เด็กๆ ชายแดนใต้ “ชูหนึ่งนิ้ว” ภัยความมั่นคง?

Loading

    มุมมองที่แตกต่างเกี่ยวกับ “อัตลักษณ์มลายู” ระหว่างพี่น้องมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับฝ่ายความมั่นคงของรัฐ ถือเป็นปัญหามาโดยตลอด   และกลายเป็น “ความไม่เข้าใจ” จนบานปลายเป็นชนวนของความขัดแย้งแตกแยกในดินแดนปลายด้ามขวาน ทั้งยังเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของ “ไฟใต้” ที่คุกโชนมานานกว่า 100 ปี โดยเฉพาะใน 2 ทศวรรษมานี้ที่เต็มไปด้วยเหตุรุนแรงรายวัน   “อัตลักษณ์มลายู” ที่ชาวบ้าน ประชาชนคนในพื้นที่มองเป็นเรื่องปกติ ก็เช่น การแต่งกายแบบมลายู, ภาษา ซึ่งคนพื้นที่ใช้ “ภาษามลายูถิ่น” ในการสื่อสาร ตลอดจนประเพณีต่างๆ อย่างการสร้างประตูเมือง และการทำสัญลักษณ์มือ หรือสัญลักษณ์อื่นๆ   เรื่องแบบนี้คนในพื้นที่มองว่า “ปกติ” แต่คนต่างถิ่น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐอาจมองเป็น “ภัยความมั่นคง” หรือมีความพยายามปลุกกระแส “แบ่งแยกดินแดน” ได้เหมือนกัน นี่คือมุมมองที่แตกต่าง จนกลายเป็น “ความไม่เข้าใจ”   อย่างล่าสุด มีรายงานแจ้งเตือนของ “หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่” โดยอ้างอิงถึงกิจกรรมขบวนพาเหรดการแข่งขันกีฬาสีของ “ตาดีกา” แห่งหนึ่งใน อ.จะแนะ จ.นราธิวาส  …

หอการค้าสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีมาตรการควบคุม AI

Loading

  หอการค้าสหรัฐอเมริกา (USCC) เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการควบคุมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือกลายเป็นภัยความมั่นคง   USCC ชี้ว่านักกำหนดนโยบายและผู้นำด้านธุรกิจจะต้องเร่งกำหนดแนวทางกำกับดูแลด้านความเสี่ยง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าปัญญาประดิษฐ์จะถูกใช้อย่างมีความรับผิดชอบ   ทาง USCC ยังประเมินว่าปัญญาประดิษฐ์จะเพิ่มมูลค่าการเติบทางเศรษฐกิจโลกสูงถึง 13 ล้านล้านเหรียญ (ราว 455 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2030 และเห็นด้วยว่าที่ผ่านมาเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยเสริมศักยภาพทางการแพทย์และการป้องกันไฟป่าของรัฐ   โดยมีการประเมินว่า หน่วยงานรัฐบาลและองค์กรธุรกิจเกือบทุกแห่งจะนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ภายใน 20 ปีต่อจากนี้   ในทางกลับกัน ก็จำเป็นต้องมีความพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากปัญญาประดิษฐ์ในอนาคตด้วย ซึ่งก็ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังและเหมาะสม มาตรการที่จะออกมาต้องมีความยืดหยุ่นเพียงพอ     ที่มา Reuters         ————————————————————————————————————————- ที่มา :                   แบไต๋           …

