TikTok ย้ายข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ไว้ที่ Oracle คลายกังวลการเข้าถึงข้อมูลโดยรัฐบาลจีน

Loading

  ติ๊กต๊อก (TikTok) ประกาศย้ายข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา ไปเก็บไว้ภายใต้การดูแลของออราเคิล (Oracle) ภายหลังเกิดประเด็นความกังวลว่า รัฐบาลจีน สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานและความเป็นส่วนตัวในสหรัฐฯ   ตามรายงานก่อนหน้านี้ของสำนักข่าวบัซฟีด ระบุว่า พนักงานไบต์แดนซ์ (ByteDance) ในประเทศจีน สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานติ๊กต๊อกในสหรัฐอเมริกาได้   ล่าสุด ได้เกิดความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของติ๊กต๊อก โดยจะมีการย้ายสถานที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดไปไว้ที่บริการของออราเคิล ภายใต้วัตถุประสงค์หลักเพื่อบรรเทาความกังวลและความปลอดภัยจากการที่ติ๊กต๊อกเป็นบริการที่มาจากประเทศจีน   ในความเป็นจริง ควรต้องกล่าวว่า มีพนักงานที่ดำรงตำแหน่งวิศวกรในไบต์แดนซ์ ซึ่งอยู่ในประเทศจีนบางส่วน สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ แต่จากกรณีที่เกิดขึ้น จึงทำให้ติ๊กต๊อกจำเป็นต้องจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล พร้อมกับลดจำนวนคนที่สามารถเข้าสู่ระบบนี้ได้   อย่างไรก็ตาม ติ๊กต๊อก ยืนกรานว่า ที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยให้ข้อมูลผู้ใช้งานที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาแก่เจ้าหน้าที่ทางการของประเทศจีน และเมื่อมีการร้องขอก็จะถูกปฏิเสธทุกครั้งไป   พร้อมกันนี้ ติ๊กต๊อก บอกอีกด้วยว่า ในระบบความมั่นคงทางไซเบอร์ของติ๊กต๊อกมีผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระดับโลกมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งอย่างเข้มข้น เนื่องจากติ๊กต๊อกเป็นผู้ให้บริการด้านความบันเทิงที่ถูกจับจ้องเป็นอย่างมากอยู่แล้ว เพื่อขจัดทุกข้อสงสัยจึงมีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนมากที่สุด   ตัวแทนของติ๊กต๊อกยืนยันต่อไปอีกด้วยว่า ทุกวันนี้ 100 เปอร์เซ็นต์ของทราฟฟิกการใช้งานในสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดล้วนถูกส่งตรงไปยัง Oracle Cloud Infrastructure นอกจากนี้ ทั้งออราเคิล และติ๊กต๊อก…

ชาวไต้หวันแห่เรียนยิงปืน หวั่นสงครามยูเครนจุดชนวนภัยคุกคามจากจีน

Loading

  สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชาวไต้หวันแห่เรียนยิงปืนเป็นครั้งแรกมากขึ้น โดยครอบคลุมตั้งแต่ผู้ที่เป็นมัคคุเทศก์ไปจนถึงช่างสัก เนื่องจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนนั้น ได้สร้างความวิตกกังวลว่า จีนจะเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน   แรงกดดันทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีนต่อไต้หวัน ผนวกกับความขัดแย้งในยูเครน กระตุ้นให้มีการถกเถียงถึงวิธีส่งเสริมการป้องกันไต้หวันซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่า จะขยายเวลาในการเกณฑ์ทหารภาคบังคับหรือไม่   เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของบริษัทฝึกทักษะการต่อสู้ในไต้หวันระบุว่า นับตั้งแต่สงครามยูเครนเปิดฉากเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดจองเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าสำหรับการเรียนยิงปืนอัดลม หรืออุปกรณ์พลังงานต่ำที่ออกแบบมาเพื่อยิงขีปนาวุธที่ไม่ใช่โลหะ   แม็กซ์ เชียง ผู้บริหารระดับสูงของโพลาร์ ไลท์ ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองกรุงไทเปกล่าวว่า “มีผู้คนจำนวนมากขึ้นกำลังจะมาเข้าร่วม”   นายเชียงเสริมว่า ผู้สมัครบางคนไม่เคยใช้ปืนมาก่อน และจำนวนผู้สมัครเรียนดังกล่าวเพิ่มขึ้น 3 หรือ 4 เท่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครนเริ่มต้นขึ้น ซึ่งรัสเซียเรียกว่าเป็น “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ”   ทั้งนี้ ชาวไต้หวันบางคนแสดงความกังวลว่า จีนอาจเพิ่มแรงกดดันโดยใช้โอกาสที่ชาติตะวันตกกำลังยุ่งอยู่กับความพยายามสนับสนุนยูเครนเพื่อต่อกรกับรัสเซีย     —————————————————————————————————————————- ที่มา :     สำนักข่าวอินโฟเควสท์       / วันที่เผยแพร่   …

