ดูชัดๆ!ขีปนาวุธข้ามทวีปใหม่เกาหลีเหนือ ขนาดเบิ้มกว่ารุ่นก่อนๆ

Loading

กองทัพเกาหลีเหนืออวดฉวมขีปนาวุธข้ามทวีปเคลื่อนที่ใหม่ ระหว่างพิธีสวนสนามเมื่อวันเสาร์ (10 ต.ค.) ซึ่งพวกผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นก่อนๆที่เคยนำมาจัดแสดง ขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) 4 ลูก ถูกบรรทุกมาโดยยานพาหนะปล่อยจรวด 11 เพลา และพวกมันอาจเป็นระบบอาวุธใหม่ที่ทางรัฐบาลเกาหลีเหนือเคยแย้มว่ามีไว้ในครอบครองเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน จรวดเหล่านี้ดูเหมือนกับ Hwasong-15 ขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลหีเหนือที่ทดลอบครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2017 แต่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งในการทดสอบคราวนั้นโหมกระพือความกังวลด้านความปลอดภัย เนื่องจากพวกผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าจากพิสัยทำการตามกล่าวอ้าง ทำให้แผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯอยู่ภายในศักยภาพการโจมตีของมัน เวลานี้เกาหลีเหนือยังไม่ได้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแสนยานุภาพของขีปนาวุธใหม่ ส่วนท่านผู้นำคิม จองอึน ซึ่งกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างพิธีสวนสนาม ก็ไม่ได้พูดพาดพิงถึงสหรัฐฯแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเขาให้สัญญาว่าจะยกระดับแสนยานุภาพป้องกันตนเองของประเทศให้มากขึ้นไปอีก กระนั้นก็ดี การเปิดตัวอาวุธใหม่ไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่พวกนักสังเกตการณ์มากนัก เนื่องจากไม่กี่วันก่อนหน้าพิธีสวนสนาม สื่อมวลชนเกาหลีใต้อ้างแหล่งข่าวต่างๆ เชื่อว่าเปียงยางจะใช้โอกาสนี้อวดโฉมอาวุธใหม่ๆของพวกเขา นอกจากขีปนาวุธข้ามทวีปใหม่แล้ว ในพิธีสวนสนาม เกาหลีเหนือยังได้อวดโฉมขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ (SLMBs) ฉายา Pukguksong-4A ซึ่งไม่เคยนำมาแสดงมาก่อน ทั้งนี้เปียงยางเคยทำการทดสอบ SLMB รุ่นใหม่ Pukguksong-3 ในเดือนตุลาคม 2019 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันมีพิสัยทำการอย่างน้อย 450 กิโลเมตร ขณะเดียวกันเกาหลีเหนือยังได้ขนระบบป้องกันภัยทางอากาศใหม่ และเวอร์ชันใหม่ของรถถังประจัญบาน มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกระหว่างพิธีสวนสนามครั้งนี้เช่นกัน (ที่มา:รัสเซียทูเดย์) ————————————————- ที่มา :…

การก่อการร้ายแบบผสานสองโลก (O2O): แผนลับคืนชีพรัฐอิสลาม (Islamic state) ในโลกเสมือนจริง (ตอนที่ 5)

Loading

ที่มาภาพ: https://www.wired.co.uk/article/isis-digital-backup Written by Kim แม้กลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State-IS) สูญเสียพื้นที่ยึดครองทางภูมิศาสตร์ในซีเรียและอิรักจากการปราบปรามของสหรัฐฯและพันธมิตรทีละแห่งระหว่างปี 2017 – 2018 แต่ในโลกเสมือน (online) พวกเขายังคงสามารถให้ “บริการ” ด้านต่าง ๆ ต่อไปในเขตอาณา (ดินแดน) ทางดิจิทัล เช่น การโฆษณาชวนเชื่อ สนับสนุนช่วยฝึกสอนการก่อการร้ายแก่ผู้คนทั่วโลกที่คิดว่าตัวเองเป็นพลเมืองของ IS การตรวจพบคลังข้อมูลขนาดใหญ่ของ IS ในโลกออนไลน์แสดงให้เห็นความยืดหยุ่น (resilience) และการวางแผนปรับตัววิวัฒนาการไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โดยทิ้งอดีตที่สูญเสียอย่างยับเยินอยู่เบื้องหลังเพื่อเตรียมฟื้นคืนชีพในโลกเสมือน สำนักข่าว BBC รายงานเมื่อ 3 กันยายน 2020 ว่า นักวิจัยของสถาบันการเสวนาทางยุทธศาสตร์ (Institute of Strategic Dialogue-ISD) ตรวจพบคลังข้อมูลขนาดใหญ่ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลามในโลกเสมือน ห้องสมุดดิจิตอลดังกล่าวรวบรวมเอกสารมากกว่า 90,000 รายการและมีผู้เข้าเยี่ยมชมเดือนละ 10,000 ราย[1] ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าคลังข้อมูลดังกล่าวช่วยเติมเต็มเนื้อหารุนแรงสุดโต่งบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งยากต่อการรื้อทิ้ง เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ถูกจัดเก็บในที่เดียวกัน แม้หน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายในอังกฤษและสหรัฐฯได้รับการแจ้งเตือน แต่คลังข้อมูลดังกล่าวยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น           คลังข้อมูลของ IS ถูกค้นพบหลังการเสียชีวิตของ Abu Bakr al-Baghdadi ผู้นำ IS เมื่อตุลาคม 2019 ขณะนั้นสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากที่สนับสนุน IS โพสต์ลิงค์สั้น ๆ ที่นำนักวิจัยไปยังที่เก็บเอกสารและวิดิโอในภาษาต่าง ๆ 9 ภาษา[2] (ไม่มีภาษาไทย) รวมถึงรายละเอียดการโจมตี Manchester Arena เมื่อ 22 พฤษภาคม 2017 กรุงลอนดอน 7…

อิสราเอลชี้’ฮิซบอลเลาะห์’ มี’คลังแสง’ใกล้สนามบินเบรุต

Loading

ผู้นำอิสราเอลแถลงต่อสมัชชายูเอ็น ยกย่องข้อตกลง “สันติภาพ” กับยูเออีและบาห์เรน ประณามอิหร่าน และกล่าวว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์มี “คลังแสง” ในเขตชุมชน ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติ ในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) เมื่อวันอังคาร ว่าแม้ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่ “ไม่ค่อยมีข่าวดีให้ชาวโลกได้รับทราบ” แต่เมื่อกลางเดือนนี้รัฐบาลเทลอาวีฟลงนามอย่างเป็นทางการในข้อตกลง “อับราฮัม” ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ “ระดับปกติอย่างเป็นทางการ” กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และบาห์เรน พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า ประเทศที่เหลือในโลกอาหรับจะทยอยเข้าร่วม “วัฏจักรแห่งสันติภาพ” เนทันยาฮูใช้เวลาส่วนใหญ่กล่าวถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ “ไม่เหนือความคาดหมายมากนัก” จากการที่ผู้นำอิสราเอลยังคงประณามอิหร่าน ว่าก้าวร้าวและคุกคามประเทศร่วมภูมิภาคทั้งทางตรง และทางอ้อมผ่านการทำสงครามตัวแทน ทั้งในซีเรีย เยเมน ฉนวนกาซา และเลบานอน ที่เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่บริเวณท่าเรือ ในกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต “อย่างน้อย 200 คน”…

กรณีศึกษา Shopify ทำข้อมูลลูกค้ารั่วไหลเพราะคนในแอบขโมยข้อมูล (insider threat)

Loading

Shopify เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ รองรับทั้งการแสดงผลร้านค้าและการชำระเงิน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 บริษัท Shopify ได้ประกาศแจ้งสถานการณ์ข้อมูลรั่วไหล โดยสาเหตุเกิดจากพนักงานฝ่ายสนับสนุนจำนวน 2 คนเข้าถึงข้อมูลบันทึกการชำระเงินของลูกค้ากว่า 200 รายโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากที่ตรวจพบเหตุการณ์ดังกล่าวทางบริษัทได้ตัดสิทธิ์พนักงานทั้ง 2 คนออกจากระบบและสั่งดำเนินการสอบสวนทางกฎหมายทันที ทั้งนี้ ทาง Shopify แจ้งว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ยืนยันว่าข้อมูลที่พนักงานสามารถเข้าถึงได้นั้นมีเฉพาะข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ อีเมล ที่อยู่ และประวัติการซื้อขายสินค้า แต่ไม่มีข้อมูลทางการเงินหลุดออกไปแต่อย่างใด กรณีศึกษานี้เป็นตัวอย่างเหตุการณ์ภัยคุกคามจากคนใน (insider threat) ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกองค์กร เป้าหมายมีได้ตั้งแต่การฉ้อฉล ขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ไปจนถึงสร้างความเสียหาย สาเหตุของการเกิดนั้นมีได้ทั้งจากตัวพนักงานและจากปัญหาภายในองค์กร ทั้งนี้ ภัยคุกคามจากคนในนั้นไม่ได้หมายถึงแค่คนในเป็นคนก่อเหตุ แต่ยังหมายรวมถึงเหตุการณ์ที่คนในกระทำผิดโดยไม่เจตนา หรือถูกข่มขู่บังคับเพื่อให้กระทำการทุจริตได้ด้วย ทาง Software Engineering Institute ของ Carnegie Mellon University ได้ให้ข้อแนะนำในการป้องกันภัยคุกคามจากคนในไว้ดังนี้ จัดทำทะเบียนสินทรัพย์ และกำหนดมาตรการป้องกันตามระดับความสำคัญของสินทรัพย์นั้น ๆ จัดให้มีมาตรการและทีมงานเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน…