แคนาดาเผยพบทุ่นสังเกตการณ์ หลักฐานบ่งชี้จีน “พยายามสอดแนม” พื้นที่อาร์กติก

Loading

  แคนาดาเผยพบทุ่นสังเกตการณ์ หลักฐานบ่งชี้จีน “พยายามสอดแนม” ภูมิภาคอาร์กติก   แคนาดาเผยพบทุ่นสังเกตการณ์ – วันที่ 23 ก.พ. บีบีซี รายงานว่า กองทัพแคนาดา แถลงพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าทางการจีนพยายามสอดแนม ภูมิภาคอาร์กติก หรือบริเวณขั้วโลกเหนือ ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่บางส่วนของประเทศต่าง ๆ ครอบคลุมถึงแคนาดา กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และสหรัฐอเมริกา   หลังทีมเจ้าหน้าที่ในภารกิจ “โอเปอเรชั่นลิมปิด” ภารกิจสืบภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศด้วยการตรวจตราทางอากาศ ทางบก และทางทะเลของกองทัพแคนาดา ค้นพบทุ่นสังเกตการณ์ช่วงปลายปีก่อน     นายดาเนียล เลอ บูติลิเยร์ โฆษกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่ากองทัพตระหนักดีถึงความพยายามของจีนในการสอดแนมน่านฟ้าและเส้นทางการเดินเรือของแคนาดา จีนทำสิ่งนี้โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อจุดประสงค์ 2 ด้าน หมายความว่าอุปกรณ์ที่จีนใช้สอดแนมสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งเพื่อการวิจัยและการทหาร   พร้อมเสริมว่ากองทัพได้ยับยั้งการเข้าสอดแนมในแคนาดาตั้งแต่ปี 2565 แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจีนพยายามล้วงข้อมูลลับด้วยวิธีใด ทั้งนี้ ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาจีนส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าไปในพื้นที่ขั้วโลกเหนือมากถึง 33 ครั้ง หนำซ้ำยังส่งเรือตัดน้ำแข็งและเรือขนาดใหญ่…

ออสเตรเลียสั่งถอดกล้องวงจรปิดจีนทั้งหมด-หวั่นด้านความมั่นคงประเทศ

Loading

    ออสเตรเลียเตรียมรื้อกล้องวงจรปิดที่ผลิตในจีนออกจากสถานที่ป้องกัน เพราะเกรงว่าอาจส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ   บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมถอดกล้องวงจรปิดจากจีน หลังจากการตรวจสอบสถานที่ของรัฐบาลในประเทศ พบว่า กล้องวงจรปิดและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยกว่า 900 ตัวที่ติดตั้งอยู่บนสถานที่ของรัฐบาลมากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะแผนกต่างประเทศและแผนกอัยการสูงสุดนั้นผลิตโดยบริษัทฮิควิชั่น (Hikvision) และบริษัทต้าหัว (Dahua) บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยจากจีน ตามสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าวเมื่อปีที่ผ่านมา อ้างว่ากลัวรัฐบาลจีนอาจเข้าถึงข้อมูลสำคัญผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ได้     ด้านนายริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกลาโหมของออสเตรเลีย ระบุว่า รัฐบาลจะถอดกล้องวงจรปิดผลิตในจีนที่ติดตั้งอยู่ตามอาคารต่าง ๆ ในสังกัดของกระทรวงออกทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันทางรัฐบาลจะพิจารณาว่าจะมีการถอดกล้องวงจรปิดจากจีนที่ติดตั้งอยู่ในอาคารอื่น ๆ อีกหรือไม่ต่อไป   ด้านบริษัทฮิควิชั่น ออกมาแย้งว่า ข้อกล่าวหาเหล่านั้นไม่มีข้อมูลที่เป็นความจริง บริษัทไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลวิดีโอของผู้ใช้ปลายทางได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งต่อข้อมูลไปยังจีนอย่างแน่นอน ส่วนบริษัทต้าหัว ยังไม่ได้เคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้   ขณะที่นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย กล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่าการถอดกล้องออกจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน เราปฏิบัติตามผลประโยชน์ของประเทศอย่างโปร่งใส   ทั้งนี้ บริษัททั้ง 2 แห่งของจีนถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ…

