ร.ศ. 112 ฝรั่งเศสมีสายลับอยู่ในป้อมพระจุลฯ หรืออย่างไร ได้แปลนป้อมไทยจากไหน?

Loading

เรือรบฝรั่งเศสสามลำจอดทอดสมอคุมเชิงอยู่ด้านหน้าสถานทูตฝรั่งเศส ในวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112   จากการศึกษาตามบันทึกและปูมเรือของฝรั่งเศสในช่วงก่อนการเข้าตีฝ่าปากน้ำเจ้าพระยานั้น จะพบข้อมูลที่เรือลูแตงของฝรั่งเศสได้พยายามมาจอดบริเวณปากน้ำ หลังจากเข้ามาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม และไม่ยอมถอนออกไปตามกำหนดวันที่ 21 มีนาคม รวมทั้งยังแอบสังเกตการณ์ในวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ทางชลมารค และขึ้นตรวจการก่อสร้างที่ ป้อมพระจุลฯ ในวันที่ 10 เมษายน ร.ศ. 112 อย่างใกล้ชิด และยังติดตามดูการเสด็จตรวจป้อมผีเสื้อสมุทรด้วย   ที่น่าสังเกตก็คือ ในเที่ยวเรือนี้ เรือลูแตงได้นำผู้บัญชาการสถานีทหารเรือไซ่ง่อนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วย จนหลังการเสด็จตรวจป้อมเมื่อวันที่ 10 เมษายน แล้ว วันที่ 11 เมษายน เรือโคแมตที่ฝ่ายสยามไม่ยอมให้ขึ้นไปจอดที่กรุงเทพฯ (เพราะเรือลูแตงยังไม่ถอนออกไป) จึงได้จอดรออยู่ที่สมุทรปราการ และรับ ผบ. สถานีทหารเรือไซ่ง่อนถ่ายลำจากเรือลูแตงกลับไปด้วย ซึ่งน่าจะเป็นที่เข้าใจว่านายทหารระดับบัญชาการท่านนี้ได้มาหาข่าวและเตรียมการที่บุกไว้ก่อนที่จะกลับไปกำหนดแผนบุกในขั้นรายละเอียด (มีการตรวจดูพื้นที่เกาะเสม็ดและบริเวณใกล้เคียง ในระหว่างการเดินเรือช่วงเดือนมีนาคม – กรกฎาคม พ.ศ. 2436 ด้วย)   การพยายามบันทึกที่หมายทางเรือ และตำแหน่งเสาธงของป้อมผีเสื้อสมุทร ที่ได้มีการก่อสร้างปรับปรุงเพื่อเตรียมการติดตั้งปืนเสือหมอบแบบเดียวกับของป้อมพระจุลฯ ในขณะวิ่งเรือผ่าน…

ช็อก!! ส่ง “นิ้วมือมนุษย์” ไปให้ “มาครง” ถึงทำเนียบทางไปรษณีย์ มหาดไทยน้ำหอมส่งตำรวจกว่า “4 หมื่น” รักษาความปลอดภัยวันชาติฝรั่งเศสอารักขา “โมดี” แขกคนสำคัญ

Loading

  เอเจนซีส์ – ท่ามกลางความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมากถึง 45,000 นาย เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดในวันชาติฝรั่งเศสที่ 14 ก.ค. หรือวันนี้ (14 ก.ค.) ซึ่งมีนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียเป็นแขกคนสำคัญ ซึ่งจะมีการหารือที่ทำเนียบก่อนดินเนอร์ทางการาสุดหรูภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หลังนิวเดลียอมทุ่มอนุมัติซื้อเครื่องบินรบราฟาเอล 26 ลำ และเรือดำน้ำฝรั่งเศสอีก 3 ลำ แต่ทว่าในวันจันทร์ (10 ก.ค.) ต้นสัปดาห์ กลับพบว่าผู้นำฝรั่งเศสได้รับพัสดุนิ้วมือมนุษย์ที่ถูกตัดส่งมาให้ที่ทำเนียบทางไปรษณีย์โดยที่ไม่ทราบเหตุผล   เดอะมิร์เรอร์ของอังกฤษ รายงานวานนี้ (13 ก.ค.) ว่า มีการส่งนิ้วมือที่ถูกตัดออกจากคนที่ยังมีชีวิตส่งผ่านไปรษณีย์ไปถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ถึงทำเนียบปาแลเดอเลลีเซ ในวันจันทร์ (10) สร้างความแตกตื่นไปทั่ว   และพบว่าตำรวจแดนน้ำหอมได้นำนิ้วมือมนุษย์ที่ถูกตัดแช่เก็บไว้ในตู้เย็นเก็บของว่างสำหรับตำรวจเพื่อทำให้นิ้วมือไม่เน่าและสามารถเป็นหลักฐานในการสอบสวนได้ในภายหลัง   แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบฝรั่งเศสเปิดเผยว่า “นิ้วมือนี้ในตอนแรกถูกเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นตำรวจที่ใช้เก็บอาหารว่างของพวกเขา” และเสริมว่า “เพื่อทำให้มั่นใจว่าจะเป็นการรักษาและสามารถทำการวิจัยได้โดยไว”   ทั้งนี้ ในการตรวจสอบที่ผลเปิดเผยภายหลังสามารถระบุว่านิ้วมือที่ถูกตัดเป็นของ “คนที่ยังมีชีวิต” ที่ได้ถูกติดต่อและได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเต็มที่ อ้างอิงจากแหล่งข่าว   แต่เป็นที่น่าฉงนว่าในแพกเกจที่ส่งนิ้วมือมาให้มาครงนี้กลับไม่มีสารหรือจดหมายใด…

