สุดแกร่ง ‘รถ’ ประจำตำแหน่ง ผู้นำทั่วโลก อึดทนยิงไม่เข้า เจอระเบิดไม่สะท้าน

Loading

  สุดแกร่ง รวม ‘รถ’ ประจำตำแหน่ง ของผู้นำจากทั่วโลก อึด ถึก ทน ยิงไม่เข้า เจอระเบิดไม่มีสะท้าน ไปไหนปลอดภัยหายห่วง   ผู้นำประเทศนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ยิ่งประเทศมหาอำนาจของโลกแล้วยิ่งสำคัญ ผู้นำประเทศจะไปไหนทำอะไร มักมีมาตรการที่เข้มงวด เพื่อความรักษาปลอดภัย เพราะไม่มีทางทราบได้เลยว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นตอนไหน ผู้นำของแต่ละประเทศนั้น ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ การเดินทางก็ต้องใช้ “รถ” ประจำตำแหน่ง ที่ต้องเหนือกว่า “รถ” ทั่วไป     “รถ” ประจำตำแหน่ง ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อำนวยสะดวกสบาย และปกป้องผู้นำให้ปลอดภัย จากผู้จ้องที่จะทำร้ายได้ตลอดเวลาของการเดินทาง วันนี้ทาง คมชัดลึก พาส่อง “รถประจำตำแหน่ง” ของผู้นำแต่ละประเทศทั่วโลก แต่ละคันไม่ธรรมดา เหนือชั้นสุดแกร่งนั่งแล้วปลอดภัยหายห่วง     พม่า หรือ เมียนมา   สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับใน 2 อาเซียน เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดไทยเราที่สุด เมื่อพูดถึงผู้นำพม่า ชาวโลกก็ต้องนึกถึงผู้หญิงคนนี้…

คำถามที่ยังไม่มีคำตอบกรณีพบเอกสารลับของไบเดน

Loading

  จะเป็นแค่เรื่องน่าขายหน้า หรือจะส่งผลกระทบร้ายแรงทางการเมือง นี่คือคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกรณีการพบเอกสารลับทางราชการที่บ้านของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในรัฐเดลาแวร์ และสำนักงานในกรุงวอชิงตันดีซีที่เขาเคยใช้ทำงาน   ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ทำเนียบขาวออกมาบอกว่าพบเอกสารลับเพิ่มอีก 5 หน้า ที่บ้านของผู้นำสหรัฐฯ ในเดลาแวร์ โดยทีมทนายความของนายไบเดนบอกว่าเอกสารชุดนั้นมาจากตอนที่เขาเป็นรองประธานาธิบดีสมัยบารัค โอบามา   ตอนนี้ได้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษด้านกฎหมายเพื่อสอบสวนเรื่องนี้แล้ว และนี่คือ 4 คำถามที่ยังไม่มีคำตอบเกี่ยวกับกรณีนี้     เนื้อหาในเอกสาร   นายไบเดนบอกว่าเขาไม่รู้ว่าเนื้อหาในเอกสารลับที่เจอคืออะไร   หากเรายังไม่รู้เนื้อหาในเอกสารเหล่านี้ ก็ยากที่จะบอกได้ว่านี่เป็นเรื่องร้ายแรงแค่ไหน แหล่งข่าวบอกกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นและหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่า เอกสารลับชุดแรกมีข้อมูลเรื่องประเทศต่างๆ รวมถึงยูเครน อิหร่าน และสหราชอาณาจักร จากสมัยที่นายไบเดนเป็นรองประธานาธิบดี   ซีเอ็นเอ็นระบุว่า เอกสารเหล่านี้ไปปะปนอยู่กับเอกสารอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นความลับ อาทิ เอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับงานศพของโบ ไบเดน ลูกชายของนายไบเดนที่เสียชีวิตเมื่อปี 2015   อย่างไรก็ดี ซีเอ็นเอ็นก็บอกด้วยว่าเอกสารบางส่วนเป็นข้อมูลลับสุดยอด (top secret) ซึ่งจัดว่าเป็นระดับขั้นความลับสูงสุด     ใครสามารถเข้าถึงเอกสารเหล่านี้ได้…

อารักขา สี จิ้นผิง เข้มข้น เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่โควิดระบาด

Loading

    อารักขาเข้มข้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่โควิดระบาด เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี   อารักขา สี จิ้นผิง เข้มข้น เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่โควิดระบาด คาดว่าในวันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน 2565 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะเดินทางไปฮ่องกงเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ที่ฮ่องกงกลับคืนสู่ความปกครองของจีน โดยเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนเดินทางออกนอกแผ่นดินใหญ่ นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด ท่ามกลางการอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ตั้งแต่เสิ่นเจิ้นห้ามบินโดรน แบนผู้สื่อข่าว 10 สำนัก เจ้าหน้าที่และ ส.ส. เริ่มกักตัว เพื่อความปลอดภัยจากโควิด   อารักขา สี จิ้นผิง เข้มข้น เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่โควิดระบาด   ตามรายงานระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะออกเดินทางจากแผ่นดินใหญ่โดยรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง ไปถึงเกาลูนตะวันตกบ่ายวันพฤหัสบดีที่…

