี้มอบสิทธิ์ในการได้รับความช่วยเหลือด้านกงสุลหลายอย่าง สำหรับหลายคนการนำหนังสือเดินทางนี้ไปใช้ประโยชน์ดูเหมือนจะมีข้อจำกัดอยู่มาก แต่มันก็ช่วยให้เดินทางเข้าสหราชอาณาจักรและยุโรปได้ง่ายขึ้น คนบางส่วนจึงสมัครขอหนังสือเดินทางนี้ไว้ ชาวฮ่องกงจำนวนมากอาจจะคิดว่า ทำไมจะไม่ขอไว้ล่ะ ไมเคิลและเซเรนา เดินทางออกจากฮ่องกงพร้อมกับลูกสาววัย 13 ปี พวกเขาเป็นผู้จัดการธนาคาร และซื้อแฟลตหลังหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน การเดินทางออกมาจึงมีหลายอย่างที่ต้องสละทิ้ง มีการประท้วงที่รุนแรงหลายครั้งในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว พวกเขาบอกว่า ฮ่องกงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว หลังจากต้องเผชิญกับการประท้วงยืดเยื้อนานหลายเดือนที่มีชนวนมาจากร่างกฎหมายที่เสนอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ได้ สิ่งที่สามีภรรยาคู่นี้มองเห็นคือ รัฐบาลที่ไม่ฟังเสียงประชาชน และตำรวจที่ใช้กำลังกับประชาชนโดยไม่มีการยับยั้ง ลูกสาวของพวกเขาได้รับผลกระทบอย่างมากจากการประท้วง แม้ว่าทางครอบครัวไม่ได้เข้าร่วมการประท้วงเพราะทั้งสองคนทำงานที่ธนาคารของจีนแห่งหนึ่ง ซึ่งพนักงานจะถูกไล่ออกหากเข้าร่วมประท้วง “ลูกโกรธและหงุดหงิดมาก เธอถาม ลูกถามตลอดว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ทางการถึงทำกับเราอย่างนั้น” เซเรนาเล่า เธอบอกว่าลูกสาวบอกกับเธอและสามีว่า…

ตาลิบานถล่มที่ทำการสายลับอัฟกานิสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

Loading

Explosions in Samangan province, Afghanistan ทางการอัฟกานิสถานรายงานว่า เหตุโจมตีล่าสุดโดยกลุ่มตาลิบานส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 63 คน รายงานข่าวระบุว่า การจู่โจมที่ทำการกองอำนวยการความมั่นคงแห่งชาติ (National Directorate of Security – NDS) ในจังหวัดซามาร์คันด์ ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถานโดยกองกำลังตาลิบานนี้ เกิดขึ้นหลังมีการโจมตีกองทัพอัฟกานิสถานมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ทหารของอัฟกานิสถานเสียชีวิตไปหลายรายแล้ว ขณะที่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อความพยายามของสหรัฐฯ ในการเจรจาสร้างสันติภาพในภูมิภาคนี้ด้วย อับดุล อิบราฮิมิ ผู้ว่าการจังหวัดซามาร์คันด์ บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ว่า ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีผู้หญิงอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง ต้องตกเป็นเหยื่อของการโจมตีครั้งล่าสุดในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ กองกำลังตาลิบานยืนยันว่าได้ส่งเครื่องบินรบ 3 ลำทำปฏิบัติการณ์ล่าสุด ซึ่งสามารถทำการสังหารบุคลากรของหน่วย NDS และทำใหมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี รายงานข่าวว่า การออกมากล่าวอ้างประกาศความสำเร็จในการโจมตีใดๆ ของกลุ่มติดอาวุธก่อความไม่สงบมักจะเป็นการพูดเกิดความจริงเสมอ เจ้าหน้าที่จังหวัดซามาร์คันด์ กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย จุดระเบิดรถที่จอดอยู่ที่หน้าทางเข้าหลักของที่ทำการ NDS เพื่อเปิดทางให้สมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ เข้าจู่โจมภายในและปะทะกับกองกำลังอัฟกานิสถานอยู่หลายชั่วโมง การโจมตีหน่วยงานสายลับของอัฟกานิสถานครั้งนี้ เป็นเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง…

‘อิหร่าน’ยอมรับโรงงานนิวเคลียร์เสียหาย ลือวินาศกรรมไซเบอร์ต้นเหตุไฟไหม้ ขณะผบ.นาวีขู่ เตหะรานสร้าง ‘เมืองขีปนาวุธใต้ดิน’ ตลอดแนวชายฝั่ง

