สงครามยูเครนกับตลาดซื้อขายอาวุธ

Loading

โดย…ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ **************************************** สงครามและการสู้รบที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นเรื่องความขัดแย้งในผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศคู่กรณีที่ไม่สามารถตกลงทางการทูตได้ จึงนำไปสู่การสู้รบ เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กำลังสู้รบกันอยู่ในขณะนี้ คำถามคือ อุตสาหกรรมและตลาดการซื้อขายอาวุธเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้หรือไม่ อย่างไร ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งนี้ รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับประเทศในกลุ่มอาหรับ สหรัฐฯ กับอิรัก ซีเรีย ปากีสถาน ส่วนหนึ่งที่เปิดเผยคือความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ตกลงกันทางการทูตไม่ได้ จึงนำไปสู่สงคราม แต่ตลาดการซื้อขายอาวุธสงครามก็คึกคักและทำเงินได้มากทีเดียว แม้ว่า ประเทศต่างๆ ต้องมีการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยตามห้วงเวลา แต่นั่นก็ไม่ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตอาวุธและตลาดซื้อขายอาวุธคึกคักและทำกำไรให้เท่ากับเมื่อเกิดการสู้รบหรือสงคราม ยิ่งสงครามขยายใหญ่โต ความสูญเสียอาวุธก็เพิ่มขึ้นซึ่งจำเป็นต้องมีการทดแทนและสำรอง อุตสาหกรรมอาวุธจะทำกำไรได้มากเมื่อมีความตึงเครียดระหว่างประเทศ เกิดการเผชิญหน้าทางทหารและการสู้รบ สงคราม เพราะคู่กรณีต้องใช้อาวุธที่ทันสมัยเหนือคู่สงคราม ประเทศผู้ผลิตอาวุธขายจะทำกำไรได้มาก หุ้นสูงขึ้น คนถือหุ้นได้กำไรชนิดนับเงินกันไม่ไหว สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในสวีเดน (SIPRI) รายงานเมื่อปี 2564 ว่า ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา (2559-2563) ตลาดซื้อขายอาวุธขยายมากที่สุดหลังจากสิ้นสุดสงครามเย็น สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ส่งออกอาวุธมากที่สุดถึงร้อยละ 47 ในตลาดซื้อขายอาวุธของโลก ฝรั่งเศสส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 44 และเยอรมนีส่งออกเพิ่มร้อยละ 21 รัสเซียและจีนก็ส่งออกอาวุธได้เพิ่มขึ้นเช่นกันโดยแย่งตลาดสหรัฐฯ มาได้ในส่วนหนึ่ง โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปยังประเทศในทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางเป็นตลาดอาวุธที่ใหญ่ที่สุด เพราะมีการสู้รบตลอดมาโดยพื้นฐานระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับเพื่อนบ้าน…