วุฒิสภาสหรัฐฯ ชี้ปัญหาด้านความปลอดภัย-งานข่าวกรอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภา 6 ม.ค.

Loading

  คณะกรรมาธิการวุฒิสภา 2 ชุดร่วมกันออกรายงานที่แสดงให้เห็นถึง “ความล้มเหลวด้านงานรักษาความปลอดภัยและงานข่าวกรองจำนวนหนึ่ง” ที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและระหว่างการก่อการจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา รายงานร่วมดังกล่าวที่ได้รับการเปิดเผยออกมาในวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่า “วันที่ 6 มกราคม ปี ค.ศ. 2021 นั้นไม่เพียงแต่เป็นวันที่จะถูกจดจำว่าเป็นวันเกิดเหตุโจมตีระบอบประชาธิปไตย แต่ยังชี้ให้เห็นว่า องค์กรที่รับผิดชอบด้านการรักษาความปลอดภัยและการปกป้องอาคารรัฐสภาและทุกคนที่อยู่ในพื้นที่นั้น ไม่ได้มีการเตรียมตัวรับมือกับการโจมตีขนานใหญ่ แม้จะมีความตระหนักดีเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุรุนแรงที่พุ่งเป้ามายังอาคารรัฐสภาแล้วก็ตาม” คณะกรรมาธิการด้านกฎและด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของวุฒิสภาร่วมกันทำการสอบสวนเหตุจลาจลตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเชิญผู้รับผิดชอบดูแลหน่วยงานตำรวจประจำรัฐสภาและหน่วยงานรักษากฎหมายอื่นๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งอดีตและปัจจุบันของกระทรวงกลาโหมและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เข้าให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และยังตรวจสอบเอกสารหลายพันชุด ประกอบเอกสารคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาอีก 50 นายด้วย รายงานดังกล่าวสรุปว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดในวันที่ 6 มกราคมนั้น คือ ความล้มเหลวของงานด้านข่าวกรอง ที่ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ ประเมินและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุรุนแรงและภัยคุกคามต่อรัฐสภารวมทั้งสมาชิกทั้งหลายที่อยู่ในอาคารในวันดังกล่าวให้กับหน่วยงานรักษากฎหมาย     คณะกรรมาธิการทั้งสองยังชี้ด้วยว่า ความล้มเหลวที่กล่าวมานั้นรวมความถึง การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) หรือกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ทำการประเมินภัยคุกคามใดๆ แม้จะมีเสียงเรียกร้องผ่านช่องทางออนไลน์ให้มีการก่อเหตุความรุนแรงที่อาคารรัฐสภามาสักระยะแล้ว รวมทั้งหน่วยงานด้านข่าวกรองของทีมตำรวจประจำรัฐสภาไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับภัยคุกคามรุนแรงให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เลย นอกจากประเด็นความล้มเหลวแล้ว คณะกรรมาธิการทั้งสองยังตำหนิทีมงานรักษาความปลอดภัยของอาคารรัฐสภาที่ไม่ยอมร้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังสำรองของรัฐ ล่วงหน้าก่อนวันที่ 6…

FBI ใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับใบหน้า ค้นหาและจับกุมผู้ชุมนุมที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐสภาได้ จากรูปบน IG ของแฟนสาว

Loading

Huffington Post เปิดเผยบันทึกการจับกุม จากเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI กรณีจับกุม Stephen Chase Randolph ผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาสหรัฐฯ (USCP) เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับใบหน้า เทียบภาพจากเหตุการณ์กับภาพบนอินเทอร์เน็ต จนพบรูปเขาบน IG ของแฟนสาว ก่อนจะสืบสวนและเข้าจับกุมได้ในที่สุด ในรายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่รวบรวมภาพเหตุการณ์จากวิดีโอบน Instagram แสดงเหตุการณ์ชายหนุ่มสวมหมวกสีเทาคนหนึ่ง เข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่โดยการผลักรั้วกั้นไปกระแทกจนเจ้าหน้าที่ล้มหัวฟาดบันได และหมดสติ ในการชุมนุมวันที่ 6 มกราคม 2021 ก่อนนำภาพใบหน้าชายสวมหมวกสีเทาจากแอคเคาท์ @SeditionHunters แอคเคาท์ทวิตเตอร์ที่เผยแพร่ใบหน้าผู้ชุมนุมรัฐสภาสหรัฐฯ มาเทียบ และพบว่าเป็นชายหนุ่มคนเดียวกับในวิดีโอ เจ้าหน้าที่ FBI จึงใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับใบหน้าแบบ open source เพื่อเทียบใบหน้าของเขากับรูปภาพบนอินเทอร์เน็ต ก่อนจะพบภาพ Stephen สวมหมวกสีเทาแบบเดียวกับในวันชุมนุม บนโพสต์ Instagram ที่เปิดเป็นสาธารณะของแฟนสาวเขา และต่อยอดการสืบไปจนพบชื่อจริงของเขาจากบัญชี Facebook คนในครอบครัว และตรวจสอบยืนยันอีกครั้งจากใบขับขี่ของรัฐ      …