การเผชิญหน้า ‘จลาจล-ประท้วง-เสรีภาพ’ ของผู้นำหนุ่ม ในยุค ‘วิกฤติเศรษฐกิจ-โซเชียลกำหนดวิธีคิด’ ให้ผู้คนลุกฮือ

Loading

  ไม่นานมานี้ YouTube ช่อง ‘Kim Property Live’ ได้โพสต์คลิป เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ การประท้วง การจลาจล ในประเทศฝรั่งเศส โดยได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า …   วันนี้จะมาชวนคุยเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส การประท้วง การจลาจล การต่อต้านและความไม่สงบ ภายใต้บริบทของประเทศคิดที่มีความหลากหลาย และสร้างสรรค์ รวมทั้งเป็นเจ้าของแบรนด์หรู ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งวันนี้ต้องเผชิญความท้าทายจากอำนาจของประชาชนภายใต้อิทธิพลสื่อที่ผู้นำหนุ่มแห่งฝรั่งเศสกำลังปวดหัว   โดยเราต้องทำความเข้าใจ เกี่ยวกับรากเหง้าและวัฒนธรรมการประท้วงของฝรั่งเศสกันก่อน ประเทศของเขามีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปีค.ศ 1789 ซึ่งเป็นการปฏิวัติฝรั่งเศส และนี่ก็คือเอกลักษณ์ของทางประเทศฝรั่งเศส ที่เกี่ยวกับ เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ประเทศฝรั่งเศสมีการนัดกันหยุดงานและประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพลักษณ์ของประชากรในฝรั่งเศสเป็นคนที่ดูเข้มแข็ง และกล้าท้าทายต่ออำนาจ คนในฝรั่งเศสนั้นมีความรู้ มีการศึกษาค่อนข้างดี และก็ยังมีส่วนร่วมทางการเมืองที่เยอะอีกด้วย อีกทั้งทางด้านสหภาพแรงงานก็เข้มแข็ง ทำให้เกิดการประท้วง ทั้งในฝั่งของคนทำงานและบริษัท จึงทำให้เราเห็นภาพที่วุ่นวาย   อย่างไรก็ตาม ประเทศฝรั่งเศสนั้น ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว มีสินค้าแบรนด์ดัง แบรนด์หรูที่โด่งดังไปทั่วโลกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น หลุยส์วิตตอง…

สกัดป่วนเมือง! ฝรั่งเศสสั่งห้ามขายดอกไม้ไฟ ก่อนหยุดวันชาติ 14 ก.ค.

Loading

  ฝรั่งเศสประกาศห้ามการขาย ครอบครอง และขนส่งดอกไม้ไฟในช่วงสุดสัปดาห์ที่เป็นวันหยุดฉลองวันชาติฝรั่งเศส 14 กรกฎาคม หลังเกิดเหตุจลาจลที่ปะทุขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา จากกรณีที่ตำรวจสังหารวัยรุ่นผิวสีที่ขับรถฝ่าด่านตรวจ   รัฐบาลฝรั่งเศสระบุว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวมีขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะมีการก่อความไม่สงบที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม ในเทศกาลวันที่ 14 กรกฎาคมนี้   “การขาย การครอบครอง การขนส่ง และการใช้สิ่งของที่เกี่ยวกับดอกไม้ไฟและดอกไม้ไฟจะถูกห้ามจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคมนี้” คำสั่งของรัฐบาลดังกล่าวระบุ   อย่างไรก็ดี คำสั่งห้ามดังกล่าวไม่รวมถึงผู้ที่มีอาชีพโดยตรง หรือเทศบาลที่จัดงานจุดพลุดอกไม้ไฟตามเทศกาลในการเฉลิมฉลองวันบาสตีย์แต่อย่างใด   เอลิซาเบธ บอร์น นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการก่อจราจลที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะใช้วิธีอย่างเต็มรูปแบบเพื่อปกป้องชาวฝรั่งเศสในช่วงวันหยุดนี้   ทั้งนี้ มีประชาชนมากกว่า 3,700 คน ถูกตำรวจควบคุมตัวหลังเข้าไปเกี่ยวพันกับการประท้วงหลังการเสียชีวิตของวัยรุ่นชายที่มีพื้นเพมาจากแอฟริกาเหนือ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้เยาว์ถึง 1,160 คน         —————————————————————————————————————————————— ที่มา :             …

