นับถอยหลัง 2 ปี ‘Deepfakes’ ป่วนโลกธุรกิจหนักยิ่งกว่าเดิม

Loading

  “การ์ทเนอร์” คาดการณ์ “Deepfakes” ที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เป็นผู้สร้างขึ้นจะทำให้อีกสองปีการใช้โซลูชันการยืนยันและพิสูจน์ตัวตนแบบเดิม ๆ ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป   Keypoints : •  Deepfakes ทำลายระบบการพิสูจน์ตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ •  การโจมตีแบบ Deepfakes ที่สร้างโดยเอไอทำให้โซลูชันการยืนยันและพิสูจน์ตัวตนไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป •  การปลอมแปลงข้อมูลอัตลักษณ์ทางกายภาพเป็นการโจมตีที่พบบ่อยที่สุด การ์ทเนอร์ คาดการณ์ว่าในปี 2569 การโจมตีแบบ Deepfakes ที่สร้างโดยปัญญาประดิษฐ์กับเทคโนโลยีระบุตัวตนบนใบหน้าหรือ Face Biometrics เป็นเหตุให้องค์กรประมาณ 30% มองว่าโซลูชันการยืนยันและพิสูจน์ตัวตนจะไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปหากนำมาใช้แบบเอกเทศ   อากิฟ ข่าน รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ กล่าวว่า ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีจุดเปลี่ยนสำคัญด้านเอไอเกิดขึ้นหลายประการ ซึ่งนั่นทำให้เกิดการสร้างภาพสังเคราะห์ขึ้นได้   ภาพใบหน้าคนจริง ๆ ที่สร้างขึ้นปลอม ๆ เหล่านี้ หรือที่เรียกว่า “Deepfakes” นั้น เปิดโอกาสให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถนำมาใช้เพื่อทำลายระบบการพิสูจน์ทราบตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์หรือทำให้ระบบใช้การได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ   ผลที่ตามมาก็คือ องค์กรต่างๆ…

กสทช. สหรัฐฯ ประกาศห้ามใช้เสียง AI โทรเสนอขายสินค้า ทำแล้วผิดกฎหมายทันที

Loading

กสทช. สหรัฐฯ หรือ FCC ออกประกาศระบุว่าการโทรหาลูกค้าเพื่อเสนอสินค้าหรือบริการ (robocall) โดยใช้เสียงที่สร้างจากปัญญาประดิษฐ์เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในตัวเองทันที

ประเทศสมาชิกอียูไฟเขียว กฎหมายควบคุมเอไอฉบับสำคัญ

Loading

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ก.พ.67) ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) อนุมัติกฎระเบียบสำคัญ เกี่ยวกับการควบคุมปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ภายหลังการเจรจาขั้นสุดท้ายที่เป็นไปอย่างยากลำบาก ในประเด็นกฎหมายควบคุมเอไอชุดแรกของโลก

AI กับการเลือกตั้ง เมื่อนักการเมืองสหรัฐ ใช้ ChatGPT สร้างแชตบอตช่วยหาเสียง

Loading

  คนรุ่นใหม่เตรียมตัวให้พร้อม! นักการเมืองสหรัฐ ใช้ ChatGPT สร้างแชตบอตช่วยหาเสียง กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่เราต้องระวัง เมื่อ AI ถูกใช้กับการเลือกตั้ง   เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้เราได้ทึ่งตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 เมื่อแชตบอต AI อย่าง ChatGPT เปิดตัวให้เราได้ทดลองเล่นและใช้งานกัน โดยมันสามารถรังสรรค์คำตอบที่มากกว่าแค่ตอบตามตำรา แต่มันสามารถคิดเองได้ว่าควรจะตอบอย่างไร แต่มันอาจกลับกลายเป็นปัญหาเมื่อ AI ถูกใช้กับการเลือกตั้ง   สำนักข่าวด้านเทคโนโลยี The Verge ของสหรัฐฯ และ The Washington Post รายงานว่า OpenAI บริษัทผู้พัฒนา ChatGPT ได้สั่งแบนบัญชีของนักพัฒนารายหนึ่งที่เข้ามาใช้ระบบหลังบ้าน (API) ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตัวนี้ ในการทำแชตบอตของนักการเมืองสหรัฐฯ ชื่อ Dean Phillips ในการชิงตำแหน่งการเป็นผู้สมัครประธานธิบดีสหรัฐฯ ซึ่ง โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน   ในรายงานระบุว่า สตาร์ทอัพ…

