“ราหุล คานธี” โดนศาลรัฐคุชราตสั่งจำคุก 2 ปี คดีหมิ่น “โมดี” ฮือฮา “สหรัฐฯ” แอบส่งข่าวกรองเรียลไทม์ช่วย “นิวเดลี” ปะทะ “ปักกิ่ง” พรมแดนขัดแย้งหิมาลัย

Loading

  เอเจนซีส์ – ผู้นำฝ่ายค้านพรรคคองเกรสอินเดีย ราหุล คานธี ถูกศาลรัฐคุชราต วันพฤหัสบดี (23 มี.ค.) ตัดสินมีความผิดในการหมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ระหว่างปราศรัยพาดพิงนามสกุล “โมดี” ของเขาเมื่อปี 2019 สั่งโทษจำคุก 2 ปี ขณะที่มีรายงานเปิดเผยสหรัฐฯ แอบช่วยอินเดียให้ข่าวกรองการทหารแบบเรียลไทม์รวมภาพถ่ายดาวเทียมชัดก่อนการปะทะระหว่างกองกำลังอินเดียและปักกิ่ง ที่เขตพื้นที่ขัดแย้งเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว   บีบีซี ของอังกฤษรายงานวันนี้ (23 มี.ค.) ว่า ราหุล คานธี วัย 52 ปี ผู้นำพรรคคองเกรสอินเดีย ปรากฏตัวต่อหน้าศาลรัฐคุชราต วันพฤหัสบดี (23) เพื่อรับฟังการตัดสินคดีหมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ระหว่างเขาขึ้นปราศรัยหาเสียงเมื่อเมษายนปี 2019 ก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปอินเดีย   โดยในครั้งนั้นเขากล่าวว่า “เหตุใดโจรพวกนี้ถึงมีนามสกุลเดียวกันคือ โมดี ทั้งหมด? มีทั้ง นีราฟ โมดี ลาลิต โมดี และนเรนทรา…

ปักกิ่งเตือนพลเมืองในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง หลังเหตุสังหาร 9 ชาวจีน

Loading

  รัฐบาลจีนเตือนพลเมืองที่อยู่ในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต หลังเกิดเหตุคนงานเหมืองทองชาวจีน 9 รายถูกสังหาร   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ว่า สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ( ซีเออาร์ ) ออกแถลงการณ์ เตือนภัยประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศแห่งนี้ หลีกเลี่ยงการเดินทางออกจากเมืองหลวง คือ กรุงบังกี เนื่องจากเกิด “เหตุการณ์รุนแรง” ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย ของบริษัทเหมืองต่างชาติในพื้นที่ ขณะที่ ชาวจีนซึ่งอาศัยอยู่นอกกรุงบังกีได้รับคำแนะนำ “ให้อพยพทันที”   Thread:????Nine Chinese citizens killed in an attack on a local mine.China's Embassy to the Central African Republic on Sun. reminded Chinese institutions&nationals not to travel…

