ท่อส่งน้ำมันเวเนซุเอลาระเบิดรุนแรง คาดคนลักลอบขโมยน้ำมันเป็นเหตุ

Loading

  เกิดเหตุท่อส่งน้ำมันระเบิดจนเกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงในเวเนซุเอลา คาดว่าสาเหตุเกิดจากมีคนพยายามลักลอบเจาะท่อส่งน้ำมัน เพื่อขโมยน้ำมันไปขาย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในรัฐอันโซอาเตกิของเวเนซุเอลา ระดมกำลังเร่งเข้าควบคุมเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ซึ่งเกิดจากท่อส่งน้ำมันระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเหตุระเบิดรุนแรงส่งผลให้เกิดลูกบอลไฟขนาดยักษ์ลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า มองเห็นในระยะไกล จนทำให้ท้องฟ้าในบริเวณดังกล่าวกลายเป็นสีส้ม ขณะที่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ 3 คน แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการว่ามีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเพิ่มอีกหรือไม่ และคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากมีผู้ลักลอบไปแอบเจาะท่อส่งน้ำมันของบริษัท PDVSA เพื่อลักลอบขโมยน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างผิดกฎหมายจนทำให้เกิดการระเบิดขึ้น ซึ่งทางบริษัทยืนยันว่ากำลังเร่งระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมและตรวจสอบความเสียหาย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับการให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มา : รอยเตอร์     ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์       /   วันที่เผยแพร่ 13 ม.ค.2565 Link : https://www.https://www.thairath.co.th/news/foreign/2287214

สหรัฐเป็นอัมพาต ท่อส่งน้ำมันใหญ่ที่สุดถูกแฮกเรียกค่าไถ่

Loading

  สถานการณ์ใหญ่จนต้องรายงานสรุปให้ไบเดน ผู้ต้องสงสัยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพไซเบอร์ของบางประเทศที่สหรัฐหมายหัวว่าสร้างกองทัพทำสงครามไซเบอร์ The New York Times รายงานว่าท่อส่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐซึ่งขนถ่ายน้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินจากเท็กซัสฝั่งตะวันออกไปยังนิวยอร์กต้องถูกปิดลงหลังจากถูกโจมตีโดยแรนซัมแวร์ (Ransomware) หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ นับเป็นการโจมตีที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งและแสดงให้เห็นถึงช่องโหว่ของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานต่อการโจมตีทางไซเบอร์ ผู้ดำเนินการระบบ Colonial Pipeline กล่าวในแถลงการณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ใช้ถ้อยคำที่คลุมเครือโดยกล่าวว่าได้ปิดท่อส่งน้ำมันระยะทาง 5,500 ไมล์ซึ่งระบุว่าบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง 45% ของชายฝั่งตะวันออกเพื่อพยายามควบคุมการแทรกซึมเข้ามาในระบบบ ต่อมา สำนักงานสืบสวนกลาง หรือ FBI, กระทรวงพลังงาน และทำเนียบขาวได้เจาะลึกรายละเอียด จน Colonial Pipeline ต้องยอมรับว่าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัทถูกโจมตีโดยแรนซัมแวร์ ซึ่งกลุ่มอาชญากรจับข้อมูลเป็นตัวประกันจนกว่าเหยื่อจะจ่ายค่าไถ่ บริษัทกล่าวว่าได้ปิดท่อไปเองซึ่งเป็นมาตรการป้องกันเนิ่นๆ คาดว่าเพราะบริษัทกลัวว่าแฮกเกอร์อาจได้รับข้อมูลที่จะทำให้สามารถโจมตีส่วนที่มีความเสี่ยงของท่อส่งน้ำมันได้   เจ้าหน้ารัฐบาลสหรัฐกล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการกระทำของกลุ่มอาชญากรมากกว่าที่จะเป็นกองทัพไซเบอร์ของประเทศที่ต้องการทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในสหรัฐ แต่ในบางครั้งกลุ่มดังกล่าวมีความผูกพันกับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศอย่างหลวมๆ และดำเนินการในนามของประเทศนั้นๆ สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าสิ่งที่ทำให้สถานการณ์นี้น่าตกใจก็คือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและมีขนาดใหญ่เช่นจะถูกทำให้ออฟไลน์โดยสิ้นเชิง เช่น Colonial Pipeline ที่ทอดยาวตลอดเส้นทางจากเท็กซัสไปยังนิวเจอร์ซีย์ การหยุดทำงานเป็นการหยุดชะงักครั้งใหญ่ที่สุดของแหล่งพลังงานทางกายภาพนับตั้งแต่การปฏิบัติการน้ำมันของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีโดยโดรนในปี 2561 ตามคำกล่าวของบ็อบ แมคแนลลี (Bob McNally) อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายอาวุโสของทำเนียบขาว “การรีสตาร์ทท่อส่งก๊าซเป็นเรื่องง่ายหากไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นจริง” บ็อบ แมคแนลลีกล่าวกับ Bloomberg “คำถามคือว่าการโจมตีถูกจำกัดและถูกควบคุมได้หรือไม่…