เพนตากอนมอบสัญญารับเหมาระบบคลาวน์หมื่นล้านให้ ‘ไมโครซอฟท์’

Loading

Microsoft’s corporate headquarters in Redmond, Washington. (Photo: Diaa Bekheet) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน มอบสัญญารับเหมาติดตั้งระบบคลาวน์คอมพิวเตอร์ มูลค่าหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ ให้แก่บริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) ซึ่งถือว่าพลิกความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้คาดกันว่าบริษัทแอมะซอน (Amazon) จะได้สัญญาฉบับนี้ สัญญาโครงการ Joint Enterprise Defense Infrastructure, or JEDI ถือเป็นสัญญาที่มีมูลค่ามหาศาล และทำให้เกิดการแข่งขันของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ หลายบริษัท ได้แก่ ไมโครซอฟท์ แอมะซอน ออราเคิล และไอบีเอ็ม มีข่าวว่าแอมะซอนจะเป็นผู้ชนะโครงการนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทออราเคิลได้ยื่นคำร้องต่อศาล แต่ถูกปัดตกไป แต่เมื่อเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมากล่าวว่า รัฐบาลจะพิจารณากระบวนการคัดเลือกผู้รับเหมาโครงการนี้อีกครั้งหลังจากมีการร้องเรียน ซึ่งที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ มักวิจารณ์บริษัทแอมะซอน และ เจฟฟ์ เบโซส ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ วอชิงตัน โพสต์ อยู่เสมอ ระบบ JEDI จะจัดเก็บข้อมูลลับปริมาณมหาศาลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เอาไว้ในเครือข่ายคลาวน์คอมพิวเตอร์…

สงครามโดรน : สงครามเก่ากำลังจากไป สงครามใหม่มาถึงแล้ว!

Loading

“ผู้ควบคุม [โดรน] สามารถระบุเป้าหมาย เฝ้ามอง และทันใดนั้นโจมตีจากระยะหลายพันไมล์ที่ห่างไกลออกไป โดยไม่จำเป็นต้องเอาทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายแต่อย่างใด” Lawrence Freedman (2017) คอลัมน์ ยุทธบทความ ผู้เขียน สุรชาติ บำรุงสุข   เมื่อศตวรรษที่ 21 เริ่มต้นขึ้นนั้น โลกได้เห็นอุปกรณ์ทางทหารชุดหนึ่งที่นักการทหารหลายคนได้ให้ความสนใจอย่างมาก คือการปรากฏตัวของ “อากาศยานไร้คนขับ” หรือเรียกว่า “อากาศยานไร้นักบิน” (Unmanned Aerial Vehicles หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า UAVs) ซึ่งปัจจุบันถูกเรียกว่า “โดรน” (Drones) และอุปกรณ์ทางทหารนี้กำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญของศตวรรษปัจจุบัน และอาจจะเป็นอาวุธที่จะมีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าสงครามในอนาคต พัฒนาการ โดรนอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีการใช้โดรนมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว แต่เป็นเพียงการใช้เพื่อการเป็นเป้าซ้อมยิงของนักบิน และด้วยเงื่อนไขทางเทคโนโลยี โดรนจึงยังไม่สามารถพัฒนาให้มีขีดความสามารถในการรบได้ แต่แนวคิดที่จะสร้างโดรนให้ทำการรบได้ (combat drone) เกิดขึ้นในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ด้วยข้อจำกัดของการพัฒนาทางเทคโนโลยี แนวคิดนี้จึงปรากฏอยู่ในบทความของประดิษฐกรรมทางวิทยาศาสตร์ สำหรับโดรนทางทหารสมัยใหม่เป็นผลมาจากการคิดของฟอสเตอร์ (John S. Foster) ที่เป็นวิศวกรนิวเคลียร์ฟิสิกส์ชาวอเมริกันในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 ที่เชื่อว่าเครื่องบินจำลองน่าจะนำมาใช้ประโยชน์ในทางทหารได้…

‘ไบโอเมตริก’ ตรวจจับต่างชาติติดแบล็คลิสต์แอบลักลอบเข้าประเทศ

Loading

“ไบโอเมตริก” ตรวจจับต่างชาติติดแบล็คลิสต์แอบลักลอบเข้าประเทศ หลังเปลี่ยนชื่อ-เปลี่ยนพาสปอร์ต หวังตบตาเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.62 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. ร่วมกันแถลงจับกุมชาวต่างชาติติดแบล็คลิสท์ แอบลักลอบเข้าประเทศ หลังทำการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนพาสปอร์ต หวังตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ถูกตรวจสอบด้วยระบบไบโอเมตริก (Biometrics) หลังขอต่อวีซ่า เพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีกครั้ง โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวที่มีรายชื่อติดแบ็ลลิสท์แอบลักลอบเข้าประเทศ จำนวน 13 คน เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้ 1 คน สัญชาติจีน 4 คน สัญชาติเบลเยี่ยม 1 คน สัญชาติอียิปต์ 2 คน สัญชาติอุซเบก 2 คน สัญชาติเมียนม่า 1 สัญชาติอินเดีย 1 คน และสัญชาติซีเรีย อีก…