เดินตามสหรัฐฯ! ส.ส.อังกฤษแนะประชาชนเลิกเล่น TikTok อ้างเป็นภัยความมั่นคง

Loading

ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ แนะนำประชาชนเมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.พ.) อย่าใช้แอปพลิเคชันวิดีโอสั้น TikTok สื่อสังคมออนไลน์ของจีน สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล ความเคลื่อนไหวนี้ มีขึ้นหลังจากปลายเดือนที่แล้ว จอห์น ฮอว์ลีย์ วุฒิสภาสหรัฐฯ จากรีพับลิกัน เปิดเผยว่า เขาจะนำเสนอร่างกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งจะแบนแอปพลิเคชันวิดีโอสั้น TikTok จากการใช้งานในสหรัฐฯ กล่าวหาเป็นภัยความมั่นคงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็ก ๆ อลิเซีย เคียร์นส์ รองหัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสกายนิวส์ ว่า “มีเหตุผลหนึ่งว่าทำไมจะต้องมีแอปนี้ ข้อมูลของเรามีช่องโหว่ และจีนกำลังสร้างรัฐเผด็จการเทคโนโลยี ฉวยประโยชน์จากข้อมูลของเรา ดังนั้น เราจำเป็นต้องจริงจังเกี่ยวกับการปกป้องตัวเราเองให้มากกว่าที่เป็นอยู่อย่างมาก” ในการกล่าวอ้างถึงความจำเป็นที่ต้องจริงจังในเรื่องนี้ เคียร์นส์ พูดพาดพิงเหตุการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่สหรัฐฯ ยิงร่วงบอลลูนจีนลูกหนึ่งนอกชายฝั่งแอตแลนติก ในขณะที่จีนปฏิเสธคำกล่าวหาของอเมริกาที่ระบุว่ามันถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์จารกรรม เคียร์นส์ บอกว่าความกังวลใหญ่หลวงที่สุดคือ “การเจาะข้อมูล” ผ่านบริษัทจีน และแนวทางที่ปักกิ่งจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ข่มขู่ “บุคคลที่ต้องการลี้ภัยในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก” เมื่อถูกถามว่าประชาชนควรลบ TikTok ออกจากโทรศัพท์มือถือของตนเองหรือไม่ เธอตอบว่า “ไม่มีข้อสงสัยเลย มันไม่คุ้มค่ากับการมีช่องโหว่บนโทรศัพท์มือถือของคุณ” ทั้งนี้ เคียร์นส์…

สภาสูงสหรัฐฯ โหวตแบน TikTok ห้ามใช้ภายในองค์กรรัฐ หลังหลายรัฐในอเมริกาเริ่มห้ามใช้แอปโซเชียลชื่อดังจากจีน

Loading

  เอเจนซีส์ – วุฒิสภาสหรัฐฯ ค่ำวานนี้ (14 ธ.ค.) ผ่านมติห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ใช้แอป TikTok สำหรับอุปกรณ์ของรัฐ หวั่นเป็นภัยความมั่นคงถูกจารกรรมรัฐจากปักกิ่ง หลัง FBI และหน่วยข่าวกรองลับสหรัฐฯ ออกมาเตือนอย่างยาวนานก่อนหน้า เกิดขึ้นไม่นานหลังมีไม่ต่ำกว่า 2 รัฐในอเมริกาสั่งแบน TikTok   เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (15 ธ.ค.) ว่า ร่างกฎหมายแบน TikTok ที่ถูกเสนอโดย 4 ส.ว.ชื่อดังจากพรรครีพับลิกัน ได้แก่ ส.ว.จอช ฮอว์ลีย์ (Josh Hawley) จากรัฐมิสซูรี ส.ว.ทอม คอตตอน (Tom Cotton)จากรัฐอาร์คันซอ ริค สกอตต์( Rick Scott) จากรัฐฟลอริดา และมาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) จากรัฐฟลอริดา ผ่านสภาสูงสหรัฐฯ ด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์อ้างอิงมติโหวตจากฟ็อกซ์นิวส์ สั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ…