แนวโน้มล่าสุดของสงครามไซเบอร์ (CYBERWARFARE) และการจารกรรมทางดิจิทัล (ESPIONAGE)

Loading

ที่มาภาพ: https://www.forbes.com/sites/steveandriole/2020/01/14/cyberwarfare-will-explode-in-2020-because-its-cheap-easy–effective/#53af1d216781 Written by Kim  “สงครามไซเบอร์จะระเบิดขึ้นในปี 2020 เพราะ “ต้นทุน (ราคา) ถูก ง่ายและมีประสิทธิภาพ” Steve Andriole, Professor of Business Technologyin the Villanova School of Business at Villanova University” ในการแข่งขันเพื่อเป็นชาติแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID-19) ปรปักษ์ของสหรัฐฯได้แอบขโมยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนดังกล่าวจากมหาวิทยาลัย บริษัทเภสัชภัณฑ์และสถาบันดูแลสุขภาพของสหรัฐฯ เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและศักดิ์ศรีของประเทศรวมทั้งแรงกระตุ้นทางการเงินประกอบกับความสัมพันธ์สหรัฐฯ – จีนที่เสื่อมทรามลง โอกาสที่ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันจึงมีค่าเท่ากับศูนย์ (nil) ขณะที่กลุ่ม Cozy Bear นักเจาะระบบชาวรัสเซีย ซึ่งใกล้ชิดกับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย (SVR) ได้เล็งเป้าที่การวิจัยวัคซีนดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ดี รัสเซีย จีนและปรปักษ์อื่น ๆ ต่างก็ใช้ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในการ “ชักชวน” ให้นักเจาะระบบผู้ช่ำชองและอาชญากรไซเบอร์ “ทำงาน” ที่ยากต่อการเชื่อมโยงกลับไปยังรัฐผู้อุปถัมป์ (state sponsors)[1] ปัจจุบัน นักเจาะรบบจากจีน รัสเซียและอิหร่านได้ขโมยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาจากมหาวิทยาลัย บริษัทเวชภัณฑ์และสถาบันดูแลสุขภาพในสหรัฐฯ โดยทำให้การแข่งขันเพื่อเป็นชาติแรกที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19 ทวีความรุนแรง ทั้งนี้ การโจมตีทางไซเบอร์ (Cyberattacks) ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับประเทศเหล่านี้…

เปิดผลสอบเบื้องต้น ‘ระเบิดเบรุต’ ไม่พบสัญญาณโจมตี

Loading

เจ้าหน้าที่เลบานอนเผยผลสอบเบื้องต้นเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในกรุงเบรุตเมื่อต้นเดือนนี้ เกิดจาก “ความประมาทร้ายแรง” และไม่พบสัญญาณการโจมตี สำนักข่าวซินหัวของจีน และสถานีโทรทัศน์แอลบีซีไอ ทีวี ของเลบานอน รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (16 ส.ค.) ว่า ผลการสืบสวนเบื้องต้นของเหตุระเบิดใหญ่ในกรุงเบรุตเมื่อไม่นานมานี้ ชี้ให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่อขั้นร้ายแรง โดยไม่พบสัญญาณบ่งบอกการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือเครื่องบินรบ ผลการสืบสวนข้างต้นไม่ได้ระบุว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือไม่ แต่พบพฤติกรรมหละหลวมอย่างร้ายแรงในโกดังที่ท่าเรือกรุงเบรุต ซึ่งกักเก็บสารแอมโมเนียไนเตรท 2,700 ตัน ร่วมกับดอกไม้ไฟ น้ำมันก๊าด เมธิลีน และไนโตรเจนรวม 24 ตัน ต้นเหตุจากเก็บแอมโมเนียมไนเตรทสะเพร่า แหล่งข่าวเผยกับแอลบีซีไอว่า สารแอมโมเนียมไนเตรทเพียงอย่างเดียวไม่สามารถก่อให้เกิดเหตุระเบิดใหญ่ได้ แต่การจัดเก็บแอมโมเนียมไนเตรทรวมกับสารเคมีชนิดอื่น ๆ อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้ นอกจากนั้น ผลการสืบสวนยังพบว่ามีแรงงาน 3 คน เชื่อมโลหะอยู่ที่โกดัง และออกจากพื้นที่หลังเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นราว 1 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุระเบิด ช่วงต้นเดือน ส.ค. นายกัสซัน อัล-ฮูรี อัยการสูงสุดของเลบานอน ออกคำสั่งจับกุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของท่าเรือเบรุต 3 คน ฐานไม่สามารถจัดการกับสารแอมโมเนียมไนเตรท รวมถึงจัดเก็บสารเคมีอื่น ๆ…

เตือน ทำใบขับขี่ผ่านเน็ต วันเดียวได้ไม่ต้องรอคิว หนุ่มร้องจ๊าก ได้ของเก๊ โร่แจ้ง ตร.

