ส.ส.รีพลับลิกันเรียกร้องรัฐบาลไบเดนชี้แจงกรณีตั้งสถานีตำรวจจีนในนิวยอร์ก

Loading

  หลังจากที่มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการจัดตั้งสถานีและทีมตำรวจจีนในนิวยอร์ก ทำให้กลุ่ม ส.ส.พรรครีพับลิกัน ต้องการคำชี้แจงจากฝ่ายรัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน   หลังจากที่มีสื่อมวลชนรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องการจัดตั้ง ‘สถานีตำรวจจีน’ ในหลายประเทศ รวมทั้งที่ในนิวยอร์กด้วย ทำให้กลุ่ม ส.ส.พรรครีพับลิกัน​ ซึ่งประกอบด้วย จิม แบงก์ส, ไมเคิล วอลต์ซ, ไมค์ กัลลาเกอร์ และ ส.ส.ร่วมพรรคอีก 21 คน รวมตัวกันเพื่อส่งจดหมายแก่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ และอัยการสูงสุด เมอร์ริค การ์แลนด์ เพื่อเรียกร้องขอคำชี้แจงว่า เหตุใด ตำรวจจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงสามารถจัดตั้งสถานีสาขาต่างประเทศในดินแดนสหรัฐได้   ในจดหมายอ้างถึงรายงานข่าวที่ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งฝูโจว ประเทศจีน ได้ประกาศเมื่อเดือน ม.ค. 2565 ว่ามีการตั้งสถานีสาขาในต่างประเทศ 30 แห่งใน 25 เมือง 21 ประเทศ โดยสาขาในสหรัฐนั้น ตั้งอยู่ที่ที่ทำการของ America Changle Association ซึ่งเป็นสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลในนิวยอร์ก…

ปักกิ่งคุมเข้มก่อนประชุม “สมัชชา 20” คนห้ามเคลื่อน ของห้ามส่ง

Loading

  กรุงปักกิ่งเพิ่มมาตรการควบคุมทั้งโรคโควิด-19 และความปลอดภัย ก่อนหน้าการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ที่จะเปิดฉากในวันที่ 16 ตุลาคมนี้   กรุงปักกิ่งอยู่ในสภาพเหมือนถูก “ปิดเมือง” ก่อนการประชุมประชุมครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 10 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือ “สมัชชา 20” ขณะที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นหลังวันหยุดวันชาติ จนถึงวันที่ 10 ต.ค. มีผู้ติดเชื้อ 105 รายในกรุงปักกิ่ง   มาตรการควบคุมโรคถูกยกระดับขึ้นอย่างชัดเจน มีการใช้ฐานข้อมูล Big data เพื่อติดตามตัวผู้ที่เข้าไปยังสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อแบบรายคนอย่างเคร่งครัด การเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ จะต้องสแกน QR code รหัสสุขภาพ เพื่อติดตามการเดินทาง หากมีผู้ติดเชื้อแม้เพียงคนเดียว ผู้ที่อยู่ในสถานที่นั้นในช่วงเวลาเดียวกัน ทุกคน จะถูกติดตามตัวจากเจ้าหน้าที่ควบคุมโรค และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการ เช่น ตรวจหาเชื้อทุกวัน 3 วันต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงการเดินทาง หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม และให้รายงานตัวต่อหน่วยสาธารณสุขในพื้นที่พักอาศัย   สถิติผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่ง (10 ต.ค.)  …

ศาลฮ่องกงส่ง ‘5 ผู้เยาว์’ เข้าสถานพินิจ ฐานพยายามล้มอำนาจรัฐ

Loading

  ศาลฮ่องกงตัดสินให้จำเลย 5 คน ซึ่งล้วนเป็นผู้เยาว์ รับโทษในสถานพินิจ ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคง ด้วยการเคลื่อนไหวเรียกร้อง การโค่นอำนาจรัฐบาลกลาง ในกรุงปักกิ่ง   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ว่า ศาลฮ่องกงมีคำพิพากษา เมื่อวันเสาร์ ให้จำเลย 5 คน ในจำนวนนี้ รวมถึงผู้เยาว์อายุระหว่าง 15-18 ปี รับโทษในสถานพินิจเป็นเวลานานสูงสุด 3 ปี ฐานกระทำผิดกฎหมายความมั่นคง ด้วยการเคลื่อนไหวปลุกระดมให้มีการโค่นล้มอำนาจรัฐ ผ่านการรวมกลุ่มซึ่งเรียกตัวเองว่า “Returning Valiant”   ขณะที่จำเลยอีกสองคนในคดีเดียวกัน ซึ่งมีอายุ 21 ปี และ 26 ปี ได้รับการพิพากษาให้มีความผิดเช่นกัน และศาลจะประกาศบทลงโทษอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้พิพากษากล่าวว่า ความพยายามของจำเลยกลุ่มนี้ ในการเคลื่อนไหวเรียกร้อง “การปฏิวัติอันนองเลือด” เพื่อหวังโค่นล้มอำนาจของรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง ถือเป็น “การกระทำผิดทางอาญาอย่างร้ายแรง”   Five teenagers…

