ยูเครนแจกยาเม็ดไอโอดีนให้ชาวบ้านใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หวั่นรังสีรั่วไหล

Loading

  ยูเครนแจกยาเม็ดโพแทสเซียมไอโอดีนป้องกันกัมมันตภาพรังสีให้ประชาชนรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเจีย หวั่นเกิดภัยพิบัติ รังสีรั่วไหล วันที่ 27 สิงหาคม 2565 เอ็นบีซีนิวส์รายงานว่า ทางการยูเครนเริ่มแจกจ่ายยาเม็ดไอโอดีนให้กับผู้ที่อยู่อาศัยใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าการสู้รบรอบโรงไฟฟ้าฯ อาจก่อให้เกิดการรั่วไหลของรังสี หรือนำไปสู่ภัยพิบัติที่อันตรายกว่า ความเคลื่อนดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเจียถูกตัดการเชื่อมต่อจากโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนเป็นการชั่วคราว เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 40 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ในยูเครน เช่นเดียวกับที่เคยเกิดกับโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล เมื่อปี 2529 “โวโลดิมีร์ มาร์ชุค” โฆษกสำนักบริหารภูมิภาคซาโปรีเจียของกองทัพยูเครน เผยว่า ยาเม็ดไอโอดีนถูกแจกจ่ายให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในรัศมี 50 กิโลเมตรจากโรงงานในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ (Enerhodar) “ผู้ได้รับยาชนิดนี้ได้รับคำสั่งไม่ให้ใช้ยาในลักษณะการป้องกัน เพราะยานี้จะใช้ในกรณีที่รังสีรั่วไหลในอนาคต ซึ่งในเวลานั้นรัฐบาลจะสั่งให้ประชาชนกินยาเม็ดนี้” อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุว่า มีการแจกจ่ายยามากน้อยแค่ไหน และใครบ้างที่ได้รับยา แต่เขาได้เผยทางเทเลแกรมว่า มีการส่งมอบยาเม็ดไอโอดีน 25,000 เม็ด ไปยังเมืองทางตอนใต้ พร้อมกับเน้นย้ำว่า ระดับรังสีที่โรงไฟฟ้าฯ และพื้นที่โดยรอบ ขณะนี้ยังเป็นปกติ ยาเม็ดโพแทสเซียมไอโอดีนมีคุณสมบัติในการบล็อกสารกัมมันตภาพรังสีชนิดหนึ่ง และถูกนำมาใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์ เพื่อช่วยปกป้องต่อมไทรอยด์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บริษัทเอเนอร์โกอะตอม (Energoatom) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนระบุว่า โรงไฟฟ้าฯ แห่งนี้ได้รับพลังงานอย่างปลอดภัยผ่านสายไฟฟ้าที่ซ่อมแซมแล้วจากโครงข่ายไฟฟ้า หนึ่งวันหลังจากถูกตัดการเชื่อมต่อจากโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ…

นอร์เวย์-อังกฤษเตรียมบริจาค “ไมโครโดรน” ช่วยยูเครน

Loading

  นอร์เวย์และสหราชอาณาจักรร่วมกันบริจาคโดรนขนาดเล็ก “แบล็กฮอร์เน็ต” ให้กับยูเครนจำนวน 850 ลำ   เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) กระทรวงกลาโหมนอร์เวย์ออกแถลงการณ์ ระบุว่า นอร์เวย์และสหราชอาณาจักรจะร่วมกันบริจาคความช่วยเหลือทางทหารให้กับยูเครน เป็นโดรนขนาดเล็ก “แบล็กฮอร์เน็ต (Black Hornet)” ที่ผลิตในนอร์เวย์   “นอร์เวย์และสหราชอาณาจักรกำลังร่วมมือกันเพื่อซื้อแบล็กฮอร์เน็ต โดรนขนาดเล็กของนอร์เวย์ เพื่อบริจาคให้กับยูเครน โดยงบประมาณอยู่ที่ 90 ล้านโครนนอร์เวย์ (ราว 333 ล้านบาท)” คำแถลงระบุ     โดรนขนาดเล็กหรือไมโครโดรนแบล็กฮอร์เน็ตนี้ มีขนาดเพียง 6 นิ้ว (15 ซม.) หน้าตาจะคล้ายกับเฮลิคอปเตอร์ของเล่น มีวัตถุประสงค์หลักคือการลาดตระเวนและการระบุเป้าหมาย นิยมใช้ในสงครามในเมือง และการสอดส่องพื้นที่ในอาคาร   ความช่วยเหลือร่วมของนอร์เวย์และสหราชอาณาจักรนี้ จะประกอบด้วย โดรนแบล็กฮอร์เน็ต 850 ลำ อะไหล่ชิ้นส่วน โดยนอร์เวย์บอกว่า ยูเครนเป็นผู้เรียกร้องขอยุทโธปกรณ์ประเภทนี้เพื่อใช้ในการสู้กับรัสเซีย นอกจากนี้ความช่วยเหลือจะรวมถึงบริการขนส่งและฝึกอบรมการใช้งานโดยสหรอาชอาณาจักรด้วย   บยอร์น อาริลด์ แกรม…