อดีตประธานาธิบดีอาร์เจนตินาขึ้นศาล แก้ต่างสั่งสอดแนม

Loading

  การไต่สวนอดีตประธานาธิบดีมอริโก ถูกเลื่อนในนาทีสุดท้าย โดยทนายอ้างว่า ศาลไม่มีอำนาจที่จะยกเลิกข้อกำหนดความเป็นส่วนตัวว่าด้วยการข่าวกรองของรัฐ มาใช้บังคับให้อดีตประธานาธิบดีเข้าให้ปากคำ แต่ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน อัลแบร์โต เฟอร์นานเดซ ได้ลงนามในกฤษฏีกาก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงโรม ให้ยกเลิกข้อกำหนดความเป็นส่วนตัว เพื่อให้ศาลไต่สวนอดีตประธานาธิบดีได้ เรือดำน้ำของกองทัพเรือ ARA ซานฆวน หายจากจอเรดาร์ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และ ตรวจพบในอีกหนึ่งปีถัดมาที่ก้อนทะเลลึกมากกว่า 900 เมตร ในเซาท์แอตแลนติก นอกชายฝังอาร์เจนติดนา 400 กิโลเมตร ซึ่งพบสาเหตุการจมด้วยว่า เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิก ครอบครัวของลูกเรือ 44 คน อ้างว่า ถูกคนของรัฐติดตาม ดักฟัง ถ่ายภาพ และ คุกคาม เพื่อไม่ให้ร้องเรียนต่อเหตุการณ์นี้ โดยอดีตประธานาธิบดีมาครี ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สั่งให้สอดแนมญาติของลูกเรือที่เสียชีวิตนี้   —————————————————————————————————- ที่มา : AFP cover by Linetoday      / วันที่เผยแพร่ 30…

ประธานาธิบดี “มาครง” โดนอีกแล้ว หนุ่มฝรั่งเศสปาไข่ต้มใส่ (คลิป)

Loading

  3 เดือนก่อนโดนตบหน้า มาคราวนี้ “มาครง” โดนมือดีปาไข่ต้มใส่ ระหว่างทักทายประชาชนในงานแสดงสินค้า ยังไม่รู้ว่าอะไรคือมูลเหตุจูงใจ เกิดเหตุไม่คาดฝัน ขณะประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครงแห่งฝรั่งเศส เดินทางเข้าร่วมงานแสดงสินค้าโรงแรมและธุรกิจอาหาร ที่เมืองลิยง ทางตอนใต้ เช้าวันที่ 27 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น โดยในช่วงที่เขากำลังจับมือและทักทายประชาชนตามธรรมเนียมภายในลานจัดงาน ผู้เข้าร่วมงานรายหนึ่งปาวัตถุทรงกลมใส่ประธานาธิบดีโดนที่หัวไหล่ซ้าย มาครงที่สวมหน้ากากอนามัยหันมองไปทางที่วัตถุปริศนาพุ่งมาใส่ ก่อนที่บอดี้การ์ดเข้าอารักขาอย่างรวดเร็ว ต่อมา ทีมรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดี ได้เข้ารวบตัวชายหนุ่มไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อยืดสีดำที่เชื่อว่าเป็นมือปา และพาตัวออกไป   Au #sirha2021, @EmmanuelMacron victime d'un jet d'oeuf. Le projectile a rebondi sur l'épaule du Président de la République. Le jeune homme a été interpellé par le service d'ordre…

ฮือฮา! ค่าตำรวจลับสหรัฐฯ อารักขา “อิวองกา” ตก 140,000 ดอลลาร์/เดือนหลังทรัมป์พ้นตำแหน่ง

Loading

  เอเจนซีส์ – กลุ่มวอชด็อกภาคสังคมอเมริกันชนชี้ คนอเมริกันต้องจ่ายภาษีค่าตำรวจลับอารักขาลูกๆ ที่โตแล้วของอดีตผู้นำสหรัฐฯ 4 คน รวมบุตรสาวคนโต อิวองกา ทรัมป์และครอบครัวที่มีบุตรเขยรวมอยู่ในนั้น หลังทรัมป์ลงจากตำแหน่งในเดือนมกราคมตก 140,000 ดอลลาร์/เดือน แต่คนทั้งหมดถูกตัดการเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) ว่า ตามปกติแล้วครอบครัวหมายเลข 1 ของสมาชิกครอบครัวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะหมดสมัยจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากตำรวจลับสหรัฐฯ อีกต่อไป เว้นแต่ในกรณีของบุตรที่โตแล้วทั้ง 4 คนของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากว่าทรัมป์ในสมัยที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งเขาได้ลงนามคำสั่งขยายการคุ้มครองออกไปอีกครึ่งปีหลังจากที่เขาไม่ได้เป็นประธานาธิบดีอีกต่อไป   อ้างอิงจากกลุ่มพลเมืองเพื่อจริยธรรม (Citizens for Ethics) ซึ่งเป็นกลุ่มตรวจสอบภาคสังคมได้ยื่นขอให้มีการเปิดเผยข้อมูลซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่รวมอยู่กับการอารักขาที่บ้านพักต่างๆ ของทรัมป์ ได้แก่ รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ไบรอาร์คลิฟ (Briarcliff) รัฐนิวยอร์ก ซึ่งหากว่ารวมปัจจัยเหล่านี้เข้าไป ทางกลุ่มชี้ว่าตัวเลขจะสูงกว่านี้มาก ทางกลุ่มชี้ว่าหลังผู้เป็นพ่อต้องลงจากตำแหน่งแต่ลูกๆ ของทรัมป์ยังคงเดินทางไปยังที่ต่างๆ และทำให้ค่าใช้จ่ายของทีมอารักขาทั้งในด้านโรงแรมและการเดินทางพุ่ง โดยค่าใช้จ่ายทางการเดินทางตก 52,296.75 ดอลลาร์ และค่าโรงแรมตกไม่ต่ำกว่า…