สหรัฐลงทุน 2,300 ล้านบาท เสริมสิ่งปลูกสร้างในฐานทัพฟิลิปปินส์

Loading

  รัฐบาลมะนิลาเผยว่า รัฐบาลวอชิงตันเตรียมลงทุนประมาณ 2,300 ล้านบาท เพื่อการก่อสร้างทางทหาร ภายในฐานทัพที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือทวิภาคี   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ ว่า รัฐบาลวอชิงตันเตรียมจัดสรรงบประมาณ 66.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2,370.89 ล้านบาท ) เพื่อก่อสร้างศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีและโกดังเพื่อการเก็บยุทโธปกรณ์ ภายในฐานทัพ 3 จากทั้งหมด 5 แห่ง ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงส่งเสริมความร่วมมือด้านกลาโหม ( อีดีซีเอ ) ซึ่งทั้งสองประเทศลงนามร่วมกัน เมื่อปี 2557   ทั้งนี้ โครงการทั้งหมดจะทยอยดำเนินการตั้งแต่ปีหน้า ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กองทัพสหรัฐเสนอยกระดับความร่วมมือ ในการสร้างฐานทัพเพิ่มอีก 5 แห่งในฟิลิปปินส์ ภายใต้ข้อตกลงอีดีซีเอ อย่างไรก็ตาม แผนการทั้งหมดนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ อนึ่ง อีดีซีเอเป็นข้อตกลงความร่วมมือทางทหารระหว่างฟิลิปปินส์กับสหรัฐ นอกเหนือจากข้อตกลงเยี่ยมเยืยนทางทหาร ( วีเอฟเอ…

ฟิลิปปินส์เริ่มบังคับใช้กฎหมาย “ลงทะเบียนซิมการ์ดมือถือ”

Loading

  ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ลงนามในกฎหมาย ว่าด้วยการที่ประชาชนต้องยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการ ว่าเป็นเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ว่าหมายเลขใดก็ตาม   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ลงนามรับรองกฎหมาย ว่าด้วยการลงทะเบียนและการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยเลขบัตรประชาชน และข้อมูลสำคัญในเบื้องต้นให้ครบถ้วน เพื่อปิดโอกาสของมิจฉาชีพ ในการใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนเพื่อการก่ออาชญากรรม   ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศซึ่งมีอัตราการเข้าถึงโทรศัพท์มือถือสูงสุดในทวีปเอเชีย คือ 61% จากประชากรประมาณ 110 ล้านคน และยังอยู่ในกลุ่มหัวตารางของการจัดอันดับโดยบริษัทวิจัยนานาชาติหลายแห่ง เกี่ยวกับการใช้เวลากับสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียต่อวันอีกด้วย   LIVE: President Ferdinand R. Marcos Jr. signs the Subscriber Identity Module (SIM) Card Registration Act | October 10, 2022https://t.co/ECSbqXLb4Q — Office of the…

นักโทษมุสลิมโยงไอเอสก่อเหตุในเรือนจำ จับอดีต ส.ว.ฟิลิปปินส์เป็นตัวประกัน

Loading

AP   นักโทษมุสลิมโยงไอเอสก่อเหตุในเรือนจำ จับอดีต ส.ว.ฟิลิปปินส์เป็นตัวประกัน   นักโทษ 3 รายที่เป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต หลังก่อเหตุวุ่นวายในเรือนจำในวันที่ 9 ตุลาคม ด้วยการแทงตำรวจและจับอดีตวุฒิสมาชิกฝ่ายค้านที่ต้องโทษจำคุกเป็นตัวประกันชั่วคราว   พล.ต.อ.โรดอฟโฟ อาซูริน ผู้บัญชาการตำรวจฟิลิปปินส์ระบุว่า ไลลา เดอ ลิมา อดีตวุฒิสมาชิก ไม่ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายแล้ว หลังถูกนักโทษที่พยายามก่อเหตุในเรือนจำจับเป็นตัวประกันในเรือนจำกลางกรุงมะนิลา   (แฟ้มภาพ) ไลลา เดอ ลิมา อดีตวุฒิสมาชิกฟิลิปปินส์ / AP   ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องขัง 1 รายได้แทงตำรวจซึ่งนำส่งอาหารเช้าให้ในช่วงรุ่งเช้าบริเวณพื้นที่เปิด ซึ่งผู้ต้องขังสามารถใช้เป็นที่ออกกำลังกลางแจ้งได้ ทำให้ตำรวจที่อยู่ในหอรักษาการได้ยิงเตือน ตามด้วยการยิงสังหารนักโทษ 2 ราย ซึ่งรวมถึงนายอิดัง ซูซูกัน ผู้บัญชาการกลุ่มอาบูไซยาฟ เมื่อพวกเขาปฏิเสธที่จะยุติความวุ่นวาย   จากนั้นผู้ต้องขังคนที่ 3 ได้วิ่งไปยังห้องขังของเดอ ลิมา ก่อนที่จะจับเธอเป็นตัวประกันชั่วคราว แต่คนร้ายก็ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตเช่นกัน โดยพล.ต.อ.อาซูรินย้ำว่า…