ยูเครนเร่งสืบสวนหาตัวคนทรยศต่อ หลังปลด จนท.ระดับสูง

Loading

  เข้าสู่วันที่ 146 ของสงครามในยูเครน ตอนนี้สถานการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครนพอมีสัญญาณที่ดีออกมาให้เห็น เมื่อมีรายงานว่ายูเครนสามารถป้องกันบางพื้นที่ในแคว้นโดเนตสก์ได้ หลังจากที่ยูเครนประจำการอาวุธที่ชาติตะวันตกส่งให้ในสนามรบ นอกจากศึกนอกแล้ว ยูเครนยังต้องรับมือกับศึกในประเทศด้วย หลังจากที่มีรายงานว่า ทางการยูเครนพบกบฏในหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐ จนทำให้ประธานาธิบดีเซเลนสกีตัดสินใจปลดหัวหน้าหน่วยความมั่นคงและอัยการสูงสุดออกจากตำแหน่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในเรื่องการสอบสวนคดีดังกล่าวออกมา โดยผู้นำของยูเครนเปิดเผยว่า ตอนนี้ทางการยูเครนกำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน และกำลังพิจารณาปลดเจ้าหน้าจำนวน 28 ราย ซึ่งมาจากหลากหลายตำแหน่ง แต่ทุกคนมีพฤติกรรมเดียวกันคือ ประพฤติงานในทางไม่ชอบ     การพบกบฏในหน่วยงานที่เป็นแกนหลักอย่างหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงานอัยการสูงสุดของยูเครน ถือเป็นประเด็นที่น่ากังวลเพราะหน่วยงานความมั่นคงต้องดูแลเรื่องสงคราม ในขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดดูแลเรื่องคดีอาชญากรรมสงครามในเมืองบูชา ซึ่งทั้งสองเรื่องสำคัญมากท่ามสงครามยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ นอกจากนี้ อาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นของทหาร ชาวยูเครน รวมถึงพันธมิตรที่ต้องแบ่งปันข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ให้แก่ยูเครนในสนามรบด้วย อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรและผู้สนับสนุนใหญ่ของยูเครนไม่ได้กังวลกับสิ่งเกิดขึ้น สหรัฐฯ ยืนยันว่าพร้อมที่จะทำงานกับหน่วยงานความมั่นคงของยูเครนต่อไป อีกทั้งยังให้ความเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนใหม่ของยูเครนได้ นอกจากยูเครนต้องจัดการกับปัญหาภายในองค์กรที่เป็นแกนกลางของความมั่นคงระดับชาติแล้ว ยูเครนยังต้องจัดการกับรัสเซียในสนามรบด้วยเช่นกัน ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมารัสเซียโจมตีใส่ยูเครนอย่างหนักในหลายพื้นที่จนประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก เริ่มต้นที่แคว้นคาร์คีฟทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า รัสเซียได้ยิงปืนใหญ่โจมตีที่พักอาศัยของชาวยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้กระจกของอาคารแตกและอาคารบางส่วนได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถัดลงมาที่แคว้นโดเนตสก์ซึ่งเป็นเป้าหมายของปฏิบัติการในเฟสสองนี้ เมื่อวาน หน่วยงานฉุกเฉินแห่งชาติของยูเครนรายงานว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มเมืองเซียร์ชินสก์ ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของแคว้นโดเนตสก์ ผลจากโจมตีทำให้อาคารบางหลังเกิดเพลิงลุกไหม้และพังถล่มลงมา…

เผยยูเครน เตรียมนำหุ่นติดปืนกล GNOM มาใช้ในสงคราม

Loading

  มีการกล่าวว่า การบุกรุกยูเครนถูกเรียกว่าเป็น “สงคราม TikTok” เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ในสงคราม มีการแชร์ภาพหรือวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแชร์ภาพยุทโธปกรณ์ที่ถูกใช้ในครั้งนี้มากมาย จนเกิดเป็นกระแสในโลกออนไลน์อยู่เนือง ๆ ล่าสุดมีการแชร์ว่า ยูเครนกำลังนำ ‘หุ่นยนต์ติดอาวุธ’ มาใช้ในสงครามครั้งนี้แล้ว     Temerland บริษัทหุ่นยนต์ของยูเครนเผยกำลังนำ GNOM หุ่นยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาติดปืนกลขนาด 7.62 มม. พร้อมเตรียมนำไปที่แนวหน้า ใกล้กับเมืองซาโปริจเซีย (Zaporіzhzhia) ของยูเครน   This weaponized robotic vehicle 'GNOM' by Temerland from #Ukraine ?? with a 7.62 machine gun will be deployed at the Ukrainian frontline in Zaporіzhzhia, Ukraine…

