รบ.เลบานอนลาออกยกคณะ เซ่นระเบิดเบรุต ลั่นทำตามความต้องการประชาชน

Loading

รัฐมนตรีเลบานอนประกาศลาออกทั้งคณะ ไม่ถึงสัปดาห์หลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในกรุงเบรุต ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 220 ศพ และการประท้วงรุนแรงติดต่อกันหลายวัน สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ฮันซัน ดิอับ แห่งเลบานอน ประกาศลาออกจากตำแหน่งพร้อมกับคณะรัฐมนตรีของเขาทั้งคณะแล้วในคืนวันจันทร์ที่ 10 ส.ค. 2563 โดยระบุว่าสาเหตุมาจากการระเบิดในกรุงเบรุต ซึ่งเขาระบุว่าเป็นหายนะที่ไม่อาจประเมินความเสียหายได้ ในแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ นายดิอับประณามกลุ่มนักการเมืองช้ันปกครอง สนับสนุนระบบการทุจริตคอร์รัปชันที่ใหญ่โตยิ่งกว่าระดับประเทศ “เราต่อสู้อย่างกล้าหาญและมีเกียรติ” นายกรัฐมนตรี พูดถึงตัวเองกับคณะรัฐมนตรีของเขา “แต่ระหว่างเรากับความเปลี่ยนแปลงมีกำแพงใหญ่ที่แข็งแกร่งขวางอยู่” นายดิอับยังเปรียบเทียบเหตุระเบิดเมื่อวันอังคารที่ 4 ส.ค. ว่าเป็นแผ่นดินไหนที่สั่นสะเทือนเลบานอน ทำให้รัฐบาลของเขาต้องลาออก “วันนี้ เราทำตามความต้องการของประชาชนที่เรียกร้องให้รับผิดชอบต่อหายนะที่ซุกซ่อนมากว่า 7 ปี และความต้องการของพวกเขาที่อย่างให้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง” ก่อนหน้าที่นายดิอับจะมีแถลงการณ์ กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากออกมาประท้วงอย่างรุนแรงหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรี ในกรุงเบรุต โดยผู้ชุมนุมหลายสิบคนขว้างปาก้อนหิน, ดอกไม้ไฟ และระเบิดขวาดใส่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงซึ่งตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา ผู้ประท้วงบางคนยังพยายามรื้อกำแพงนอกจัตุรัสรัฐสภาด้วย ทั้งนี้ เลบานอนกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษอยู่แล้ว กอปรกับการระบาดของไวรัสโควิด-19, การคอร์รัปชันและการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาล แต่เหตุระเบิดที่กรุงเบรุต ซึ่งมีสาเหตุจากการละเลยปล่อยให้สารแอมโมเนียมไนเตรทถึง 2,750 ตันเก็บอยู่ที่ท่าเรือใกล้เขตที่อยู่อาศัยมานานถึง 7 ปี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 220…

ผู้ประท้วงปะทะ จนท.รัฐบาลกลางเมืองพอร์ตแลนด์หลังศาลสั่งห้ามการใช้กำลัง

Loading

Protesters throw flaming debris over a fence at the Mark O. Hatfield United States Courthouse on Wednesday, July 22, 2020, in Portland, Ore. Following a larger Black Lives Matter Rally, several hundred demonstrators faced off against federal… ประชาชนในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ยังคงเดินหน้าประท้วงต่อเนื่อง และปะทะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง หลังศาลออกคำสั่งยับยั้งไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันส่งมา ใช้กำลังกับผู้สื่อข่าวและผู้สังเกตการณ์เหตุประท้วง ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ชุมนุมปะทะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางที่ปักหลักดูแลอาคารสำนักงานศาลของเมืองพอร์ตแลนด์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่บางส่วนจะยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชน เพื่อกันให้ออกจากบริเวณอาคาร พร้อมประกาศว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย เหตุปะทะกันระหว่างทั้งสองฝ่ายนี้เกิดขึ้น หลังผู้พิพากษา ไมเคิล ไซมอน ออกคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยับยั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางไม่ให้ใช้กำลัง เข้าสลาย…

