ระเบิดบัสนักท่องเที่ยว หน้าพีระมิด “กีซ่า”

Loading

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด โจมตีรถบัสนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใกล้กับพีระมิดสำคัญของอียิปต์ มีรายงานนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ 17 คน สร้างความเสื่อมเสียให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ประตูรั้วด้านหน้าพิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ ติดกับมหาพีระมิดแห่งกีซา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ โดยคนร้ายได้นำระเบิดไปซุกซ่อนไว้ และปลดชนวนระเบิดในช่วงที่รถบัสของนักท่องเที่ยวจากแอฟริกาใต้แล่นผ่านมาพอดี ทำให้รถบัสได้รับความเสียหายกระจกแตก เช่นเดียวกับรถยนต์ที่แล่นตามมาอีกคันหนึ่ง ก็ได้รับความเสียหายไปด้วย หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมกับลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้ง 17 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวแอฟริกาใต้ ส่งโรงพยาบาล เคราะห์ดีที่ทุกคนได้รับบาดเจ็บไม่มาก แต่ยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอดูการให้แน่ใจว่าปลอดภัยดี จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างตัวว่าอยู่เบื้องหลัง เหตุที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอียิปต์อย่างมาก เพราะเมื่อ 6 เดือนก่อนก็เพิ่งเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 3 คน พร้อมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดในลักษณะเดียวกัน ขณะที่ก่อนหน้านี้ ก็เคยเกิดเหตุประท้วงรุนแรง ตามมาด้วยอุบัติเหตุบอลลูนยักษ์ที่นำนักท่องเที่ยวขึ้นชมทัศนียภาพทางอากาศตก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตไปหลายคน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นบริเวณมหาพีระมิดแห่งกีซา ซึ่งเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ———————————————————- ที่มา : PPTV / 20 พฤษภาคม 2562 Link : https://www.pptvhd36.com/news/103271

ระทึก!โทรศัพท์ลึกลับขู่บึ้มทำเนียบปธน.อาร์เจนฯ หลังชายนิรนามพยามซุกปืนเข้าไปภายใน

Loading

รอยเตอร์ – ทหารอาร์เจนตินาต้องเข้าจัดการกับเหตุการณ์ขู่ระเบิดทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงบัวโนสไอเอสในันจันทร์ (13พ.ค.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังชายคนหนึ่งถูกจับกุมฐานพยายามซุกอาวุธปืนเข้าไปในอาคาร  เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์เอ่ยนามประจำสำนักงานประชาสัมพันธ์ของทำเนียบประธานาธิบดีอาร์เจนตินา เปิดเผยว่าเหตุการณ์นี้เป็นการขู่ทางโทรศัพท์ โดยเสียงในสายนั้นบ่งชี้ว่ามีแผนซุกระเบิดไว้ภายในรถยนต์ กองทัพได้ดำเนินการตามระเบียบการด้านความมั่นคงสำหรับรับมือกับภัยคุกคามลักษณะดังกล่าว และได้ส่งคณะทำงานไปยังคาซา โรซาดา ซึ่งเป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดีและที่ทำการรัฐบาลแห่งชาติ อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วไม่พบรถยนต์ซุกซ่อนระเบิดและก็ไม่จำเป็นต้องอพยพผู้คนใด ๆ  รอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันได้ว่าประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี อยู่ในคาซา โรซาดา ในตอนที่มีโทรศัพท์ลึกลับเข้ามาข่มขู่หรือไม่ แต่ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ระบุว่าเขาได้พบปะกันนักธุรกิจชายรายหนึ่งที่ทำเนียบประธานาธิบดีในเช้าวันเดียวกัน การขู่ระเบิดนี้มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมชายคนหนึ่งซึ่งพกอาวุธปืนพยายามเข้าไปในทำเนียบปะธานาธิบดี และอ้างว่าจำเป็นต้องพบกับ มาครี ตามคำแถลงอีกอันของทำเนียบประธานาธิบดี ขณะที่เมืองแห่งนี้เคยถูกขู่ระเบิดหลอกๆมาแล้วหลายครั้ง ในนั้นรวมถึงก่อนหน้าการประชุมจี 20 เมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระบุว่า อาเรียล มูนิซ วัย 36 ปี พยายามเข้าไปในอาคารพร้อมด้วยปืนพกลูกโม่ แม็กนัม เทารัส .44 ซุกอยู่กระเป๋าเอกสารและบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขามีนัดหมายกับประธานาธิบดีมาครี หลังจากพวกเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีกำหนดนัดหมายดังกล่าว เขาก็พยายามทิ้งปืนไว้ ทั้งนี้ในถ้อยแถลงบอกว่า มานิซ ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม มาครี ซึ่งก้าวเข้ารับตำแหน่งในปี 2015 จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกสมัยในเดือนตุลาคม ในศึกเลือกตั้งที่น่าจะเป็นการต่อสู้อย่างเข้มข้น หลังจากเขามีคะแนนนิยมลดต่ำลงในผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและค่าเงินเปโซอ่อนค่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งเกิดเหตุุโจมตีด้านนอกอาคารรัฐสภาของอาร์เจนตินา ส่งผลให้สมาชิกสภาผู้แทนระดับอาวุโสคนหนึ่งและผู้ช่วยของเขาเสียชีวิต…

ศรีลังกายังเฝ้าระวังก่อการร้าย ออกกฎห้ามสวมชุดคลุมหน้า

Loading

          ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา ออกคำสั่งห้ามสวมเครื่องแต่งกายปิดบังหน้าตา เริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา อ้างเหตุผลด้านความมั่นคงภายหลังกลุ่มอิสลามิสต์ระเบิดโจมตีวันอีสเตอร์ฆ่าเหยื่อ 253 คน ขณะเจ้าหน้าที่เตือนสมาชิกเครือข่ายนี้ยังมีแผนก่อเหตุซ้ำ และอาจปลอมตัวเป็นทหาร         ข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2562 ว่าประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาขอใช้อำนาจภายใต้คำประกาศภาวะฉุกเฉิน ห้ามการแต่งกายทุกชนิดที่ปิดบังใบหน้าเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ คำสั่งห้ามนี้เริ่มมีผลทันทีในวันจันทร์         “การห้ามนี้ก็เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ ไม่ว่าใครก็ไม่ควรปิดบังใบหน้าที่ทำให้ยากต่อการแสดงตัวตนของบุคคลนั้น” คำแถลงกล่าว โดยไม่ได้ระบุโดยตรงถึงเครื่องแต่งกายของสตรีมุสลิม ทั้งชุดนิกอบที่เปิดเผยแค่ดวงตา และบุรกาที่คลุมศีรษะอย่างมิดชิด แม้ว่าคำสั่งนี้จะมีความหมายเป็นนัยถึงเครื่องแต่งกายดังกล่าวก็ตาม         ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ องค์กรครูสอนศาสนาอิสลามในศรีลังกาได้ออกมาเรียกร้องสตรีมุสลิมหลีกเลี่ยงการคลุมหน้าในสถานที่สาธารณะ เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่นักรบอิสลามิสต์ซึ่งประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโรงแรมหรู 3 แห่งในเมืองหลวง และโบสถ์คริสต์อีก 3 แห่งระหว่างการประกอบพิธีมิสซาเนื่องในวันอีสเตอร์ ทำให้มีคนเสียชีวิตรวม 253…