หอไอเฟลสั่งอพยพด่วน! หลังถูกขู่วางระเบิด

Loading

หอไอเฟลในฝรั่งเศสสั่งอพยพด่วน หลังมีโทรศัพท์ขู่วางระเบิด ล่าสุดตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่และพบว่าเป็นสัญญาณหลอก ตำรวจฝรั่งเศสเข้าตรวจสอบหอไอเฟลในกรุงปารีส พร้อมสั่งอพยพนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อยู่พื้นที่โดยรอบ หลังได้รับโทรศัพท์ขู่วางระเบิด เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันนี้ (23 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 18.00 น.ตามเวลาในไทย โดยตำรวจติดอาวุธ เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมสุนัขดมกลิ่น ได้ปิดกั้นพื้นที่และเข้าไปตรวจสอบความปลอดภัย ขณะเดียวกันยังมีการปิดถนนเส้นที่วิ่งไปยังหอไอเฟล พร้อมเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดโดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง ก็เปิดทำการหอไอเฟลได้อีกครั้ง โดยไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด   หอไอเฟลเพิ่งกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งเมื่อ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังต้องปิดให้บริการนานกว่า 3 เดือน ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในฝรั่งเศส โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี โดยหอไอเฟลเคยได้รับโทรศัพท์ขู่ก่อการร้ายมาแล้วหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง ———————————————— ที่มา : ไทยรัฐ / 23 กันยายน 2563 Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1935829

ศาลคุกพ่อลูกเวียดนามข้อหาก่อการร้ายวางระเบิดสถานีตำรวจนครโฮจิมินห์

Loading

เอเอฟพี – ศาลนครโฮจิมินห์ตัดสินจำคุกจำเลย 20 คน รวมทั้งพ่อลูกคู่หนึ่ง จากเหตุวางระเบิดสถานีตำรวจที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน สื่อทางการรายงานวันนี้ (22) เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เหตุการณ์การโจมตีในเดือน มิ.ย.2561 ดำเนินการโดย ‘ผู้ก่อการร้าย’ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มชาวเวียดนามในแคนาดาที่พยายามจะโค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ เหวียน แค็งห์ ผู้ควบคุมการโจมตี ถูกตัดสินจำคุกนาน 24 ปี ในข้อหาก่อการร้ายต่อฝ่ายบริหารประชาชน และจากการผลิต จัดเก็บ และค้าวัตถุระเบิดอย่างผิดกฎหมาย เหวียน เติ่น แถ่ง ลูกชายของเหวียน แค็งห์ ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี ในขณะที่ผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 18 คน ได้รับโทษจำคุกระหว่าง 2 ปี ถึง 18 ปี แค็งห์ถูกตั้งข้อหาให้วัตถุระเบิดกับผู้สมรู้ร่วมคิด 2 คน ที่จุดชนวนระเบิดบนรถจักรยานยนต์หน้าสถานีตำรวจชานนครโฮจิมินห์ โดยแรงระเบิดทำให้กระจกของอาคารแตกเสียหาย โดยอาคารหลังดังกล่าวอยู่ใกล้กับจุดที่มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายเศรษฐกิจเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และพ่อครัวได้รับบาดเจ็บ การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นหลายจุดทั่วเวียดนามเพื่อต่อต้านร่างกฎหมายว่าด้วยเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะอนุญาตให้นักลงทุนเช่าที่ได้นานถึง…