เอกสารทั้ง 2 ฉบับจัดทำขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาโดยสำนักงานข่าวกรองภูมิสารสนเทศแห่งชาติ (NGA) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการวิเคราะห์ภาพและข้อมูลที่รวบรวมโดยดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯ โดยเอกสารดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ต.ค.) ผ่านแอปฯ Telegram
สื่อทางทหารและของรัฐจีนกล่าวหาว่า สหรัฐฯ กำลังก่อการคุกคามความมั่นคงโลก หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานพบว่า สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้ทำสัญญาลับมูลค่า 1,800 ล้านเหรียญ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์แถลงข่าวว่า กองทัพโปแลนด์มีแผนจะปล่อยดาวเทียมสังเกตการณ์หรือดาวเทียมสอดแนมทางทหารชุดแรกไปสู่วงโคจรในปี 2025 โดยจะซื้อดาวเทียมที่ติดตั้งระบบเรดาร์และเทคโนโลยีออปทิคัล
มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมของญี่ปุ่นระบุผ่านเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ในวันที่ 12 ม.ค. ว่า ทางบริษัทได้ปล่อยจรวด H-IIA ซึ่งบรรทุกดาวเทียมรวบรวมข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ชื่อ Optical-8 ขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศได้สำเร็จ ส่งผลให้ความสำเร็จของการปล่อยจรวดเพิ่มขึ้นเป็น 97.92%
หลังจาก 22 พ.ย. ทางการเกาหลีเหนือได้ออกมาเปิดเผยว่า สามารถส่ง “มัลลิจยอง-1” ดาวเทียมสอดแนมดวงแรกของประเทศขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ ล่าสุดเกาหลีใต้ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ออกมาประกาศความสำเร็จในการส่งดาวเทียมดวงแรกของตนขึ้นสู่อวกาศเช่นกัน ดาวเทียมสอดแนมของเกาหลีใต้ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรโดยจรวด SpaceX Falcon 9 ของอีลอน มัสก์ จากฐานทัพอวกาศสหรัฐฯ
วันที่ 23 พ.ย. “เกาหลีเหนือ” ระบุว่า กองกำลังติดอาวุธที่แข็งแกร่งกว่า และอาวุธใหม่จะประจำการบริเวณชายแดนติดกับ “เกาหลีใต้” หนึ่งวันหลังจากโซลระงับส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางทหารปี 2018 ระหว่างสองเกาหลี เพื่อประท้วงกรณีที่เปียงยางปล่อยดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่วงโคจร และจะยกระดับสอดแนมทางทหารตามแนวชายแดน
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว