จีนคุมเข้มส่งออกโดรน อ้างเหตุความมั่นคง-ศึกเทคโนโลยีสหรัฐระอุ

Loading

  จีนคุมเข้มส่งออกโดรน – วันที่ 31 ก.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการจีนประกาศออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิ้นส่วนและอะไหล่บางชนิดที่เกี่ยวข้องกับโดรน ท่ามกลางความตึงเครียดการแข่งขันดุเดือดกันระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา   มาตรการควบคุมการส่งออกนั้นรวมถึงชิ้นส่วนประเภท เครื่องยนต์ เลเซอร์ การสื่อสาร และอุปกรณ์ต่อต้านโดรนทุกชนิด โดยจีนให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป   โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า มาตรการควบคุมใหม่จะส่งผลกระทบต่อโดรนเชิงพาณิชย์สำหรับประชาชนทั่วไปด้วย โดยจีนจะไม่อนุญาตให้ส่งออกโดรนพลเรือนเพื่อนำไปดัดแปลงใช้เป็นอาวุธทางทหาร   “การขยายขอบเขตมาตรการควบคุมการส่งออกโดรนที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งสะท้อนสำคัญถึงจุดยืนความรับผิดชอบของจีนต่อเสถียรภาพและสันติภาพของประชาคมโลก” โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ระบุ และว่าทางการจีนดำเนินการแจ้งเรื่องต่อบรรดาชาติผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว   รายงานระบุว่า จีนเป็นหนึ่งในชาติที่มีอุตสาหกรรมการผลิตโดรนขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยส่งออกโดรนไปยังตลาดหลายแห่ง ในจำนวนนี้ รวมถึงสหรัฐฯด้วย   ข้อมูลจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หรือสส.คองเกรส ระบุว่า โดรนเชิงพาณิชย์ที่มีจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปในสหรัฐฯ นั้นเป็นแบรนด์ ดีเจไอ (DJI) ที่นำเข้ามาจากจีนถึงร้อยละ 50 ทั้งยังถือเป็นโดรนพาณิชย์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดด้วย   อย่างไรก็ตาม บริษัท ดีเจไอ ผู้ผลิตและพัฒนาโดรนยอดนิยม ประเทศจีน ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ…

ไต้หวันลุยสอบเจ้าหน้าที่ต้องสงสัยปล่อยข้อมูลลับรั่วไหลถึงมือจีน

Loading

  ไต้หวันเปิดปฏิบัติการสอบสวนเจ้าหน้าที่หลายคนที่ต้องสงสัยว่าแอบเปิดเผยความลับทางการทหารให้กับจีน ตอกย้ำถึงภัยคุมคามด้านการจารกรรมข้อมูลจากจีนที่ไต้หวันต้องเผชิญ   กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุผ่านแถลงการณ์ในวันนี้ (2 ส.ค.) ว่า มีหลักฐานซึ่งบ่งชี้ว่า บุคลากรทางการทหาร ซึ่งรวมถึงนายทหารระดับพันโท ได้มอบข้อมูลที่ละเอียดอ่อนให้แก่คณะผู้แทนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน   ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ลิเบอร์ตี้ ไทม์สของไต้หวันรายงานว่า สมาชิกกองทัพอากาศและกองบัญชาการพิเศษทั้งที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่และที่เกษียณไปแล้วหลายรายตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ปล่อยข้อมูลลับให้กับจีน โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่รายงานว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวไว้ 2 คน ขณะที่อีก 4 คนได้รับการประกันตัว   กองทัพไต้หวันต้องเผชิญความยากลำบากอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดสายลับที่เชื่อมโยงกับจีน โดยสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทางการทหารที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน มีความกังวลมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับความสามารถของไต้หวันในการเก็บความลับทางเทคโนโลยีและความลับอื่น ๆ ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของจีน   กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในวันนี้ว่า ทางกระทรวงฯ จะเพิ่มการให้ความรู้เกี่ยวกับความพยายามในการแทรกซึมจากจีนให้กับบุคลากรไต้หวัน ควบคู่ไปกับการยกระดับการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ นายอเล็กซ์ หวง รองเลขาธิการของทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลครั้งล่าสุดว่า “เป็นเหตุการณ์ที่น่าละอายยิ่งและผู้กระทำผิดสมควรได้รับการลงโทษอย่างหนัก”   เมื่อปลายปีที่แล้ว กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า การสอดแนมจากจีนเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรง และต่อมาในเดือน ม.ค. ไต้หวันได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ประจำการ 3 นายและเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศที่เกษียณไปแล้ว 1 นายในข้อหาสอดแนม      …