จีนสั่งหน่วยงานรัฐโละ PC ต่างชาติทิ้ง แล้วหันมาใช้แบรนด์จีนทั้งหมดภายใน 2 ปี

Loading

  รัฐบาลจีนออกคำสั่งให้หน่วยงานราชการและองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โละเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC (Personal Computer) ที่เป็นแบรนด์ต่างชาติทั้งหมดทิ้ง พร้อมกำหนดให้เปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยซอฟต์แวร์ของจีนภายในระยะเวลา 2 ปี ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับแผนการดังกล่าวประเมินว่า การตัดสินใจของทางการจีนในครั้งนี้จะทำให้มีคอมพิวเตอร์ PC ถูกทิ้งไม่ต่ำกว่า 50 ล้านเครื่อง ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อยอดขายคอมพิวเตอร์แบรนด์จีนอย่าง Lenovo แต่ในทางกลับกันก็จะส่งผลลบต่อยอดขายแบรนด์ต่างชาติอย่าง HP และ Dell ข่าวที่ออกมานี้ ส่งผลให้ช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Lenovo ในตลาดฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% เช่นเดียวกับหุ้นของ Kingsoft บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์สัญชาติจีนที่ดีดตัวขึ้น 3.3% ขณะที่หุ้นของ Inspur และ Sugon บริษัทผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ของจีนก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% และ 4% ตามลำดับ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนรายหนึ่ง ระบุว่า การออกคำสั่งให้ถอดเทคโนโลยีต่างชาติทั้งหมดออกจากหน่วยงานราชการของรัฐบาลจีนในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมั่นใจของจีนว่า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของจีนในปัจจุบันสามารถแข่งขันกับชาติตะวันตกได้ ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยปัจจุบัน Lenovo , Huawei และ Inspur…

“หมู่เกาะโซโลมอน” อนุญาตให้ “ตำรวจจีน” รักษาความปลอดภัยในประเทศตามข้อตกลงความมั่นคง 2 ชาติ

Loading

  รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – สารวัตรทหารจีนเริ่มปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบให้ประชากร 700,000 คนในประเทศหมู่เกาะโซโลมอนตามข้อตกลงความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศที่สร้างความวิตกให้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังตำรวจหมู่เกาะล้มเหลวในการรับมือวิกฤตจลาจลเขตไชน่าทาวน์ในกรุงโฮนีอาราปีที่แล้ว   รอยเตอร์รายงานวันนี้ (2 พ.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงหมู่เกาะโซโลมอนประจำออสเตรเลียกล่าวให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุวันจันทร์ (2) ยืนยันการปรากฏตัวของสารวัตรทหารจีนในหมู่เกาะโซโลมอน   เจ้าหน้าที่การทูตโซโลมอนเปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงความมั่นคงระดับทวิภาคีของ 2 ชาติเนื่องมาจากเหตุผลตำรวจโซโลมอนไม่สามารถจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลได้   ข้าหลวงใหญ่ประเทศหมู่เกาะโซโลมอนประจำออสเตรเลีย โรเบิร์ต ซิซิโล (Robert Sisilo) เปิดเผยกับสถานีวิทยุเอบีซีเรดิโอว่า หมู่เกาะโซโลมอนกำลังยกระดับการรักษาความสงบภายในประเทศหลังตำรวจโซโลมอนไม่สามารถควบคุมจลาจลที่เกิดเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วในเขตไชน่าทาวน์ภายในกรุงโฮนีอารา (Honiara)   ภายใต้ข้อตกลงระบุว่า “สารวัตรทหารจีน” สามารถถูกเรียกมาช่วยปฏิบัติภารกิจแต่ต้องอยู่ภายใต้การบัญชาการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโซโลมอนเท่านั้น เหมือนเช่นเดียวกับตำรวจออสเตรเลียที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่ที่นี่ ซิซิโล กล่าว   “พวกเราจะพยายามและทำอย่างดีที่สุดในการจัดการพวกเขาเพื่อทำให้มั่นใจว่าสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในประเทศอื่น เป็นต้นว่า ฮ่องกง จะไม่เกิดขึ้นในประเทศของเรา”   ข้อตกลงความมั่นคงระหว่างหมู่เกาะโซโลมอน และจีนนั้นทำให้พันธมิตรโลกตะวันตกต่างออกมาวิตกเกี่ยวกับการที่หมู่เกาะแปซิฟิกซึ่งเป็นเสมือนหลังบ้านของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เปิดทางให้ตำรวจจีนเข้าไปทำงานที่นั่นกับพลเมืองโซโลมอนอาจจะสร้างปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนเหมือนเช่นที่ตำรวจจีนเคยกระทำในฮ่องกง และในจีนแผ่นดินใหญ่   นายกรัฐมนตรีหญิงนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ในเดือนที่แล้วเคยออกมาตั้งคำถามกับบีบีซีของอังกฤษถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของข้อตกลงความมั่นคงระหว่างกันนี้  …

‘ไต้หวัน’ โวอาศัยบทเรียน ‘สงครามยูเครน’ ซ้อมรบใหญ่ปีนี้เพื่อเตรียมรับมือจีนบุกโจมตี