ฝรั่งเศสผ่านร่างกฎหมาย ให้ตำรวจสอดแนมผู้ต้องสงสัยผ่านกล้อง, ไมค์ในโทรศัพท์และ GPS ได้

Loading

    Le Monde สื่อฝรั่งเศสรายงานว่า ฝ่ายนิติบัญญัติฝรั่งเศส ผ่านร่างกฎหมายที่อนุญาตให้ตำรวจสอดแนมผู้ต้องสงสัยในอาชญากรรมร้ายแรง ผ่านกล้อง ไมโครโฟน และตำแหน่ง GPS บนโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (แต่ยังไม่แน่ชัดว่าวิธีการไหน รูปแบบไหน)   อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าตำรวจจะสามารถใช้อำนาจนี้ได้ตามชอบ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้พิพากษาก่อน รวมถึงกฎหมายก็ห้ามบังคับใช้กับอาชีพนักข่าว, ทนาย และอาชีพอื่นๆ ที่มีความละเอียดอ่อน โดยจุดประสงค์ของกฎหมาย ตั้งใจจะจำกัดการใช้งานเฉพาะคดีที่ร้ายแรงเท่านั้น รวมถึงการเข้าถึงตำแหน่ง จะทำได้เฉพาะกรณีที่ความผิด มีโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไปเท่านั้น   กฎหมายนี้สร้างความกังวลให้กับ La Quadrature du Net กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิบนโลกออนไลน์ ซึ่งให้เหตุผลว่า กฎหมายนี้ขาดความชัดเจนว่าลักษณะใดเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง ซึ่งตำรวจอาจกำหนดเป้าหมายผู้กระทำผิดเป็นกลุ่มนักกิจกรรมและเคลื่อนไหวด้านต่าง ๆ และกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาชญากรรม   กลุ่มยังตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจอาจนำกฎหมายนี้ไปใช้กับอาชญากรรมที่มีความรุนแรงน้อยกว่า รวมถึงอาจใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ใช้สอดแนม แทนที่จะหาทางแก้ไข   ขณะที่ Éric Dupond-Moretti รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม…

‘มาครง’ โทษโซเชียลปลุกกระแสจลาจลในฝรั่งเศส เตรียมใช้อำนาจรัฐ ‘จัดการคอนเทนต์’ ปลุกปั่น!!

Loading

  (3 ก.ค. 66) เอมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสเดือดจัด ออกมากล่าวโทษสื่อโซเชียล อาทิ Tiktok , Snapchat และอื่นๆ เป็นตัวการสุมเชื้อไฟความรุนแรงในฝรั่งเศสที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ที่มีต้นเหตุจากคดีตำรวจฝรั่งเศสยิงนาย นาเฮล เอ็ม วัยรุ่นชายเชื้อสายแอลจีเรียวัย 17 ปีเสียชีวิต   โดยคลิปข่าว และการปลุกระดมจากคดีของ นาเฮล ถูกส่งต่อจนกลายเป็นไวรัลทั่วโลกโซเชียลในฝรั่งเศส ก่อให้เกิดความไม่พอใจในชุมชนคนกลุ่มน้อย และกลุ่มผู้อพยพ ลุกขึ้นมาประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่นาเฮล จนกลายเป็นจลาจลวุ่นวายไปทั่วประเทศ และทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘พฤติกรรมเลียนแบบ’ ชักชวนกันออกมาป่วนตามกระแสจากโซเชียล รวมถึงเกมออนไลน์ที่แฝงความรุนแรง เป็นแรงเสริมให้เกิดพฤติกรรมป่วนบ้าน ป่วนเมืองในกลุ่มเยาวชน วัยรุ่น   มาครง ถึงขั้นใช้คำว่า เด็กๆ พวกนี้ โดน “ล้างสมอง” จากการเสพคอนเทนต์ หรือ เกมออนไลน์ ที่ยุยงให้เกิดความรุนแรงจนกลายเป็นปัญหาสังคม เห็นทีต้องเร่งประสานงานกับเหล่าบรรดาสื่อโซเชียลให้กำจัด “เนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อน” และขอให้ระบุตัวตนของผู้ใช้ที่เผยแพร่ ปลุกระดม ให้เกิดความรุนแรงในสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ ซึ่งผู้นำฝรั่งเศสไม่ได้เอ่ยออกมาตรงๆ ว่า “เนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อน”…