ไต้หวันประกาศยกระดับ ‘ต่อต้านจารกรรม’ หลังพบทหารถูกซื้อตัวเป็น ‘สายลับจีน’

Loading

  กองทัพไต้หวันประกาศยกระดับความพยายามต่อต้านการจารกรรม หลังพบว่ามีทหารทั้งที่ยังรับราชการและปลดประจำการแล้วหลายนายทำงานเป็น “สายลับ” ให้จีน   รายงานการสอบสวนของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้จีนได้ใช้ปฏิบัติการจารกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะบั่นทอนความเข้มแข็งของกองทัพและคณะผู้นำไทเป รวมถึงบีบให้ไต้หวันยอมรับว่าเป็นดินแดนในอธิปไตยของจีน   สำนักข่าวกลางไต้หวัน (CNA) รายงานว่า พันโท “เซียว” (Hsiao) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในกองบัญชาการการบินและหน่วยรบพิเศษไต้หวัน ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยว่านำความลับด้านกลาโหมไปเปิดเผยแก่ “กองกำลังต่างชาติ รวมถึงจีน” และ “ก่อตั้งองค์กร” ขึ้นในไต้หวัน   พนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจค้นกองบัญชาการทหารที่เมืองเถาหยวน (Taoyuan) ในสัปดาห์นี้ และยังมีทหารที่เกษียณอายุราชการแล้วอีก 4 นาย รวมถึงชายแซ่ “เซียว” (Hsiao) ซึ่งทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” ถูกนำตัวมาสอบสวน   กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ทางการได้ “รวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างแน่นหนา” ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นจริง   “ท่ามกลางความพยายามแทรกซึมโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน กองกำลังแห่งชาติจะยังคงส่งเสริมการให้ความรู้ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการจารกรรม”   กระทรวงยังระบุด้วยว่า รู้สึกเสียใจที่มีชาวไต้หวันจำนวนหนึ่งก่ออาชญากรรมด้วยการ “ขายชาติบ้านเมืองและประชาชน” ของตัวเอง   อเล็กซ์ หวง รองเลขาธิการของทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวว่า…

หนุ่มฮ่องกงโดนคุก ฐานใส่เพลงประท้วงแทนเพลงชาติจีน ในคลิปนักกีฬาโอลิมปิก

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายเฉิง หวิงชุน ช่างภาพชาวฮ่องกง วัย 27 ปี ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 เดือน ในวันนี้ (20 ก.ค.) โทษฐานดูหมิ่นเพลงชาติจีน ด้วยการใส่เพลงประท้วงลงในคลิปวิดีโอนักกีฬาฮ่องกงที่กำลังได้รับเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิก นางมินนี หวัต ผู้พิพากษาศาลกล่าวว่า การลงโทษเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากเพลงชาติเป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ศาลแขวงตะวันออกฮ่องกงตัดสินว่า นายเฉิงมีความผิดจริงโทษฐานดูหมิ่นเพลงชาติ ซึ่งนายเฉิงให้การปฏิเสธว่าไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา ศาลพบว่านายเฉิงใส่เพลง กลอรี่ ทู ฮ่องกง (Glory to Hong Kong) ซึ่งเป็นเพลงประท้วงยอดนิยม แทนที่เพลงชาติจีน ในคลิปวิดีโอพิธีมอบเหรียญทองให้กับนายเอ็ดการ์ เฉียง นักกีฬาฟันดาบชาวฮ่องกง และได้อัปโหลดคลิปวิดีโอดังกล่าวลงบนยูทูบ ซึ่งคลิปได้ถูกแชร์ไปอย่างกว้างขวาง และมียอดวิว 90,000 ครั้ง ทั้งนี้ นายเฉิงนับเป็นบุคคลแรกที่ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายเพลงชาติที่บังคับใช้เมื่อปี 2563 ซึ่งกฎหมายระบุว่า การไม่เคารพเพลงชาติจีนถือว่าเป็นความผิดทางอาญา และมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือปรับสูงสุด 50,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (6,400…