Loading

เตือนอย่าหลงกล ทำใบขับขี่ผ่านเน็ต วันเดียวได้ไม่ต้องรอคิว หนุ่มร้องจ๊าก ได้ของเก๊ โร่ขึ้นโรงพักเมืองพัทยา แจ้ง ตร.หาตัวคนร้าย วันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ที่สภ.เมืองพัทยา นายสมศักดิ์ อายุ 29 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ณเรศน์ พุ่มสุข รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา หลังถูกหลอก ทำใบขับขี่ผ่านเน็ต ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ปลอม นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนติดต่อทำใบขับขี่ผ่านทางไลน์ ชื่อ Mr.พงษ์ (เอกสาร) ซึ่งรู้จักผ่านทางเฟซบุ๊กว่ารับทำใบขับขี่ แบบไม่ต้องเดินทางไปทำด้วยตนเอง และไม่ต้องรอคิวนาน ทำเสร็จภายในวันเดียวด้วยความที่สะดวกและหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน ในสถานการณ์โควิด19 ตนจึงชักชวนเพื่อนอีก 3-4 คนไปทำด้วย โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาท ต่อบัตรใบขับขี่ 1 ใบ เมื่อได้พูดคุยและตรวจดูโปรไฟล์ของคนทำดูน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจติดต่อโอนเงินค่าทำบัตรใบขับขี่ตามราคาที่ทางร้านกำหนด พร้อมโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่ทางฝ่ายคนทำส่งให้ ไม่นานก็ได้รับข้อความตอบกลับว่าใบขับขี่เสร็จแล้ว ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรแต่เมื่อใบขับขี่ส่งมาถึง พอลองตรวจสอบดูก็พบกับความผิดปกติ จนมารู้ว่าเป็นใบขับขี่ปลอม ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ตนจึงรีบเดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีไม่ให้ไปหลอกลวงคนอื่นได้อีก…

ระเบิดเลบานอน: เจาะลึกระเบิดสังหารกรุงเบรุต

Loading

เหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในกรุงเบรุตของเลบานอนเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา คร่าชีวิตคนไปแล้วอย่างน้อยกว่า 200 คน บาดเจ็บอีกหลายพันคน โศกนาฏกรรมครั้งนี้รุนแรงถึงขั้นที่ทำให้คนเลบานอนเปรียบว่าเป็นเหตุการณ์ 9/11 ของเลบานอน บีบีซีพาย้อนกลับไปยังจุดศูนย์กลางของระเบิด ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วกรุงเบรุต และสร้างความเสียหายมหาศาล เลบานอนเคยตกอยู่ในสงครามกลางเมืองยาวนาน 15 ปี เคยถูกรุกรานและถูกชาติอื่นเข้าครอบครอง แต่หายนะครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและการระบาดของโรคโควิด-19 พลเมืองของชาติที่มีความยืดหยุ่นต่อเหตุการณ์รอบตัวอย่างเลบานอน จะทนแบกรับเหตุร้ายไปได้นานแค่ไหน บรรยาย: Caroline Hawley โปรดิวเซอร์: Kate Forbes โปรดิวเซอร์ภาพ: Megan Fisher กราฟิก: Terry Saunders ———————————————— ที่มา : BBC Thai / 13 สิงหาคม 2563 Link : https://www.bbc.com/thai/international-53758126

‘บิ๊กตู่’เจอดีแล้ว! เก๋งแอคคอร์ดขับรถตามประกบ บีบแตรไล่แต่เช้า ยกระดับรปภ.ขั้นสูงสุด