ยูเครนยกย่องเด็กชายวัย 15 ปี ส่งโดรนสอดแนมกองทัพรัสเซีย

Loading

  ยูเครนยกย่องเด็กชายวัย 15 ปีที่ส่งโดรนขึ้นบินเหนือกองทัพรัสเซีย แล้วส่งข้อมูลตำแหน่งให้กับกองทัพยูเครนเพื่อโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ   ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในช่วงแรกเริ่มของการรุกรานยูเครนของรัสเซีย มีวีรบุรุษจำนวนมากในยูเครนที่ได้รับการยกย่องเชิดชู ว่ามีส่วนช่วยในการต่อต้านรัสเซียจนไม่สามารถบุกเข้ายึดกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นเหล่าทหารบนเกาะงู หมู่บ้านใกล้กรุงเคียฟที่ทำให้น้ำท่วมเพื่อขวางเส้นทางเดินทัพของรัสเซีย หรือกระทั่งสุนัขเก็บกู้วัตถุระเบิด   ล่าสุดยูเครนยกย่องอีกหนึ่งวีรบุรุษคนสำคัญยังมี แอนดรีย์ โปกราซา เด็กหนุ่มชาวยูเครนอายุเพียง 15 ปี     โดยในช่วงแรกของสงคราม ขณะที่รถถังและรถบรรทุกของรัสเซียกำลังเคลื่อนขบวนใกล้กับหมู่บ้านของเขา มุ่งหน้าไปยังกรุงเครียฟ แอนดรีย์ และสตานิสลาฟ พ่อของเขา ได้นำโดรนขนาดเล็กขึ้นบินอย่างลับ ๆ เพื่อ “สืบข้อมูล”   สองพ่อลูกทำงานกันเป็นทีมโดยถ่ายภาพมุมสูงของขบวนยานหุ้มเกราะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงเคียฟและระบุตำแหน่งพิกัดของกองทัพรัสเซีย และส่งข้อมูลอันมีค่านี้ให้กับกองทัพยูเครนอย่างรวดเร็ว   ภายในไม่กี่นาทีหลังจากส่งข้อมูลให้ ก็มีการโจมตีจากยูเครนถล่มใส่กองกำลังรัสเซีย   การอาสา “ลาดตระเวนทางอากาศ” โดยสมัครใจของสองพ่อลูกโปกราซา ทำให้แอนดรีย์และสตานิสลาฟได้รับการยกย่องในยูเครนในฐานะส่วนหนึ่งของผู้ที่มีส่วนช่วยให้ยูเครนสามารถรักษาเมืองหลวงไว้ได้   แอนดรีย์เล่าว่า พวกเขาทำตัวเป็นสายสืบส่งข้อมูลให้กองทัพยูเครนเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็มหลังจากการรุกรานเริ่มขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. และยอมรับว่า เป็นการกระทำที่เสี่ยงต่อการถูกจับหรือเจออะไรที่แย่กว่านั้น หากกองกำลังรัสเซียรู้ว่าถูกสอดแนม…

ยูเครนสั่งแบนวรรณกรรมอมตะ‘War and Peace’ว่าด้วยสงครามของรัสเซีย

Loading

  สงครามและสันติภาพ หรือ ‘War and Peace’ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานวรรณกรรมที่ดีที่สุดของเลโอ ตอลสตอย (Leo Tolstoy) นักเขียนเอกชาวรัสเซีย และยังคงเป็นวรรณกรรมคลาสสิกระดับโลกที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล อันเดรย์ วิเทรนโก (Andrey Vitrenko) รัฐมนตรีช่วยว่าการคนแรกของกระทรวงศึกษาธิการยูเครนกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Ukraine 24 ว่า “สิ่งเหล่านี้ (หนังสือวรรณกรรม) จะถูกแยกออกจากวรรณคดีต่างประเทศ (ที่ส่งเสริมกันในยูเครน) โดยสิ้นเชิง” ตัวอย่างเช่น ‘สงครามและสันติภาพ’ (War and Peace) เล่มนี้จะไม่ได้รับการศึกษาในยูเครนอีกต่อไป” วิเทรนโก กล่าวว่าทางกระทรวงยังกำลังดำเนินการกับรายชื่อผลงานสุดท้ายของนักเขียนชาวรัสเซียที่จะถูกตัดออกจากหลักสูตรดังกล่าว ความคิดเห็นของเขาเป็นไปตามประกาศของกระทรวงวัฒนธรรมและข้อมูลนโยบายของรัฐบาลยูเครนเมื่อเดือนที่แล้วว่างานวรรณกรรม “ส่งเสริมการโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย” จะถูกลบออกจากห้องสมุดยูเครนและแทนที่ด้วยหนังสือยูเครน “โฆษณาชวนเชื่อเป็นอาวุธอันตราย คำโกหกของรัสเซียเป็นพิษอยู่ทุกวันนี้” ลาริซา เปตาชุก (Larisa Petasyuk) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกล่าวบนเฟซบุ๊กในขณะนั้น จากการรายงานของ RT สื่อของรัสเซีย รัฐบาลยูเครนได้สั่งห้ามงานศิลปะของรัสเซีย และการสอนภาษา มานานก่อนความขัดแย้งในปัจจุบัน ในเดือนมีนาคม 2019 รัฐบาลยูเครนสั่งห้ามงานศิลปะ 40 ชิ้นเนื่องจากการกล่าวถึงธุรกิจของรัสเซีย ศิลปิน…