Loading

ภาพอาคารที่ได้รับความเสียหายหลังหนึ่ง ภายหลังเกิดไฟไหม้ขึ้นที่โรงงานนิวเคลียร์ “นาตันซ์” ของอิหร่าน ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอิสฟาฮานของอิหร่าน เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ก.ค.) ที่ผ่านมา ภาพนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รับจาก องค์การพลังงานปรมาณูอิหร่าน/สำนักข่าว WANA เอเจนซีส์ – อิหร่านยอมรับโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดิน “นาตันซ์” ของตนเสียหายหนักจากไฟไหม้เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่บางคนระบุว่า อาจเป็นการก่อวินาศกรรมในระบบไซเบอร์ เจ้าหน้าที่นิวเคลียร์ของอิหร่านระบุในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านประกาศในวันเดียวกันว่า เตหะรานสร้าง “เมืองขีปนาวุธ” ใต้ดินไว้ตลอดแนวชายฝั่ง และเตือนศัตรูจะต้องเจอ “ฝันร้าย” หลังจากเกิดไฟไหม้ที่โรงงานนาตันซ์เมื่อวันพฤหัสบดี (2) สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการเตหะรานเผยแพร่บทความชิ้นหนึ่งในวันเดียวกัน กล่าวถึงความเป็นไปได้การก่อวินาศกรรมโดยศัตรูอย่างอิสราเอลและอเมริกา แต่ไม่ได้มีการกล่าวหาประเทศใดโดยตรง วันรุ่งขึ้น (3) เจ้าหน้าที่อิหร่าน 3 คนที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ บอกกับสำนักงานข่าวรอยเตอร์ว่า เชื่อว่า เหตุไฟไหม้เป็นผลจากการโจมตีทางไซเบอร์ แต่ก็ไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยัน ต่อมาในวันอาทิตย์ (5) รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลไม่จำเป็นต้องอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลึกลับในอิหร่านทุกครั้ง ในวันอาทิตย์เช่นกัน ไออาร์เอ็นเอยังรายงานโดยอ้างคำพูดของ เบห์รุซ คามัลวานดี โฆษกองค์การพลังงานปรมาณูอิหร่านว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้การพัฒนาเครื่องหมุนเหวี่ยงขั้นสูงเพื่อเพิ่มสมรรนะยูเรเนียมของอิหร่านต้องล่าช้าในระยะปานกลาง แต่ประเทศของเขาจะติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสูงกว่ามาใช้แทนอุปกรณ์ที่เสียหาย โฆษกผู้นี้สำทับว่า ถีงแม้โรงงานได้รับความเสียหาย…

ยักษ์ใหญ่เทคโนฯ ต้านกฎหมายความมั่นคงใหม่ฮ่องกง ให้อำนาจรัฐเซ็นเซอร์โลกออนไลน์

Loading

สำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทางการจีนเริ่มเดินหน้าใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับฮ่องกง ในการเซ็นเซอร์อินเตอร์เน็ตและการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานในฮ่องกง โดยแผนการสกัดกั้นบนโลกออนไลน์ของกฎหมายใหม่นี้ ถูกเผยแพร่ออกมาในเอกสารของรัฐบาล 116 หน้าเมื่อช่วงคืนวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งยังชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มอำนาจให้แก่ตำรวจในการออกหมายเพื่อบุกค้นและเฝ้าระวัง โดยก่อนหน้านี้ จีนไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงต่อฮ่องกง ยกเว้นเรื่องการห้ามการก่อการร้าย การล้มล้าง การแยกตัว และการสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการออกมารับรองว่าจะมีกลุ่มคนที่ตกเป็นเป้าของกฎหมายนี้จำนวนไม่มาก แต่รายละเอียดที่ออกมาแสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเรื่องเสรีภาพและสิทธิของผู้คนในฮ่องกง นับตั้งแต่อังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีน เมื่อปี ค.ศ.1997 โดยกฎหมายใหม่ ยังให้อำนาจแก่รัฐบาลในเรื่องโลกออนไลน์อย่างเต็มที่ ตำรวจจะมีอำนาจในการควบคุมและยกเนื้อหาออนไลน์ออกได้ หากมีเหตุผลมากพอว่าเป็นข้อมูลที่ต้องสงสัยว่าจะละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ และบริษัทอินเตอร์เน็ต รวมทั้งผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต สามารถถูกสั่งให้ถอดเนื้อหา และถูกยึดอุปกรณ์ ถูกปรับเงิน รวมทั้งถูกจำคุก 1 ปี หากปฏิเสธที่จะทำตามกฎหมาย และอาจจะต้องให้บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยถอดรหัสการเข้าถึงด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากอเมริกา อย่างเฟซบุ๊ก กูเกิล และทวิตเตอร์ ต่างออกมาปฏิเสธการที่รัฐบาลหรือตำรวจฮ่องกงจะมาขอข้อมูลผู้ใช้งาน เนื่องจากเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล นางแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปกป้องกฎหมายความมั่นคงใหม่สำหรับฮ่องกง ที่รัฐบาลปักกิ่งเพิ่งผ่านร่างกฎหมายไป ว่า เป็นกฎหมายที่จะช่วยฟื้นฟูเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของฮ่องกง ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงจะนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้อย่างเข้มแข็ง พร้อมกับขอเตือนล่วงหน้าสำหรับพวกสุดโต่งว่าอย่าได้พยายามที่จะละเมิดกฎหมาย…