ชิลีขยายเวลาเคอร์ฟิว หลังยอดตายพุ่ง 7 ศพ

Loading

ทางการชิลีต้องประกาศขยายเวลาเคอร์ฟิวในกรุงซานติอาโกเป็นวันที่ 2 หลังเกิดเหตุกลุ่มปล้นชิงทรัพย์จุดไฟเผาโรงงานเย็บผ้าชานเมืองหลวง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมเป็น 7 รายแล้ว ประธานาธิบดีบราซิลได้จัดการประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐในช่วงเย็นวันที่ 20 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับยืนยันความจำเป็นที่จะต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา และส่งทหารหลายพันนายไปประจำการอยู่บนท้องถนน “ประชาธิปไตยไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของสิทธิ แต่ยังมีพันธะกรณีที่จะป้องกันในทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดการกับผู้ที่ต้องการทำลายมัน”ประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา ของชิลีระบุ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารต้องยิงแก๊สน้ำตารวมถึงปืนฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุมในกรุงซานติอาโก หลังกลุ่มผู้ประท้วงก่อเหตุเนื่องจากไม่พอใจที่มีการขึ้นค่ารถไฟฟ้ารวมถึงไม่พอใจต่อความไม่เท่าเทียมทางสังคม โดยการประท้วงยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 3 ทั้งนี้ระบบขนส่งมวลชนเกือบทั้งหมดในกรุงซานติอาโกซึ่งมีพลเมืองอาศัยอยู่ราว 7,000,000 คนต้องยุติการให้บริการในวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ร้านค้าก็ปิดทำการ และมีรายงานด้วยว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งขาเข้าและขาออกจากกรุงซานติอาโกจำนวนมากถูกยกเลิก ———————————————— ที่มา : มติชน / 21 ตุลาคม 2562 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_1720556

สถานทูตเตือนคนไทยในบาร์เซโลนา หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุม หลังมีแนวโน้มรุนแรง

Loading

(Photo by Pau Barrena / AFP) สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งข้อมูลและคำแนะนำแก่ผู้ที่พำนักและเดินทางมาท่องเที่ยวในนครบาร์เซโลนาเกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ในช่วงนี้ ดังนี้ 1. คาดว่าสถานการณ์การชุมนุมจะยังคงยืดเยื้อ โดยผู้ชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์วันที่ 19-20 ต.ค.2562 น่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีแนวโน้มของการใช้ความรุนแรงในช่วงค่ำ 2. เหตุชุมนุมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเดินทางภายในแคว้นคาตาโลเนีย รวมถึงการใช้บริการท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในนครบาร์เซโลนา ซึ่งอาจให้บริการได้ไม่เต็มที่ โดยมีรายงานข่าวกลุ่มคนกีดขวางเส้นทางการจราจรอยู่เป็นระยะ อีกทั้งอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โอกาสในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมก่ออาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น 3. สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุม และพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วง ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางการสเปนอย่างเคร่งครัด และติดตามข่าวสารเป็นระยะ โดยอาจตรวจสอบจากสื่อสเปนที่เป็นภาษาอังกฤษ ได้แก่ https://elpais.com/elpais/inenglish.html 4. ท่านสามารถตรวจสอบเที่ยวบินได้ที่หน่วยงานด้านการบินของสเปน http://www.aena.es/en/passengers/passengers.html และการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนในนครบาร์เซโลนาที่ https://twitter.com/TMB_Barcelona 5. กรณีฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางหมายเลข 00 34 660 24 2507 หรือ line id: hotlinemadrid ได้ตลอด 24…

สภาฮ่องกงยังวุ่น ฝ่ายค้านประท้วงจนผู้นำอภิปรายไม่ได้

Loading

สภานิติบัญญัติของฮ่องกงยังไม่สามารถเปิดประชุมได้เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จากการที่บรรดาสมาชิกฝ่ายค้านยังคงประท้วงขับไล่นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหาร ส่วนแกนนำม็บที่ถูกลอบทำร้ายมีอาการดีขึ้นแล้ว สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่าความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติฮ่องกงในการเปิดประชุมสภานิติบัญญัติ (เล็กโค) เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อให้นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหาร ได้มีโอกาสอภิปรายและตอบกระทู้ถามสดของสมาชิก หลังการประชุมเมื่อวันพุธที่เป็นการแถลงนโยบายไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านประท้วงอย่างหนัก จนผู้นำหญิงของฮ่องกงต้องออกจากที่ประชุมเพื่อไปบันทึกเทปการแถลงนโยบาย แล้วออกอากาศทางโทรทัศน์แทน ยังคงเป็นไปด้วยความวุ่นวายและโกลาหล จากการที่สมาชิกพรรคฝ่ายค้านหลายคนประท้วงและตะโกนด่าทอเธอ ขณะที่สมาชิกฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านหลายคนชกต่อยกันเองในสภา จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องระดมกำลังเพิ่มเป็นพิเศษ และนำตัวบรรดาสมาชิกอารมณ์ร้อนทั้งหมดออกไปสงบสติด้านนอก นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง เดินออกจากห้องประุชมสภา หลังไม่สามารถอภิปรายได้เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน เพราะฝ่ายค้านประท้วงอย่างหนัก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำตัวนายจิมมี ซั้ม ในสภาพได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้การประชุมเกิดขึ้นไม่ได้ ไม่ต่างจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง นายจิมมี ซั้ม ผู้นำแนวร่วมสิทธิมนุษยชนพลเรือน ( ซีเอชอาร์เอฟ ) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระเคลื่อนไหวทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน  เปิดเผยผ่านบัญชีสังคมออนไลน์ของตัวเอง ว่าอาการบาดเจ็บของเขา “ดีขึ้นเป็นลำดับ” หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ทราบฝ่ายรุมทำร้ายโดยใช้ค้อนเป็นอาวุธ…