หัวขโมยยกเค้าตู้ทองคำมูลค่าเฉียด 70 ล้านบาทในโบสถ์กลางกรุงนิวยอร์ก
แก๊งอาชญากรลักลอบขโมยทรัพย์สินมีค่าในโบสถ์คาทอลิกย่านบรูคลิน ระหว่างที่โบสถ์ปิดทำการเพื่อซ่อมแซม ซ้ำทำลายเทวรูปประดับด้านข้างจนเสียหาย เกิดเหตุบุกรุกและขโมยทรัพย์สินของโบสถ์คาทอลิก ‘เซนต์ ออกัสติน’ ในย่านพาร์คสโลป เขตบรูคลิน กรุงนิวยอร์ก โดยมีทรัพย์สินชิ้นสำคัญที่สูญหายคือ ตู้ศีลมหาสนิทอายุกว่าร้อยปี ทำจากทองคำบริสุทธิ์ 18 กะรัต ประดับอัญมณี ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 70 ล้านบาท เนื่องจากโบสถ์ดังกล่าวอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุงสถานที่ บาทหลวงผู้ดูแลโบสถ์จึงเพิ่งรู้ว่าเกิดเหตุขโมยทรัพย์สินในโบสถ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และเชื่อว่าแก๊งหัวขโมยลักลอบเข้ามาในโบสถ์ในวันศุกร์ที่ 27 พ.ค. ขณะที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 พ.ค. ตู้ศีลมหาสนิททองคำเป็นของมีค่าที่สุดในโบสถ์ เว็บไซต์ของทางโบสถ์บรรยายไว้ว่า เป็นผลงานการจัดสร้างชั้นเยี่ยมและเป็นหนึ่งในตู้ศีลมหาสนิทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในสหรัฐฯ โลหะและอัญมณีมีค่าที่ประดับตัวตู้เป็นของที่ศาสนิกชนผู้ศรัทธาบริจาคมา ทางโบสถ์ได้วางระบบรักษาความปลอดภัยพร้อมทั้งใช้แผ่นโลหะหนา 1 นิ้ว ครอบปิดตัวตู้ไว้อย่างแน่นหนาในเวลาที่ไม่ได้เปิดใช้งานหรือเปิดให้ชม แต่แก๊งหัวขโมยได้ำลายระบบรักษาความปลอดภัยและใช้อุปกรณ์ตัดตัวครอบโลหะที่ล้อมตัวตู้ แล้วงัดออกจนสามารถขโมยตู้ทองคำไปได้ จากกล้องวงจรปิดในละแวกนั้น คาดว่าขโมยออกทางประตูหน้า 1 คน ส่วนคนอื่น ๆ สามารถนำของที่ขโมยไปหลบหนีและเลี่ยงกล้องวงจรปิดไปได้ คุณพ่อแฟรงก์ ทูมิโน ซึ่งเป็นบาทหลวงประจำโบสถ์เซนต์ออกัสติน กล่าวในแถลงการณ์ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าสะเทือนใจมาก เนื่องจากตู้ศีลทองคำที่โดนขโมยไปนั้นเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวคริสต์ที่มาสักการะเป็นประจำ หัวขโมยไม่เพียงขโมยทรัพย์สินมีค่า แต่ยังทำร้ายจิตใจคริสตศาสนิกชนด้วยการรื้อค้นสิ่งของในตู้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ประกอบพิธีรับศีลมหาสนิท…