นักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และการต่างประเทศประเมิน จีนแผ่นดินใหญ่มีหนทางในการยึดไต้หวันได้โดยไม่ต้องรบอยู่ ความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวันที่ยังคงคุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังเกาะไต้หวันได้ผู้นำใหม่สายเสรีนิยมจ๋าอย่าง ไล่ ชิงเต๋อ (วิลเลียม ไล่) ก็ยิ่งทำให้เป็นที่จับตามองว่า ปัญหานี้จะบานปลายไปสู่สงครามยึดไต้หวันหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้จีนเคยพูดออกสื่อแล้วว่า หากจำเป็น จะใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน
หนึ่งในไฮไลต์จากเวทีประชุมความมั่นคง Shangri-La Dialogue ที่สิงคโปร์ในปีนี้คือ บรรยากาศความตึงเครียดจากปมพิพาทระหว่าง จีน-ฟิลิปปินส์ ในทะเลจีนใต้ที่ยังคุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ที่ปมขัดแย้งนี้ อาจลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามใหญ่ครั้งใหม่ในเอเชีย
กฎระเบียบฉบับใหม่ของจีน อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยามฝั่งสามารถควบคุมตัวชาวต่างชาติในเขตพื้นที่พิพาทได้นานสูงสุด 60 วันโดยไม่ต้องมีการไต่สวนความผิดใด ๆ
นายเอดูอาร์โด อาโน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของฟิลิปปินส์ เรียกร้องในวันนี้ (10 พ.ค.) ให้ไล่นักการทูตจีนออกโทษฐานทำข้อมูลการสนทนาทางโทรศัพท์กับพลเรือเอกคนหนึ่งของฟิลิปปินส์รั่วไหล
ในขณะที่ตะวันออกกลางกำลังร้อนระอุ อีกฟากฝั่งหนึ่งในทะเลจีนใต้ก็คุกรุ่นไม่แพ้กัน เมื่อกองทัพบกสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก (US Army Pacific) ประกาศผ่านเว็บไซต์ทางการว่า กองทัพประสบความสำเร็จในการติดตั้งระบบขีปนาวุธพิสัยกลาง (Mid-Range Capability: MRC) หรือที่รู้จักกันในชื่อระบบไทฟอน (Typhon Weapons System) บนเกาะลูซอนทางตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมทางทหารประจำปีระหว่างกองทัพบกฟิลิปปินส์กับกองทัพบกสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก การซ้อมรบร่วมดังกล่าวเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน โดยใช้ชื่อปฏิบัติการว่า Salaknib แถลงการณ์ของกองทัพบกสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก เมื่อวันที่ 15 เมษายน ระบุว่า หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ 1st Multi-Domain Task Force ได้เคลื่อนย้ายระบบขีปนาวุธพิสัยกลาง MRC โดยเครื่องบิน C-17 Globemaster ใช้เวลาเดินทางกว่า 15 ชั่วโมง รวมระยะทางมากกว่า 8,000 ไมล์ จากฐานทัพร่วม Joint Base Lewis-McChord ในรัฐวอชิงตัน มาถึงประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 11 เมษายน…
ผลสำรวจจากศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศอินโดนีเซีย พบว่า ชาวอินโดฯ 73% มองว่า การอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทะเลจีนใต้ของจีน เป็นภัยคุกคามต่อประเทศ ผลสำรวจของศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศอินโดนีเซีย (ISDS) ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (19 มี.ค.) พบว่า ชาวอินโดนีเซีย 73% จาก 312 คนในเมืองใหญ่ 5 เมืองที่เกี่ยวข้องกับกรณีพิพาททะเลจีนใต้ มองว่า การแสดงอิทธิพลในทะเลจีนใต้ของจีนเป็นภัยคุกคามต่ออินโดนีเซีย อินโดนีเซียไม่ใช่ผู้อ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ แต่เขตเศรษฐกิจจำเพาะพิเศษ (EEZ) ของอินโดฯ ในทะเลนาทูนาเหนือตกอยู่ภายใต้พื้นที่เส้นประ 9 เส้นของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลปักกิ่งอ้างสิทธิ์ประมาณ 90% ของข้อพิพาทน่านน้ำ “ฮาดี จาห์จานโต” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเมือง กฎหมาย และความมั่นคง กล่าวผ่านงานสัมมนาที่จัดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวผลสำรวจดังกล่าวเมื่อวันอังคารว่า ในปี 2566 จีนเปิดเผยแผนที่น่านน้ำที่จัดทำฝ่ายเดียว โดยเพิ่มพื้นที่เส้นประอีก 1 เส้น ดังนั้น การอ้างสิทธิ์พื้นที่เส้นประ 10 เส้นจึงครอบคลุมพื้นที่ภูมิภาคทะเลจีนใต้ทั้งหมด ซึ่งบางส่วนครอบคลุมไปยังพื้นที่ EEZ ของทะเลนาทูนาเหนือ…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว