เทคนิคลดความเสี่ยง จาก ‘รอยเท้าดิจิทัล’

Loading

  ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมาผมได้รับข้อความจากค่ายเพลง Spotify ที่เป็นสมาชิก เพื่อสรุปรายละเอียดการใช้ Spotify ของผมในรอบปีที่ผ่านมา บทสรุปมีรายละเอียดมากมายซึ่งคือ “รอยเท้าดิจิทัล” (Digital Footprint) ที่เกิดจากการใช้บริการบนโลกออนไลน์ของผม   ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมาผมได้รับข้อความจากค่ายเพลง Spotify ที่เป็นสมาชิก เพื่อสรุปรายละเอียดการใช้ Spotify ของผมในรอบปีที่ผ่านมาว่า ฟังเพลงไปกี่นาที เพลงหรือศิลปินคนไหนบ้างที่ผมฟังมากที่สุด และใช้เวลาไปกี่นาที บทสรุปมีรายละเอียดมากมายซึ่งคือ “รอยเท้าดิจิทัล” (Digital Footprint) ที่เกิดจากการใช้บริการบนโลกออนไลน์ของผม   รอยเท้าดิจิทัล ที่ผมใช้บริการมีอยู่มากมายที่แอปต่าง ๆ เปิดให้ผมดูได้ ตั้งแต่การสั่งอาหาร หรือเรียกใช้บริการรถสาธารณะออนไลน์ ที่สามารถดูได้ว่าสั่งร้านใดไปเมื่อไร เดินทางไปไหน หรือ แม้แต่ว่าสั่งรายการอะไร มีข้อมูลบัตรทางด่วนที่เห็นรายละเอียดได้ว่าไปจ่ายที่ด่านไหน วันเวลาอะไร รวมถึงการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ เช่น การใช้พร้อมเพย์ โมบายแบงกิ้ง หรือการจ่ายเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตอย่าง True Money ที่จะเห็นรายละเอียดต่างๆ   นอกจากนี้หากไปดูข้อมูลในโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่ผมใช้บริการจะมีรอยเท้าดิจิทัลของผมอีกว่า ผมโพสต์ข้อมูลใดบ้าง เมื่อไร ผมไปกดไลค์ข้อความไหน ใครเป็นเพื่อนผมบ้าง…

Brave จัดให้ บล็อกแบนเนอร์บนหน้าเว็บ เลิกกดยินยอม ให้เก็บข้อมูล

Loading

  ต้องยอมรับว่า Brave เป็นเบราว์เซอร์ที่กล้าหาญสมชื่อเค้าจริง ๆ นะ ด้วยการที่ออกมาประกาศว่า เบราว์เซอร์ในเวอร์ชั่นใหม่นี้จะบล็อกแบนเนอร์ที่ให้เรากดยินยอมการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ   หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ ที่ต้องกดยินยอมให้เว็บใช้คุกกี้กันมาบ้างแล้ว จากกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่รัฐบาลบังคับใช้งาน โดยหนึ่งในนั้นคือข้อมูลการท่องเว็บของผู้ใช้ก็ถือเป็นข้อมูลส่วนตัวเหมือนกัน ทำให้ทุกเว็บไซต์ต้องมีการขออนุญาต ก่อนจะทำการเก็บข้อมูลครับ   โดยมันจะขึ้นมาเป็นแบนเนอร์ให้เรากด ซึ่งต้องกดทุกครั้งที่เข้าเว็บใหม่ และนั่นทำให้ Brave มองว่า มันอาจไปรบกวนประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ จึงเป็นที่มาว่า Brave ในเวอร์ชันถัดไปนี้ จะทำการ Block แบนเนอร์ที่ขึ้นมาให้กดยินยอมคุกกี้ เพื่อลดความรำคาญของผู้ใช้   หากย้อนกลับไปก่อนที่กฏหมายหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล GDPR (ยุโรป) และ PDPA (ไทย) จะถูกบังคับใช้ ทุกเว็บจะมีการเก็บคุกกี้ผู้ใช้งานอยู่แล้ว เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในด้านต่าง ๆ ครับ   ซึ่งในตอนนั้น Brave ก็เป็นเบราว์เซอร์เดียวที่บล็อกการเก็บคุกกี้ได้แบบ Default หรือก็คือติดตั้งเสร็จ เปิดใช้งานมันก็จะบล็อกให้เลย แตกต่างจากเบราว์เซอร์อื่นที่ต้องไปตั้งค่าใหม่เอง หรือบางอันก็ไม่สามารถทำการบล็อกคุกกี้ได้เลยครับ ดังนั้นการบล็อกแบนเนอร์นี้จึงเป็นอีกขั้นที่อาจทำให้ User ชอบใช้งาน Brave…