ประท้วงเดือดเมืองพอร์ตแลนด์ ม็อบบุกเผา สน. เทศมนตรีจี้ทหารออกจากเมือง

Loading

ความไม่สงบในเมืองพอร์ตแลนด์ของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดกลุ่มผู้ประท้วงก่อเหตุบุกเผาสำนักงานตำรวจ และปะทะกับเจ้าหน้าที่ จนมีผู้บาดเจ็บ สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สำนักงานตำรวจเมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐโอเรกอน ของสหรัฐฯ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 ก.ค. 2563 ตามเวลาท้องถิ่น ว่า ผู้ประท้วงบุกเข้าไปภายในสำนักงานสมาคมตำรวจทางเหนือของเมืองพอร์ตแลนด์แล้วจุดไฟเผา ขณะที่ผู้ประท้วงบางคนขว้างปาก้อนหินและลูกโป่งบรรจุสีใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ในขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงกลุ่มใหญ่ออกมารวมตัวกันใกล้สำนักงานศาลรัฐบาลกลางและศูนย์ยุติธรรม ในย่านใจกลางเมือง โดยบางคนถอนรั้วที่เจ้าหน้าที่นำมาวางกั้นรอบสำนักงานศาลออกไปด้วย ทั้งนี้ ชาวเมืองพอร์ตแลนด์ ออกมาชุมนุมต่อเนื่องอย่างน้อย 50 คืนแล้ว นับตั้งแต่การเสียชีวิตของ นายจอร์จ ฟลอยด์ โดยในเบื้องต้นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ และการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ซึ่งการประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ แม้จะมีการปะทะกันประปราย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การประท้วงส่วนใหญ่มีแรงผลักดันจากความไม่พอใจวิธีการรับมือการประท้วงของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง รวมทั้งการให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่พกตราประจำตัว ออกจับกุมผู้ประท้วง นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงมาตุภูมิ จับผู้ประท้วงแล้วพาตัวขึ้นรถที่ไม่มีตราตำรวจด้วย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความปกป้องการกระทำของเจ้าหน้าที่ในวันอาทิตย์ “เราพยายามช่วยพอร์ตแลนด์ ไม่ได้ทำร้าย” นายทรัมป์ ระบุ “ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้นำของพวกเขาควบคุมพวกนิยมอนาธิปไตยและพวกผู้ปลุกปั่นไม่ได้ พวกเขามีมาตรการไม่เพียงพอ เราต้องปกป้องทรัพย์สินของรัฐบาลกลาง และประชาชนของเรา…

ปะทะเดือด! ตำรวจฮ่องกงฉีดน้ำแรงดันสูง-สเปรย์พริกไทยสลายม็อบต้าน ‘กม.ความมั่นคง’

Loading

รอยเตอร์ – ตำรวจฮ่องกงฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสลายการชุมนุมประท้วง ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงบ่ายวันนี้ (1 ก.ค.) หลังจากกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เริ่มมีผลบังคับ โดยเจ้าหน้าที่เตือนว่านักเคลื่อนไหวที่ถูกจับกุมอาจโดนตั้งข้อหาแบ่งแยกดินแดน และล้มล้างการปกครอง รัฐบาลจีนได้เปิดเผยรายละเอียดของกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่จะใช้กับฮ่องกงเมื่อวันอังคาร (30 มิ.ย.) ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าเกาะศูนย์กลางการเงินที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจะถูกผลักเข้าไปอยู่ใต้เงาของระบอบเผด็จการ ตำรวจปราบจลาจลใช้สเปรย์พริกไทยเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคน ซึ่งออกมารวมตัวกันที่ย่านใจกลางเมือง เนื่องในวันครบรอบ 23 ปีที่อังกฤษส่งคืนเกาะฮ่องกงให้กับจีน และรายงานว่านักเคลื่อนไหวหลายคนถูกจับ ขณะที่ห้างร้านและสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งต้องปิดให้บริการ “ผมก็กลัวติดคุกนะ แต่เพื่อความยุติธรรมผมต้องออกมา ผมต้องลุกขึ้นสู้” ชายวัย 35 ปีคนหนึ่งที่ชื่อว่า เซธ (Seth) ให้สัมภาษณ์ ฝูงชนจำนวนมากที่ทยอยหลั่งไหลเข้าสู่ท้องถนนต่างป่าวร้องสโลแกน “ต่อต้านให้ถึงที่สุด” และ “เอกราชของฮ่องกง” ล่าสุด มีรายงานว่า ตำรวจฮ่องกงใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงขับไล่ผู้ประท้วง และจับกุมนักเคลื่อนไหวประมาณ 30 คน ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุม, กระทำการกีดขวาง, ครอบครองอาวุธ และละเมิดกฎหมายความมั่นคง ก่อนหน้านั้น ตำรวจได้ชูป้ายข้อความสีม่วงที่เตือนผู้ประท้วงว่า “พวกคุณกำลังชูธงและป้ายข้อความ, ป่าวร้องสโลแกน หรือกระทำการที่แสดงถึงเจตนาในการแบ่งแยกดินแดนหรือล้มล้างการปกครอง ซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่” กฎหมายความมั่นคงที่จีนประกาศใช้ได้กำหนดบทลงโทษสำหรับความผิดอาญาฐานแบ่งแยกดินแดน, บ่อนทำลายรัฐ, ก่อการร้าย และสมคบคิดกับรัฐบาลต่างชาติ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต และยังกำหนดให้ตั้งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติขึ้นในฮ่องกงซึ่งจะมีอำนาจอยู่เหนือกฎหมายท้องถิ่น แม้ทางการจีนและฮ่องกงจะออกมายืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า กฎหมายนี้มุ่งลงโทษ…