จับฐานเป็นสายลับให้จีนคอมมิวนิสต์ ไต้หวันตั้งข้อหาอดีต ส.ส.และนายพลทัพเรือ

Loading

  ไต้หวันตั้งข้อหาอดีตเจ้าหน้าที่รัฐ 2 คน ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ จากการจัดการประชุมระหว่างอดีตนายทหารระดับสูง กับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของจีน โดยการกระทำดังกล่าวถูกกล่าวหาว่าเป็นการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของจีนแผ่นดินใหญ๋ “ติดต่อและแม้แต่รับสมัคร” อดีตนายทหาร เข้าไปในเครือข่ายของจีนคอมมิวนิสต์   อัยการไต้หวันกล่าวหาว่า อดีตเจ้าหน้าที่รัฐทั้งคู่จัดเที่ยวการเดินทางฟรี 13 ครั้งไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ให้แก่อดีตเจ้าหน้าที่ 48 คนตั้งแต่ปี 2556-2561 โดยก่อนหน้านี้ ชายทั้งสองปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ได้จัดหาสายลับให้กับจีน อย่างไรก็ดี อัยการไต้หวันกล่าวหาว่าการประชุมดังกล่าว ส่งเสริมให้เกิดการรวมชาติจีนกับไต้หวัน   เจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองคน ที่ถูกกล่าวหาจากทางการไต้หวันว่าเป็นสายลับให้จีน คือ พลเรือตรี เซียฟู่เซียง และอดีต ส.ส.โลจื้อหมิง โดยทั้งคู่อาจถูกจำคุกสูงสุด 5 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง   จีนถือว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตัวเอง และให้คำมั่นว่าจีนจะยึดไต้หวัน ซึ่งเป็นเกาะที่มีอำนาจประชาธิปไตยปกครองตัวเอง กลับคืนมาเป็นของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยอาจมีการใช้กำลังหากมีความจำเป็น   ทั้งนี้ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของไต้หวัน ได้ออกมาเตือนเมื่อเดือน ต.ค. ว่า จีนกำลังดำเนินการรวมชาติในระยะเวลาที่เร็วกว่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้มาก โดยในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน…

สำรวจประเทศสั่งแบน “ติ๊กตอก” นิวซีแลนด์รายล่าสุด

Loading

FILE PHOTO: TikTok head office in United States   รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทเจ้าของติ๊กตอก (TikTok) แอปพลิเคชั่นวิดีโอยอดนิยมจากจีน ให้ขายหุ้นของติ๊กตอกทิ้ง หากไม่ต้องการถูกสั่งห้ามใช้ในสหรัฐฯ ตามข้อมูลที่ทางบริษัทกล่าวกับรอยเตอร์ในสัปดาห์นี้   ท่าทีของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังมีการออกกฎหมายที่อนุญาตให้ทำเนียบขาวสามารถสั่งห้ามใช้ติ๊กตอกหรือเทคโนโลยีต่างชาติอื่น ๆ ได้ หากมีความเสี่ยงว่าอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศ ขณะที่ประเทศและหน่วยงานอื่น ๆ กำลังเล็งแบนติ๊กตอกเช่นกัน   ทั้งนี้ ติ๊กตอกเป็นของบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยหลายประเทศกังวลว่า บริษัทดังกล่าวใกล้ชิดกับรัฐบาลจีนและเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้ติ๊กตอกไว้ทั่วโลก   รอยเตอร์รวบรวมประเทศและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ออกคำสั่งห้ามใช้ติ๊กตอกบางส่วนหรือห้ามใช้โดยเด็ดขาด   นิวซีแลนด์ ประเทศล่าสุดที่เพ่งเล็งติ๊กตอก โดยสั่งห้ามใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าวในอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงเครือข่ายของรัฐสภานิวซีแลนด์ได้ ท่ามกลางความกังวลด้านความมั่นคงทางไซเบอร์   อังกฤษ เตรียมสั่งแบนติ๊กตอกในโทรศัพท์ราชการทันที และได้ขอให้ศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติให้พิจารณาถึงจุดอ่อนของข้อมูลรัฐบาลต่อแอปดังกล่าว และความเสี่ยงที่ข้อมูลอ่อนไหวอาจถูกเข้าถึงและนำไปใช้ได้   อินเดีย สั่งแบนติ๊กตอกและแอฟพลิเคชั่นจีนอื่น ๆ ในอุปกรณ์ทุกอย่างเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 โดยอ้างว่า แอปเหล่านี้อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงและบูรณภาพของประเทศ  …

เอาด้วย! อังกฤษแบน ‘ติ๊กตอก’ บนอุปกรณ์สื่อสารของรัฐบาล

Loading

TikTok Ban อังกฤษประกาศแผนห้ามใช้แอปพลิเคชันติ๊กตอก (TikTok) ให้มีผลบังคับใช้ทันทีในวันพฤหัสบดีเป็นต้นไป ตามหลังชาติตะวันตกทั้งสหรัฐฯ แคนาดา และอีกหลายประเทศในยุโรป ที่สั่งแบนแอปฯ ดังกล่าวด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย   ทางการอังกฤษ ระบุว่า “ความปลอดภัยของข้อมูลรัฐบาลต้องมาก่อน ดังนั้นในวันนี้เราจึงห้ามใช้แอปฯ นี้บนอุปกรณ์ของรัฐ” และว่า “การห้ามใช้แอปฯ ติ๊กตอกบนอุปกรณ์ของรัฐเป็นขั้นตอนที่รอบคอบและเหมาะสมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง” พร้อมทั้งให้หน่วยงาน National Cyber Security Centre ตรวจสอบข้อมูลอ่อนไหวบนสื่อสังคมออนไลน์ และความเสี่ยงว่าข้อมูลเหล่านี้จะถูกเข้าถึงและนำไปใช้ได้อย่างไร   ด้านติ๊กตอกแสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจของอังกฤษ โดยโฆษกของบริษัท ระบุว่า “เราเชื่อว่าการแบนเหล่านี้มีพื้นฐานบนความเข้าใจผิดในหลักการและขับเคลื่อนด้วยประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งติ๊กตอกและผู้ใช้นับล้านรายของเราในอังกฤษ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย” พร้อมเสริมว่า “เรายังคงมุ่งมั่นในการทำงานกับรัฐบาลเพื่อหารือเกี่ยวกับความกังวลต่าง ๆ แต่เราควรได้รับการวิจารณ์บนข้อเท็จจริงและได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับคู่แข่งของเราด้วยเช่นกัน” และว่าทางบริษัทได้เริ่มต้นกระบวนการที่จะปกป้องข้อมูลผู้ใช้ในยุโรปแล้ว   แอปฯ ติ๊กตอก ซึ่งมีบริษัทเทคโนโลยีจีน ไบต์แดนซ์ (ByteDance) เป็นเจ้าของ ได้ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่รัฐบาลชาติตะวันตกเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ว่าจะตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีน และบั่นทอนความมั่นคงของชาติตะวันตก   ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ แคนาดา เบลเยียม และคณะกรรมาธิการยุโรปและสภาสหภาพยุโรปสั่งถอดแอปฯ ติ๊กตอกบนอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนไปแล้ว  …

‘จีน’ นำหน้า ‘สหรัฐฯ’ ใน ‘เทคโนโลยีสำคัญ’ ถึง 37 จากทั้งหมด 44 แขนง รายงานวิจัยจากออสเตรเลียระบุ

Loading

    หน่วยงานคลังสมองในเครือของรัฐบาลออสเตรเลียระบุในรายงานการวิจัยว่า จีนเป็นผู้นำหน้าใครๆ ในโลกเทคโนโลยีแขนงปัญญาประดิษฐ์ ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก โดรน และแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ขณะที่สหรัฐฯ ยังครองแชมป์ในแขนงการทำชิป และการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง   ประเทศจีนเวลานี้เป็นผู้นำหน้าใครๆ ทั่วโลกในเทคโนโลยีสำคัญๆ ถึง 37 แขนง จากทั้งสิ้น 44 แขนง รวมทั้งทางด้านขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดรน และแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ทั้งนี้ ตามรายงานวิจัยของออสเตรเลียที่นำออกเผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้   จีนยังเป็นอันดับ 1 ของโลกในพวกเทคโนโลยีกลาโหม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ เมื่อพิจารณาจากแง่ของการทำวิจัยซึ่งมีผลกระทบอย่างสูง สถาบันนโยบายทางยุทธศาสตร์ของออสเตรเลีย (Australian Strategic Policy Institute หรือ ASPI) ระบุในรายงานฉบับดังกล่าว   ทั้งนี้ ASPI เป็นหน่วยงานคลังสมองด้านกลาโหมและนโยบายทางยุทธศาสตร์ ซึ่งตั้งฐานอยู่ในกรุงแคนเบอร์รา ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลออสเตรเลีย และได้รับเงินทุนจากพวกรัฐบาลต่างประเทศ ตลอดจนพวกบริษัทด้านกลาโหมและเทคโนโลยีด้วย   รายงานฉบับนี้ของ ASPI ระบุอีกว่า จีนยังมีความยอดเยี่ยมในแขนงอื่นๆ…