เลือกตั้งฟิลิปปินส์เดือด!กราดยิง-ขว้างระเบิด ใส่หน่วยลต.บนเกาะมินดาเนาทางภาคใต้

Loading

    ฟิลิปปินส์จัดให้มีการเลือกทั่วไปในวันนี้ ชาวฟิลิปปินส์ กว่า 65.8 ล้านคน ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามตามศูนย์เลือกตั้ง 37,211 แห่งทั่วประเทศ   พ.ต.ต.โรลดัน กุนตอง โฆษกสำนักงานตำรวจจังหวัดมากินดาเนา บนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ไม่นานหลังเปิดหน่วยเลือกตั้งที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเทศบาลเมืองบูลูอัน เมื่อเวลา 06.00 น.ของวันนี้ ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกราดยิงหน่วยเลือกตั้ง มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้งเสียชีวิต 3 รายและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 1 คน บาดเจ็บ ส่วนคนร้ายก่อเหตุแล้วหลบหนี ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างติดตามจับกุม   ด้านนายอิบราฮิม มันกูดาดาตู อดีตนายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองบูลูอัน ระบุว่า ช่วงเกิดเหตุประชาชนในหน่วยเลือกตั้งตื่นตระหนก วิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางเพื่อหาที่หลบ   ส่วนเมื่อค่ำวานนี้ คนร้ายไม่ทราบฝ่ายขว้างระเบิด 5 ลูก เข้าไปด้านนอกของหน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งในเทศบาลเมืองดาตู อุนเซย์ ทั่วไปแรงระเบิดทำให้มีคนบาดเจ็บ 9 คน ไม่กี่นาทีต่อมา คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่ง ขว้างระเบิดหนึ่งลูก เข้าไปในหน่วยเลือกตั้งอีกแห่งหนึ่งในเทศบาลเมืองชาริฟ อากวัก ซึ่งอยู่ใกล้กัน แต่ไม่มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งสองเมืองอยู่ในเขตปกครองของจังหวัดมากินดาเนาเช่นเดียวกัน…

ผู้นำฟิลิปปินส์วีโต้ร่างกฎหมาย “ยืนยันตัวตนบนโซเชียลมีเดีย”

Loading

  ผู้นำฟิลิปปินส์ยังไม่ลงนามรับรอง ร่างกฎหมายเกี่ยวกับ การที่ประชาชน “ต้องยืนยันตัวตน” บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับ การละเมิดความเป็นส่วนตัว   สำนักข่าวต่างประเทศรายนงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ว่าประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ใช้อำนาจวีโต้ ร่างกฎหมายซึ่งสภาคองเกรสของฟิลิปปินส์ มีมติเห็นชอบเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ว่าด้วยการที่ประชาชนต้อง “ยืนยันตัวตนทางกฎหมาย” ไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุลและหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อสมัครใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ พร้อมทั้งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้ข้อมูลดังกล่าวในด้านความมั่นคง   ทั้งนี้ ทำเนียบมาลากันยังออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับเหตุผลที่ผู้นำฟิลิปปินส์คัดค้านร่างกฎหมายนี้ ที่ในฟิลิปปินส์เรียกว่า “กฎหมายซิมการ์ด” ว่ายังขาดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับอีกหลายประเด็นปลีกย่อย ซึ่งเรื่องนี้อาจกลายเป็น “ช่องว่างอันตราย” ให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นฝ่ายก่อการล่วงละเมิด และการสอดแนมของเจ้าหน้าที่อาจสุ่มเสี่ยง เข้าข่ายเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญเสียเองด้วย   Senate President @sotto_tito took to Twitter on Friday to express his displeasure of President Rodrigo…

ฟิลิปปินส์ผ่าน ก.ม. บังคับให้ยืนยันตัวตนบนโซเชียลมีเดีย

Loading

  รัฐสภาฟิลิปปินส์ ผ่านกฎหมายฉบับใหม่ ส่งผลให้ประชาชนต้องยืนยันตัวตนตามความเป็นจริง ในการสมัครใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ หวังลดปัญหาข่าวปลอม และการฉ้อโกง   รัฐสภาฟิลิปปินส์ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ ผ่านกฎหมายฉบับใหม่ ว่าด้วยการให้ประชาชนทุกคนต้องยืนยันตัวตนทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุลและหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อสมัครใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ พร้อมทั้งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้ข้อมูลดังกล่าว เพื่อการสอบสวนแกะรอยได้ หลังพบปัญหาการก่อกวนทางออนไลน์ การให้ข่าวเท็จ และมีการใช้ตัวตนปลอมในการสร้างแอ็กเคาต์ในโลกโซเชียลจำนวนมาก   แฟรงคลิน ดริลอน หนึ่งในวุฒิสมาชิกที่ผลักดันกฎหมายฉบับนี้ระบุว่า เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องแก้ปัญหาการไม่เปิดเผยตัวตนในโลกออนไลน์ ที่จะนำไปสู่การโจมตี มุ่งร้ายผู้บริสุทธิ์ในโลกโซเชียลมีเดีย โดยกฎหมายฉบับนี้ยังคงต้องรอให้ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตร์แต ลงนาม ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ต่อไป   ทั้งนี้ แม้กฎหมายฉบับนี้จะมีการระบุบทลงโทษสถานหนัก ทั้งการจำคุกและการปรับเงินจากการให้ข้อมูลเท็จ แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัดว่า บรรดาผู้ให้บริการสื่อโซเชียลมีเดียจะมีวิธีตรวจสอบได้อย่างไร ว่าข้อมูลที่มีการลงทะเบียนเป็นความจริง รวมถึงจะตรวจสอบข้อมูลของบัญชีที่ลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้แล้วอย่างไร ขณะที่เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นอย่างเป็นทางการต่อประเด็นนี้ นอกจากนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวยังรวมครอบคลุมไปถึงการลงทะเบียนใช้งานซิมโทรศัพท์มือถือกับผู้ให้บริการตามความเป็นจริงอีกด้วย   ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศในทวีปเอเชีย ที่มีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนมากที่สุดที่ 79 ล้านคน จากจำนวนประชากรประมาณ 110 ล้านคน และยังถูกจัดอยู่ในประเทศอันดับต้นๆ ที่ประชากรใช้เวลาในโลกโซเชียลมีเดียต่อวันสูงสุดด้วย…