คลื่นใต้น้ำของการประท้วงในสหรัฐฯ: ความน่ากลัวของพวกแหกคอก

Loading

ที่มาภาพ:https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/1/16/Virginia_2nd_Amendment_Rally_%282020_Jan%29_-_49416109936_%28cropped%29.jpg Written by Kim ขบวนการ Boogaloo[1] ของสหรัฐฯประกอบด้วยกลุ่มบุคคลที่ได้รับอิทธิพลหลากหลายมารวมกันด้วยความรังเกียจการบังคับใช้กฎหมายของรัฐ ขบวนการนี้เห็นด้วยกับสิทธิในการครอบครองอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว โดยตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่สอง (2nd Amendment)[2] อย่างแคบและอำพรางตัวภายใต้การประท้วงเพื่อให้มลรัฐต่าง ๆ ยุติการปิดเมือง (reopen) ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมทั้งเข้าร่วมการประท้วงกรณีการเสียชีวิตของ George Floyd พลพรรคของขบวนการมีแผนก่อความรุนแรงเพื่อต่อต้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ การโจมตีครั้งล่าสุดใน Las Vegas โดยบุคคลสามคน (ถูกตรวจพบก่อน) และการกราดยิงที่ Santa Cruz และ Oakland โดยบุคคลซึ่งเรียกตัวเองว่า Boogaloo Bois นั้น ผู้ก่อเหตุทั้งหมดมีประสบการณ์ทำงานในกองทัพสหรัฐฯ[3] การเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลสหรัฐฯในช่วงความสับสนของปี 2019 จนถึงช่วงน่าอับอายกลางปี 2020 โดยกลุ่มบุคคลผู้มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาล อยู่ในช่วงเริ่มต้นของคลื่นใต้น้ำของเครือข่ายปฏิบัติการ Boogaloo (คำรหัส) หมายถึง “สงครามกลางเมือง” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง Breakin’2: Electric Boogaloo ที่ออกฉายช่วงกลางทศวรรษ 1980 บุคคลในขบวนการซึ่งเรียกตัวเองว่า “Boogaloo Bois” มักอ้างภึงภาพยนตร์ดังกล่าวประหนึ่งสงครามกลางเมืองครั้งที่ 2 (Civil War 2: Electric Boogaloo) ความแปลกแหวกแนวของขบวนการ Boogaloo ได้แก่ การสวมเสื้อเชิตฮาวาย แต่งกายด้วยเครื่องประดับ igloos[4] และใช้การ์ตูน memes[5] ขบวนการได้แต่งตั้ง Duncan Lemp หรือ Boogaloo Boi ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารระหว่างการจู่โจมบ้านของเขาในมลรัฐ Maryland ให้มีสถานะเป็นไอคอนและผู้พลีชีพ เช่นเดียวกับพวก incels[6] ยกย่องบูชา Elliot Rodger[7] หรือพวกคนขาวผู้สูงส่ง…

ระทึก รถนายกฯ อังกฤษหลบผู้ประท้วง ก่อนโดนชนท้ายหน้ารัฐสภา

Loading

รถยนต์ที่บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยสาร ประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายหน้ารัฐสภา หลังเบรกกะทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า รถยนต์ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักรกำลังโดยสาร ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน เมื่อวันพุธที่ 17 มิ.ย. 2563 หลังจากรถคันดังกล่าวพยายามหลบผู้ประท้วงที่สนับสนุนชาวเคิร์ด ที่วิ่งลงมาบนถนน ทำให้รถที่ขับตามมาพุ่งชนท้าย คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นว่า รถยนต์จากัวร์ของนายกฯ จอห์นสัน ซึ่งกำลังเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ต้องเบรกกะทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน ก่อนจะถูกรถยนต์ที่ตามมาชนท้ายจนเกิดรอยยุบขนาดใหญ่ ขณะที่ตำรวจปลุกปล้ำจับกุมผู้ประท้วงที่ก่อเหตุลงกับพื้น ด้านตำรวจเทศบาลกรุงลอนดอนระบุว่า การเฉี่ยวชนเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 14.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ผู้ประท้วงผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวในข้อหาสร้างความไม่สงบในที่สาธารณะ และกีดขวางการจราจรบนท้องถนน ส่วนสำนักงานนายกรัฐมนตรียืนยันว่า นายจอห์นสันที่อยู่ในรถไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งนี้ คาดว่าผู้ประท้วงดังกล่าวออกมาเคลื่อนไหวแสดงการต่อต้านตุรกี ที่ตัดสินใจส่งทหารโจมตีกบฏชาวเคิร์ดในซีเรียอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ——————————————————- ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / 18 มิถุนายน 2563 Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1871317