ภาพปลอม “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ว่อนเน็ต กระตุ้นให้สหรัฐฯ เร่งออก ก.ม.ปราบปราม Deepfake

Loading

  ภาพลามกอนาจารปลอมของนักร้องสาวชื่อดัง “เทย์เลอร์ สวิฟต์” กำลังถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ ทำให้นักร้องสาวคนนี้ตกเป็นเหยื่อคนดังรายล่าสุด และโด่งดังที่สุดของภัยพิบัติโลกไซเบอร์ ที่แพลตฟอร์มเทคโนโลยีและกลุ่มต่อต้านการละเมิดต่างกำลังพยายามดิ้นรนเพื่อหาทางแก้ไข   ทางด้านทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า กรณีการเผยแพร่ภาพที่โจ่งแจ้งทางเพศที่สร้างโดย AI ล่าสุดนี้ “น่าตกใจ” อย่างมาก และยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข   ขณะเดียวกันมีความกังวลเกี่ยวกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คนหลายพันล้านคนจะต้องลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งในปีนี้ทั่วโลก ขณะที่สหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน robocall ปลอมที่อ้างว่ามาจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของ   สหรัฐฯ ได้จุดชนวนให้เกิดการสอบสวน ภาพลามกอนาจารปลอมของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ถูกแชร์อย่างกว้างขวางในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ในขณะที่บริษัท X ได้ลดทีมงานตรวจสอบเนื้อหาลงอย่างมาก นับตั้งแต่นายอีลอน มัสก์ เข้ามารับตำแหน่งแพลตฟอร์มในปี 2022   กรณีที่เกิดขึ้นพบว่ากลุ่มแฟนคลับ “สวิฟตี้” ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้ร่วมมือกันเข้ามาจัดการด้วยตนเอง โดยระดมพลอย่างรวดเร็วและเปิดฉากการตอบโต้บนแพลตฟอร์ม X ด้วยแฮชแท็ก #ProtectTaylorSwift เพื่อเติมเต็มภาพลักษณ์เชิงบวกของป๊อปสตาร์รายนี้ และช่วยกันรายงานบัญชีที่แชร์ภาพ Deepfakes…

นักวิเคราะห์ห่วง ‘ดีพเฟค’ สื่อลวงลึก อาวุธร้ายทำลายงานข่าวสาร

Loading

แฟ้มภาพ – ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีดูวิดีโอปลอมที่สร้างจากปัญญาประดิษฐ์ หรือ ดีพเฟค (Deepfake) ที๋โต๊ะทำงานในกรุงวอชิงตัน 25 ม.ค. 2019 (Alexandra ROBINSON/AFP)   การคืบคลานเข้ามาของเทคโนโลยีดีพเฟค (Deepfake) หรือวิดีโอปลอมที่สร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ ได้กลายเป็นอาวุธใหม่ในการเผยแพร่ข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือน ในยุคแห่งข้อมูลข่าวสารที่แพร่หลายในทุกรูปแบบบนโลกออนไลน์   การเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีภาพของผู้ดำเนินรายการข่าวสหรัฐฯ ที่นำเสนอข่าว แสดงความเห็น หรือสนับสนุนสกุลเงินคริปโต รวมทั้งสินค้าอื่น ๆ อย่างผิด ๆ ได้สร้างความกังวลให้กับเหล่านักวิเคราะห์ในเรื่องนี้   การใช้ ดีพเฟค (deepfake) หรือสื่อลวงลึก เป็นวิดีโอที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการปลอมแปลงตัวตนซึ่งรวมถึงบรรดานักข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวต่าง ๆ ขึ้นมาได้เหมือนจริง ได้กลายเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาใหญ่ ในปี 2024 ที่ประชาชนมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกจะออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกตั้งครั้งสำคัญของพวกเขา   ในช่วงเวลาที่ข้อมูลบิดเบือนมีอย่างแพร่หลายและความเชื่อมั่นในข่าวสารบ้านเมืองปัจจุบันตกต่ำอย่างหนัก ประกอบกับการที่ธุรกิจสื่อรับเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในงานข่าวจริง วิดีโอเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยากสำหรับผู้รับชมในการแยกแยะว่าสิ่งที่เห็นและได้ยินเป็นจริงหรือไม่แค่ไหน   พอล แบร์เร็ตต์ รองผู้อำนวยการ Stern Center for Business and…