Loading

  กองทัพไต้หวันแถลงวันพุธ (27 เม.ย.) การซ้อมรบใหญ่ของตนปีนี้จะอิงกับบทเรียนประสบการณ์จากการสู้รบขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน โดยโฟกัสที่เรื่องสงครามอสมมาตร สงครามความรับรู้ความเข้าใจ และสงครามข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนถึงการใช้ทหารกองหนุน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีของจีน   ไต้หวัน ซึ่งจีนถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน ประกาศยกระดับการเตือนภัยนับตั้งแต่ที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากกังวลว่า อาจถูกปักกิ่งทำแบบเดียวกัน แม้ยอมรับว่า ยังไม่มีสัญญาณว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ตาม   กระนั้น กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า ในไต้หวันมีการอภิปรายถกเถียงกันถึงสิ่งที่เรียนรู้จากสงครามยูเครนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งยังได้หารือเรื่องนี้กับอเมริกา   พล.ต.หลิน เหวินหวง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการร่วมของกระทรวงกลาโหมไต้หวัน บอกว่า การซ้อมรบใหญ่ประจำปีของเกาะแห่งนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า “ฮั่นกวง” และมุ่งจำลองสถานการณ์การที่จีนอาจรุกรานเข้ามานั้น สำหรับปีนี้จะมีการยึดโยงกับบทเรียนประสบการณ์จากสงครามยูเครน   เขากล่าวว่า ไทเปจะติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิด รวมถึงจับตาความเคลื่อนไหวของกองทัพจีน และจะซ้อมรบเพื่อผลักดันการปรับปรุงยกระดับเรื่องการใช้สงครามอสมมาตร สงครามความรับรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติการสงครามข้อมูลข่าวสารและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการใช้ทหารกองหนุนและศักยภาพที่มีอยู่ให้เต็มที่   ทั้งนี้ รัสเซียยกพลเรือนแสนเข้าสู่ยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ใน “ปฏิบัติการพิเศษ” เพื่อบ่อนทำลายศักยภาพทางทหารของยูเครน และถอนรากถอนโคนกลุ่มชาตินิยมอันตราย   ทว่า กองกำลังยูเครนต้านทานอย่างแข็งกร้าว ขณะที่ตะวันตกออกมาตรการแซงก์ชันสถานหนักกับรัสเซียเพื่อบีบให้ถอนทหารออกจากยูเครน   ทางด้านไต้หวันนั้นอยู่ระหว่างการปฏิรูปทหารกองหนุนให้มีศักยภาพในการสู้รบมากขึ้น…

เผยไอพีผู้โพสต์ เว่ยโป๋ปราบเกรียนข่าวปลอม เปิดที่อยู่ทุกคอมเมนต์

Loading

  เผยไอพีผู้โพสต์ – วันที่ 28 เม.ย. รอยเตอร์รายงานว่า เว่ยโป๋ แอพพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยมของชาวจีน (เทียบเท่าทวิตเตอร์) ประกาศจะเปิดเผย IP Address ของผู้โพสต์แสดงความคิดเห็นทุกคน เพื่อเป็นมาตรการป้องปรามพฤติกรรมการแสดงความคิดเห็นอย่างไร้ความรับผิดชอบ   มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้คอมเมนต์ของผู้ใช้แพล็ตฟอร์มสนทนาดังกล่าวถูกแนบด้วย IP Address หมายเลขรหัสทางไซเบอร์ที่สามารถใช้บ่งบอกเครื่องที่ใช้งานและแหล่งที่มาได้   การประกาศข้างต้นมีชาวจีนเข้ามาอ่านกว่า 200 ล้านครั้งและถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมดิจิตอลของชาวจีนอย่างกว้างขวาง โดยบางคนมองว่าการเปิดเผย IP Address ผู้โพสต์เป็นเสมือนกับการที่ต้องการกระซิบข้างหูผู้ใช้ตลอดเวลาว่า “ระวังตัวให้ดี”   โปรไฟล์ผู้ใช้สามารถดูรายละเอียดที่อยู่และ IP Address ได้ (เว่ยโป๋)   อย่างไรก็ดี มีชาวจีนบางส่วนที่สนับสนุนมาตรการดังกล่าวด้วยโดยเฉพาะในช่วงที่จีนกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนครั้งรุนแรง เพื่อปราบปรามการเผยแพร่ข่าวปลอมสร้างความสับสนและเข้าใจผิดให้สังคม   แถลงการณ์ของเว่ยโป๋ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดพฤติกรรมการแอบอ้าง การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง การใช้บ็อต และเพื่อแสดงถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้ของการแสดงคิดเห็นต่างๆ   “เว่ยโป๋ยืนหยัดเพื่อรักษาบรรยากาศการสนทนาที่ดีและเป็นระเบียบเรียบร้อยเสมอมา รวมทั้งการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการในการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงได้อย่างรวดเร็วที่สุดเสมอ” เว่ยโป๋ ระบุ  …