Loading

17 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังมีการชุมนุมปราศรัยของของกลุ่มประชาชนปลดแอกที่ถนนราชดำเนินวานนี้ (16 ส.ค.) และมีขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งพร้อมไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ และล่าสุดโรงเรียนและสถานศึกษาทั่วประเทศ มีการชู 3 นิ้วในโรงเรียน ปรากฏว่าเช้าวันเดียวกันนี้ (17 ส.ค.) ก่อนเดินทางเข้ามาปฎิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากบ้านพักภายใน กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยรถเบนซ์กันกระสุน ทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร โดยใช้เส้นทางขึ้นด่วนดินแดงเพื่อมาลงที่ด่วนยมราช ปรากฏว่าได้มีรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่นเก่าสีเขียวอมฟ้าทะเบียน กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อทราบว่าเป็นขบวนของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้พยายามที่จะขับประกบ โดยเปิดไฟผ่าหมากพร้อมบีบแตรไล่เป็นระยะ แสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจ ในการดำรงตำแหน่งนายกตรีในปัจจุบัน โดยรถยนต์คันดังกล่าวมีคนขับรถ เป็นผู้ชายวัยกลางคน ขับมาเพียงคนเดียว โดยขับตามประกบและบีบแตรไล่ ตลอดทางแม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามที่จะกันไม่ให้เข้าใกล้ขบวนของนายกรัฐมนตรีก็ตาม โดยรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ดคันดังกล่าว ก็พยายามขับตามมาจนถึงทางลงด่วนยมราช เจ้าหน้าที่จึงสะกัดอีกครั้ง แต่ก็ยังขับตามไปจนถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล บริเวณแยกพาณิชย์ และขับตรงเลยไปยังถนนราชดำเนินและหายไปในที่สุด รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้มีการประสาน…

รบ.เลบานอนลาออกยกคณะ เซ่นระเบิดเบรุต ลั่นทำตามความต้องการประชาชน

Loading

รัฐมนตรีเลบานอนประกาศลาออกทั้งคณะ ไม่ถึงสัปดาห์หลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในกรุงเบรุต ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 220 ศพ และการประท้วงรุนแรงติดต่อกันหลายวัน สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ฮันซัน ดิอับ แห่งเลบานอน ประกาศลาออกจากตำแหน่งพร้อมกับคณะรัฐมนตรีของเขาทั้งคณะแล้วในคืนวันจันทร์ที่ 10 ส.ค. 2563 โดยระบุว่าสาเหตุมาจากการระเบิดในกรุงเบรุต ซึ่งเขาระบุว่าเป็นหายนะที่ไม่อาจประเมินความเสียหายได้ ในแถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ นายดิอับประณามกลุ่มนักการเมืองช้ันปกครอง สนับสนุนระบบการทุจริตคอร์รัปชันที่ใหญ่โตยิ่งกว่าระดับประเทศ “เราต่อสู้อย่างกล้าหาญและมีเกียรติ” นายกรัฐมนตรี พูดถึงตัวเองกับคณะรัฐมนตรีของเขา “แต่ระหว่างเรากับความเปลี่ยนแปลงมีกำแพงใหญ่ที่แข็งแกร่งขวางอยู่” นายดิอับยังเปรียบเทียบเหตุระเบิดเมื่อวันอังคารที่ 4 ส.ค. ว่าเป็นแผ่นดินไหนที่สั่นสะเทือนเลบานอน ทำให้รัฐบาลของเขาต้องลาออก “วันนี้ เราทำตามความต้องการของประชาชนที่เรียกร้องให้รับผิดชอบต่อหายนะที่ซุกซ่อนมากว่า 7 ปี และความต้องการของพวกเขาที่อย่างให้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง” ก่อนหน้าที่นายดิอับจะมีแถลงการณ์ กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากออกมาประท้วงอย่างรุนแรงหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรี ในกรุงเบรุต โดยผู้ชุมนุมหลายสิบคนขว้างปาก้อนหิน, ดอกไม้ไฟ และระเบิดขวาดใส่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงซึ่งตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา ผู้ประท้วงบางคนยังพยายามรื้อกำแพงนอกจัตุรัสรัฐสภาด้วย ทั้งนี้ เลบานอนกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษอยู่แล้ว กอปรกับการระบาดของไวรัสโควิด-19, การคอร์รัปชันและการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาล แต่เหตุระเบิดที่กรุงเบรุต ซึ่งมีสาเหตุจากการละเลยปล่อยให้สารแอมโมเนียมไนเตรทถึง 2,750 ตันเก็บอยู่ที่ท่าเรือใกล้เขตที่อยู่อาศัยมานานถึง 7 ปี จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 220…