ไต้หวันเร่งพัฒนาโดรน ถอดบทเรียนจากศึกยูเครน-เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ

Loading

    ไต้หวันเร่งพัฒนาโดรน – วันที่ 7 ก.พ. รอยเตอร์รายงานว่า ไต้หวันเตรียมเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโดรนและถอดบทเรียนจากสงครามรัสเซียรุกรานยูเครน ท่ามกลางภัยคุกคามจากทางการจีนที่มองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และยังคงเดินหน้ากดดันไต้หวันในเวทีโลก   ความเคลื่อนไหวของไต้หวันเกิดขึ้นหลัง “อากาศยานไร้คนขับ” (Unmanned Aerial Vehicle – UAV) หรือยูเอวี กลายเป็นหนึ่งในอาวุธที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสงครามดังกล่าว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ถึงขั้นระบุไว้ว่า เป็นอาวุธแห่งสงครามในอนาคต     ไต้หวันซึ่งกำลังเผชิญภัยคุกคามทางทหารจากทางการจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นเคยเปิดเผยว่า จับตาสงครามรัสเซียรุกรานยูเครนอย่างใกล้ชิดเพื่อนำมาถอดบทเรียนไว้รับมือหากจีนตัดสินใจส่งกองทัพเข้ารุกรานเพื่อยึดครองเกาะไต้หวัน   ซุน หลี่ฟาง โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันอยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีโดรน รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตโดรน   “การเร่งวิจัย พัฒนา และกระบวนการผลิตนี้เพื่อไว้ตอบโต้ภัยคุกคามจากศัตรูและนำบทเรียนการสู้รบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาใช้ในยุทธการรบแบบอสมมาตร์ (การรบระหว่างคู่ต่อสู้ที่มีระดับแสนยานุภาพห่างชั้นกันอย่างมหาศาล) ผ่านโดรนของไต้หวัน” นายซุน ระบุ   โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุด้วยว่า โครงการดังกล่าวมี จุงชาน สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งไต้หวันเป็นหัวหอก และจะมีบรรดาบริษัทเอกชนหลายแห่งเข้าร่วม   ด้านนายจื้อ หลี่ผิง ผู้อำนวยการแผนกวิจัยระบบอากาศยานของสถาบันข้างต้น ยืนยันว่า…

ความแตกต่าง ระหว่าง”บอลลูนพยากรณ์อากาศ-บอลลูนสอดแนม”

Loading

  กองทัพสหรัฐฯ ใช้เครื่องบิน F-22 ขึ้นไปยิงจรวดเข้าใส่บอลลูนสอดแนมของจีนจนตกลงมา หลังจากที่มันลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของประเทศเกือบสัปดาห์   ทางการจีนออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของสหรัฐฯ อย่างหนัก และทำให้หลายฝ่ายกำลังจับตาดูว่าหลังจากนี้จีนจะมีการตอบโต้เรื่องนี้กลับอย่างไรนอกจากการแถลงการณ์ประณาม   ล่าสุดนักประดาน้ำของ “กองทัพเรือสหรัฐฯ” ก็เริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ซาก “บอลลูน”ที่กระจายเป็นวงกว้างเพื่อนำไปตรวจสอบ และพยายามเก็บกู้ข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในบอลลูนลูกดังกล่าว     สถานีโทรทัศน์ CNN ของสหรัฐฯ รายงานว่า ขณะนี้กองทัพเรือสหรัฐฯ กำลังดำเนินการเก็บกู้ซากบอลลูนของจีนที่ถูกยิงตกลงมาเมื่อวานในมหาสมุทรแอตแลนติก   โดยนักข่าว CNN ที่ปักหลักรายงานอยู่บริเวณชายหาดนอร์ท เมอร์เทิล ( North Myrtle Beach) ของรัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่บอลลูนตกลงมารายงานว่า เห็นเจ้าหน้าที่ลำเลียงวัตถุที่มีรูปร่างคล้ายกล่องหลายชิ้นขึ้นจากเรือ ก่อนที่จะนำขึ้นไปบนรถบรรทุก   ปฎิบัติการเก็บกู้หลักฐานรวมถึงข้อมูลที่อยู่ในบอลลูนสอดแนมของจีน เกิดขึ้นแทบจะในทันที หลังจากที่เมื่อวานนี้เพนตากอนได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 ขึ้นไป ก่อนจะใช้จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศรุ่น AIM-9X ยิงเข้าใส่บอลลูน   ที่ต้องใช้เครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงเพราะบอลลูนลูกดังกล่าวมีขนาดใหญ่ประมาณรถบัส 3 คันต่อกัน และลอยอยู่ที่ความสูง 60,000 ฟุตหรือ 18,300 เมตรจากพื้นดิน…