ผู้นำหน่วยข่าวกรองอังกฤษชี้ AI ไม่สามารถแทนที่สายลับมนุษย์ได้

Loading

  นายริชาร์ด มัวร์ ผู้บัญชาการหน่วยสืบราชการลับอังกฤษ (MI6) เตรียมออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่รัสเซียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการทหารในยูเครน และสาเหตุที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่อาจแทนที่เจ้าหน้าที่มนุษย์ ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในวันนี้ (19 ก.ค.)   นอกจากนี้ นายมัวร์ยังเตรียมกล่าวเกี่ยวกับกระแส “จักรวรรดินิยมรัสเซีย” ในแอฟริกาและวิธีการที่ประเทศอื่น ๆ เช่น อิหร่าน กำลังเติมเชื้อไฟให้กับความขัดแย้งในยูเครน โดยนี่จะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์สำคัญต่อสาธารณชนเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่นายมัวร์เข้ารับตำแหน่งในปี 2563 MI6 ระบุว่า นายมัวร์จะกล่าวสุนทรพจน์ในกรุงปราก เนื่องจาก “ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่ใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพระหว่างอังกฤษและสาธารณรัฐเช็ก และการคำนึงถึงบริบททางประวัติศาสตร์หลังการรุกรานยุโรปอีกครั้งของรัสเซีย” ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนครั้งแรก นายมัวร์ได้ออกมาเตือนว่าจีนและรัสเซียกำลังแข่งกันเพื่อเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น AI และการประมวลผลควอนตัม โดยประเด็นดังกล่าวจะกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทั่วโลกต่างแสวงหาแนวทางในการใช้งาน AI แต่นายมัวร์ยืนยันว่า AI จะเข้ามาเติมเต็มแต่จะไม่แทนที่มนุษย์ ซึ่งสามารถเปิดเผยความลับได้มากกว่าที่เทคโนโลยีจะเอื้อมถึง นายมัวร์จะกล่าวว่า “คุณลักษณะเฉพาะของเจ้าหน้าที่มนุษย์จะยังคงมีความสำคัญมากขึ้น พวกเขาจะไม่เพียงเป็นแค่ผู้รวบรวมข้อมูลเท่านั้น เจ้าหน้าที่ของเราสามารถรับมอบหมายหน้าที่และคำสั่งได้ พวกเขาสามารถคิดคำถามเพิ่มเติมที่เราไม่รู้เพื่อถามได้ และบางครั้งพวกเขาอาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจภายในของรัฐบาลหรือกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งหน่วยข่าวกรองที่เป็นมนุษย์ในยุค AI จะถูกนิยามมากขึ้นว่าเป็น สิ่งที่เครื่องจักรไม่สามารถแทนที่ได้ แม้ว่าเราจะคาดหวังว่า…

จีนออกแนวปฏิบัติพัฒนาประกันภัย ‘ความมั่นคงทางไซเบอร์’

Loading

(แฟ้มภาพซินหัว : พนักงานสาธิตการใช้แพลตฟอร์มจำลองความปลอดภัยของยานยนต์ที่การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก ปี 2023 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติจีน กรุงปักกิ่งของจีน วันที่ 4 ก.ค. 2023)   ปักกิ่ง, 18 ก.ค. (ซินหัว) — กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน และสำนักบริหารการกำกับดูแลการเงินแห่งชาติจีน ร่วมออกแนวปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่แข็งแกร่งของภาคธุรกิจประกันภัยความมั่นคงทางไซเบอร์   ประกันภัยความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นบริการประกันภัยประเภทใหม่ จะช่วยพัฒนาความสามารถของผู้ประกอบการในการรับมือปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ นำสู่การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจีน   จีนจะปรับปรุงนโยบายและข้อบังคับสนับสนุน ส่งเสริมการใช้ประกันภัยความมั่นคงทางไซเบอร์ในหมู่ผู้ประกอบการ และบ่มเพาะผู้รับประกันความมั่นคงทางไซเบอร์ที่มีคุณภาพสูงเพิ่มขึ้น   นอกจากนั้นจีนจะกระตุ้นบรรดาบริษัทประกันภัยพัฒนาบริการประกันภัยความมั่นคงทางไซเบอร์หลากหลายประเภทเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของการจัดการความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ที่แตกต่างกัน         ————————————————————————————————————————————————— ที่มา :                      สำนักข่าวซินหัว         …