EU บังคับบริษัทเทคโนฯยักษ์ใหญ่จัดการคอนเทนต์ผิดกม.-ฝ่าฝืนเจอโทษปรับ

Loading

  สหภาพยุโรป (EU) เห็นชอบในวันนี้ (23 เม.ย.) เกี่ยวกับการออกกฎหมายใหม่ ซึ่งจะบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ๆ อาทิ กูเกิล และเมตา จัดการกับคอนเทนต์ที่ผิดกฎหมายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างจริงจังมากขึ้น มิฉะนั้นจะเสี่ยงกับการถูกปรับเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์   สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิก EU ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกฎหมายการให้บริการดิจิทัล (Digital Services Act – DSA) ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับคอนเทนต์ที่ผิดกฎหมายและเป็นอันตราย ด้วยการสั่งให้แพลตฟอร์มดำเนินการลบคอนเทนต์เหล่านั้นออกไปอย่างรวดเร็ว   ส่วนสำคัญของกฎหมายนี้จะจำกัดวิธีที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลทำการกำหนดเป้าหมายผู้ใช้งานสำหรับการโฆษณาออนไลน์ โดย DSA จะขัดขวางแพลตฟอร์มต่าง ๆ จากการกำหนดเป้าหมายผู้ใช้งานด้วยอัลกอริทึมโดยใช้ข้อมูลเพศ เชื้อชาติหรือศาสนา และจะห้ามไม่ให้กำหนดเป้าหมายด้านการโฆษณากับผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก   นอกจากนี้ DSA จะห้ามการใช้กลวิธีหลอกลวงที่ออกแบบมาเพื่อผลักดันให้ผู้ใช้งานเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการบางอย่างด้วย   บริษัทเทคโนโลยีจะต้องใช้ขั้นตอนใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เช่น คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง การยั่วยุให้ก่อการร้าย และการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยตลาดอี-คอมเมิร์ซ เช่น แอมะซอนจะต้องห้ามการขายสินค้าผิดกฎหมายภายใต้กฎใหม่ดังกล่าว   ทั้งนี้ บริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามกฎใหม่ดังกล่าวอาจต้องเสียค่าปรับสูงถึง 6% ของรายได้ประจำปีทั่วโลก…

ร่างกม.อังกฤษ กำหนดโทษจำคุกผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยี

Loading

FILE – This combination of photos shows logos for social media platforms Facebook and Twitter.   สำนักข่าว เอพี รายงานว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังนำเสนอร่างกฎหมายใหม่ที่มีจุดประสงค์ที่จะสร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ด้วยการนำเสนอบทลงโทษจำคุกสำหรับผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายที่ทำการหละหลวมไม่ปฏิบัติตามแนวทางใหม่นี้   รัฐบาลอังกฤษ เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ร่างกฎหมายใหม่ที่ว่านี้จะให้อำนาจที่มากขึ้นแก่หน่วยงานกำกับดูแลกิจการเทคโนโลยี ในการดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทดิจิทัลและสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น กูเกิล (Google) เฟซบุ๊ก (Facebook) ทวิตเตอร์ (Twitter) และติ๊กตอก (TikTok) เป็นต้น   เอพี ระบุว่า ร่างกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยในโลกออนไลน์นี้ สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของสหราชอาณาจักรในการเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวในการเข้าควบคุมอำนาจของสื่อดิจิทัลทั้งหลาย และจัดการให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมีส่วนรับผิดชอบต่อเนื้อหาข้อมูลที่เป็นภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เนื้อหาที่มีลักษณะเหยียดเชื้อชาติ การกลั่นแกล้ง การฉ้อโกงต่างๆ รวมทั้ง เนื้อหาอื่นๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานและปรากฏอยู่ในแพลตฟอร์มของตน หลังจากที่สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ได้เดินหน้าความพยายามเช่นเดียวกันนี้ไปแล้ว   นาดีน ดอร์รีส…