ศาลฮ่องกงเปิดพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่

Loading

สมาชิกสันนิบาตโซเชียลเดโมแครตฮ่องกงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันออกจากพื้นที่ หลังจากถือป้ายประท้วงและพยายามตะโกนนอกศาลในฮ่องกง ขณะมีการพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหา 47 คน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ (Photo by Peter PARKS / AFP)   การพิจารณาคดีด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกงเปิดฉากขึ้นในวันจันทร์ โดยมีบุคคลผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยหลายสิบคนถูกกล่าวหาว่าพยายามโค่นล้มรัฐบาลและอาจได้รับโทษประหนึ่งอาชญากร   เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 กล่าวว่า ศาลฮ่องกงเปิดพิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่มีผู้ถูกกล่าวหาถูกไต่สวน 47 คน และอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตหากถูกตัดสินว่ามีความผิด   ผู้เห็นต่างในดินแดนของจีน ซึ่งรวมถึงนักเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงในเกาะฮ่องกง ถูกเรียกมาขึ้นศาลเพื่อไต่สวน โดยมีการเปิดเผยภายหลังว่า ผู้ถูกดำเนินคดี 16 คนปฏิเสธความผิดในข้อหา “สมรู้ร่วมคิดในการกระทำเพื่อโค่นล้มรัฐบาลจากการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการ”   ขณะที่อีก 31 คนสารภาพผิดตามข้อกล่าวหาและจะถูกตัดสินโทษหลังกระบวนการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น   ชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งทำการชุมนุมประท้วงเล็ก ๆ บริเวณหน้าศาลฮ่องกง ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การพิจารณาคดีนี้แสดงให้เห็นว่าระบบกฎหมายถูกใช้เพื่อบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคง ทั้ง ๆ ที่การต่อต้านเผด็จการไม่ใช่อาชญากรรม   ผู้ถูกดำเนินคดีต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีที่คาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 4…

ลุกลามบานปลาย?? เพนตากอนยิงขีปนาวุธสอยบอลลูนสอดแนม ปักกิ่งฉะเกินกว่าเหตุ-ประกาศพร้อมตอบโต้

Loading

    เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธสอยบอลลูนจีนที่ต้องสงสัยว่าเป็นอุปกรณ์สอดแนม ตกลงในทะเลน้ำตื้นบริเวณนอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อวันเสาร์ (4 ก.พ.) หลังจากบอลลูนดังกล่าวเข้าสู่น่านฟ้าสหรัฐฯ นานหนึ่งสัปดาห์และทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ ถึงขั้นที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกันระงับการเดินทางเยือนจีนเอาไว้ก่อน ด้านปักกิ่งฉุนขาดชี้วอชิงตันทำเกินกว่าเหตุและจะตอบโต้ โดยยืนยันว่าเป็นบอลลูนตรวจสอบสภาพอากาศเท่านั้น   ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่า ได้สั่งการให้ยิงบอลลูนต้องสงสัยลูกนี้ตั้งแต่วันพุธ (1) แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) แนะนำให้รอจนกว่าบอลลูนจะลอยถึงบริเวณเหนือน่านน้ำเปิด เพื่อปกป้องชีวิตผู้คนซึ่งอาจเป็นอันตรายจากเศษซากที่จะร่วงลงมาจากระดับซึ่งสูงกว่าพื้นที่น่านฟ้าซึ่งพวกเครื่องบินโดยสารใช้เดินทางกันหลายพันเมตร   ส่วน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า ปฏิบัติการคราวนี้ดำเนินการกันด้วยความรอบคอบและถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นการตอบโต้บอลลูนจีนที่ละเมิดอธิปไตยสหรัฐฯ อย่างไม่อาจยอมรับได้   ขณะที่นายทหารอเมริกันอาวุโสผู้หนึ่งเผยว่า ปฏิบัติการนี้ใช้เครื่องบินขับไล่และเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงหลายลำเข้าร่วม แต่มีเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 เพียงลำเดียว ซึ่งมาจากฐานทัพอากาศแลงลีย์ ในรัฐเวอร์จิเนีย ที่ยิงใส่บอลลูนเมื่อเวลา 14.39 น. วันเสาร์ โดยใช้ขีปนาวุธซูเปอร์โซนิกตรวจจับความร้อนจากอากาศสู่อากาศ เอไอเอ็ม-9เอ็กซ์   ทางด้านจีนประณามอย่างรุนแรงที่อเมริกาโจมตีทางทหารต่ออากาศยานของตนที่มีวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบสภาพอากาศและวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ซึ่งลอยเข้าไปในน่านฟ้าสหรัฐฯ โดยบังเอิญ   กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (5) ว่า จีนได้ขอให้อเมริกาจัดการเรื่องนี้อย่างสุขุม…

จีนส่งบอลลูนสอดแนมสหรัฐฯ? วิธีโบราณที่กลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง

Loading

  –  กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ตรวจพบบอลลูนที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีนบินอยู่เหนือท้องฟ้าของประเทศ ขณะที่จีนยอมรับว่าบอลลูนเป็นของพวกเขาจริง แต่อ้างว่ามันลอยเข้าสหรัฐฯ อย่างไม่ตั้งใจ –  ปัจจุบันวิธีสอดแนมยอดนิยมคือการใช้ดาวเทียม แต่บอลลูนก็เริ่มกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กับคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ดาวเทียมทำไม่ได้ –  การพบบอลลูนสอดแนมของจีนจุดประเด็นความขัดแย้งรอบใหม่กับสหรัฐฯ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ ประกาศเลื่อนกำหนดเดินทางเยือนปักกิ่ง ที่ไม่เกิดขึ้นมานานกว่า 5 ปี   ข่าวที่ว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กำลังสังเกตการณ์บอลลูนที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นบอลลูนสอดแนมของประเทศจีน ที่ลอยเหนือฟ้าสหรัฐฯ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย รวมถึงเรื่องที่ว่า มันมาทำไม   ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เส้นทางการบินของบอลลูนลูกนี้ ซึ่งพบเหตุครั้งแรกที่เมืองมอนทานา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ. 2566 อาจทำให้มันลอยผ่านพื้นที่อ่อนไหวหลายแห่ง และพวกเขากำลังดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อต่อต้านการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองของต่างชาติ   อีกคำถามที่เกิดขึ้นคือ หากบอลลูนดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อสอดแนมจริง เหตุใดจีนจึงเลือกใช้บอลลูนแทนที่จะเป็นดาวเทียม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การใช้บอลลูนเพื่อการสอดแนมเริ่มกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้งแล้ว เพราะมันมีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้มันน่าสนใจไม่แพ้ดาวเทียม   แต่ไม่ว่าบอลลูนลูกนี้จะมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันได้สร้างความเสียหายเพิ่มเติมแก่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว และทำให้แผนการเดินทางเยือนจีนของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ…

จีนชี้สิ่งที่ลอยเข้ามาในสหรัฐ “คือเรือเหาะ” ยืนยัน “เป็นเหตุสุดวิสัยเลี่ยงไม่ได้”

Loading

  รัฐบาลปักกิ่งเน้นย้ำว่า วัตถุที่ลอยเข้าไปในสหรัฐ “คือเรือเหาะรวบรวมข้อมูลสภาพอากาศ” และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นเรื่องสุดวิสัยยากหลีกเลี่ยง” ด้านรัฐบาลวอชิงตันยืนยันพบ “บอลลูนสอดแนมลูกที่สอง” ในเขตลาตินอเมริกา   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ ยืนยันว่า “วัตถุ” ที่รัฐบาลวอชิงตัน “สงสัยและกล่าวหา” ว่าเป็น “บอลลูนสอดแนม” ของรัฐบาลปักกิ่ง ลอยตัวอยู่ในเขตน่านฟ้าของสหรัฐ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา “คือเรือเหาะเก็บข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา”   ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นอุบัติเหตุซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้” อย่างไรก็ตาม รัฐบาล นักการเมือง และสื่อมวลชนในสหรัฐต่างแสดงออกและให้ความเห็นกันอย่างเกินขอบเขต สะท้อนเจตนาชัดเจนว่า ต้องการใส่ร้ายป้ายสีและทำลายภาพลักษณ์ของจีน พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลปักกิ่งเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศทุกข้อ ซึ่งรวมถึงการไม่ละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศอื่น   Tensions between the U.S. & China were heightened after a Chinese aerial balloon…