แฮ็กเกอร์จากจีนออกอาละวาดด้วยการซ่อนมัลแวร์ไว้ในโลโก้ Windows

Loading

  ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์จาก Symantec พบปฏิบัติการไซเบอร์จากจีนที่ซ่อนมัลแวร์ไว้ในโลโก้ Windows ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้   กลุ่มแฮ็กเกอร์นี้มีชื่อเรียกขานว่า Witchetty ที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ Cicada (อีกชื่อหนึ่งคือ APT10) กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีรัฐบาลจีนหนุนหลัง และยังน่าจะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร TA410 ที่เคยโจมตีบริษัทพลังงานของสหรัฐอเมริกา   Witchetty เริ่มปฏิบัติการซ่อนมัลแวร์มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ โดยมุ่งเป้าไปที่ 2 ประเทศในตะวันออกกลาง ในจำนวนนี้มีการโจมตีตลาดหุ้น   สำหรับวิธีการปฏิบัติการของ Witchetty กระทำโดยเทคนิกที่เรียกว่าวิทยาการอำพรางข้อมูล (Steganography) ซึ่งเป็นการซ่อนข้อมูลลับไว้ในภาพหรือข้อความอื่นในการซ่อน Backdoor (หรือทางลัดในการเข้าถึงอุปกรณ์หรือระบบเครือข่าย) ที่เข้ารหัสด้วยวิธีการ XOR ลงในปุ่ม Start   การซ่อนมัลแวร์ไว้ในภาพมักจะเล็ดลอดการตรวจจับของซอฟต์แวร์ Anti-Virus ไปได้ เนื่องจากมักไม่ค่อยตรวจหาไวรัสจากรูปภาพ   โดย Backdoor ตัวนี้จะเป็นช่องทางให้กลุ่มแฮ็กเกอร์เจาะเข้าไปดูไฟล์ข้อมูล เปิดปิดโปรแกรม ดาวน์โหลดมัลแวร์ลงบนเครื่องของเหยื่อเพิ่มเติม เข้าไปแก้ไข Windows Registry หรือแม้แต่ทำให้อุปกรณ์ของเหยื่อเป็นเซิร์ฟเวอร์สำหรับการแฮ็กเหยื่อรายต่อ ๆ ไป    …

จีนประณามสหรัฐฯ โจมตีทางไซเบอร์มหาวิทยาลัยจีน

Loading

  นายหวาง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าสหรัฐฯ เป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดต่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก และเรียกร้องให้มีความพยายามร่วมกัน เพื่อต่อต้านการละเมิดอธิปไตยในโลกไซเบอร์และกฎระเบียบระหว่างประเทศของสหรัฐฯ   เมื่อวันอังคาร (27 ก.ย.) ศูนย์ตอบสนองเหตุฉุกเฉินไวรัสคอมพิวเตอร์แห่งชาติของจีน รายงานว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (NSA) เจาะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และเข้าควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในประเทศจีนและแทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายภายในของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น โปลีเทคนิคอล ของจีนโดยใช้เซิร์ฟเวอร์ในประเทศต่างๆ เช่น เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์ก เป็นฐานการโจมตีทางไซเบอร์ผ่าน ญี่ปุ่น เยอรมนี สาธารณรัฐเกาหลี และประเทศอื่นๆ มายังประเทศจีน ทำให้สามารถขโมยข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนและข้อมูลส่วนบุคคลได้ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังควบคุมผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่างน้อย 80 ประเทศ และดำเนินการดักฟังโทรศัพท์ของผู้ใช้โทรคมนาคมทั่วโลกตามอำเภอใจ   นายหวาง กล่าวว่า รายงานฉบับนี้นับเป็นฉบับที่ 3 ของเดือนนี้ ที่เกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ โจมตีทางไซเบอร์ต่อมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น ซึ่งที่ผ่านมา จีนได้เรียกร้องคำอธิบายจากสหรัฐฯ และขอให้ยุติการดำเนินการที่ผิดกฎหมายในทันที แต่จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ยังคงนิ่งเงียบ       —————————————————————————————————————————————– ที่มา :   …

จีนเรียกร้องพันธมิตร ร่วมกันป้องกันการแทรกแซง “จากภายนอก”

Loading

  ผู้นำจีนกล่าวต่อที่ประชุมองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เรียกร้องสมาชิกรวมถึงรัสเซียและอินเดีย ร่วมกันยับยั้งการแทรกแซงทางการเมืองจากภายนอก และยกระดับความมั่นคงร่วมกัน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซามาร์กันด์ ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้งผิง ผู้นำจีน กล่าวต่อที่ประชุม องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (เอสซีโอ) ที่เมืองซามาร์กันด์ ในอุซเบกิสถาน เรียกร้องรัสเซียและสมาชิกเอสซีโอ สนับสนุนซึ่งกันและกันด้วยความแข็งแกร่ง เพื่อป้องปราม “การใช้อำนาจจากภายนอกกระตุ้นให้เกิดการปฏิวัติสี” ภายในประเทศสมาชิก ซึ่งหมายถึงการลุกฮือของประชาชนที่ได้รับอิทธิพลทางความคิด “จากกระแสโลกาภิวัตน์”   ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย   ทั้งนี้ ผู้นำจีนไม่ได้กล่าวถึงยูเครนตลอดการแถลงต่อที่ประชุมเอสซีโอ แต่ประกาศเพิ่มเติมด้วยว่า รัฐบาลปักกิ่งพร้อมมอบความสนับสนุนด้านการฝึกฝนทางยุทธวิธี มุ่งเน้นภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 2,000 นาย จากประเทศสมาชิกเอสซีโอ ภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้   นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย   China's Xi urges Russia and other countries…