ตำรวจสภาสหรัฐเสียชีวิต หลังคนร้ายซิ่งเก่งชนด่าน

Loading

    ตำรวจประจำรัฐสภา ในกรุงวอชิงตันของสหรัฐ เสียชีวิตหลังคนร้ายขับรถพุ่งชนจุดตรวจ แล้วลงมาใช้มีดแทงเจ้าหน้าที่ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ว่าสำนักงานตำรวจรัฐสภาสหรัฐรายงานความคืบหน้า จากเหตุการณ์คนร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าชนเครื่องกีดขวางของหน้าที่ ซึ่งตั้งเป็นแนวกั้นบริเวณอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุลงจากรถแล้วใช้มีดแทงเจ้าหน้าที่ “อย่างน้อย 1 นาย” นั้น เจ้าหน้าที่นายหนึ่งเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล คือ เจ้าหน้าที่วิลเลียม อีแวนส์ ยังไม่มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุ แต่ระบุว่า ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภามานาน 18 ปี ขณะที่ตำรวจอีกนายหนึ่งยังคงต้องพักรักษาตัว   Statement on the Loss of USCP Colleague Officer William "Billy" Evans: https://t.co/JMAEbTcbAp pic.twitter.com/DPvkAv5ptO — U.S. Capitol Police (@CapitolPolice) April 2, 2021 Large…

‘ชวน’แจงสัญญาณไฟไหม้ มีมือดีกดทำวุ่น แต่หาตัวไม่ได้เหตุไร้กล้องซีซีทีวี

Loading

  เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 จากกรณี เมื่อเวลา 19.25 น.ระหว่างที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กำลังประท้วงการทำหน้าที่ของประธาน ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ .. พ.ศ. …. วาระสาม ปรากฏว่า ได้เกิดเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังไปทั่วอาคารรัฐสภา ทั้งห้องสื่อมวลชน รวมถึงในห้องประชุมรัฐสภา จนเกิดความแตกตื่น โดย ส.ส.หลายคนต่างลุกขึ้นยืนอย่างตื่นตระหนกนั้น     ล่าสุด เมื่อเวลา 20.10 น.หลังจากพักการประชุม นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้แจ้งต่อที่ประชุม ว่า ได้รับรายงานกรณีเสียงสัญญาณเตือนภัยไฟไหม้ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า ระบบรักษาความปลอดภัยจากจอควบคุมสัญญาณเตือนภัย ปรากฏจุดที่เกิดสัญญาณเตือนไฟไหม้ที่ฝั่งอาคารวุฒิสภา บริเวณชั้น 3 ส่วนกลางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งปรากฎเป็นระบบแมนนวล หมายความว่า “มีคนกดปุ่มเตือนภัย” แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวยังไม่มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวี จึงยังไม่สามารถหาตัวบุคคลดังกล่าวได้   ———————————————————————————————————————————————————- ที่มา…

จับ 2 ชายมะกันทำร้ายตำรวจ เหตุการณ์บุกสภาคองเกรส

Loading

จับ 2 ชายมะกันทำร้ายตำรวจ เหตุการณ์บุกสภาคองเกรส เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐได้จับกุมและตั้งข้อหาชาย 2 คนที่ฉีดสเปรย์ป้องกันสัตว์ป่าใส่ นายไบรอัน ซิคนิค เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาที่เสียชีวิตไป เมื่อวันที่ 6 มกราคม ในเหตุการณ์กลุ่มผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้ารัฐสภา อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสเปรย์ป้องกันสัตว์ป่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตหรือไม่ นายจอร์จ ตานิโอส วัย 39 ปี จากเมืองมอร์แกนทาวน์ รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย และนายจูเลียน คาเตอร์ วัย 32 ปี จากรัฐเพนซิลเวเนีย ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ในหลายข้อหา ทั้งทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐด้วยอาวุธอันตราย ข้อหาสมคบคิดและข้อหาอื่นๆ ส่วนแนวคิดที่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจซิคนิคตายหลังจากถูกฉีดด้วยสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นทฤษฎีใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้เอง อัยการของรัฐบาลกลางได้ระบุตัวตนและตั้งข้อหาทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตทั้ง 5 ศพจากเหตุการณ์บุกรัฐสภา โดยผู้ประท้วงหลายคนถูกตั้งข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทั้งใช้ไม้ตี ฉีดสเปรย์ ต่อย เตะ และปิดประตูรั้วเหล็กอย่างแรงเพื่อกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ระบุว่า ในตอนแรกทีมสืบสวนเชื่อว่านายซิคนิคถูกตีด้วยถังดับเพลิงเข้าที่หัว โดยอ้างอิงจากหลักฐานที่พบในตอนแรก แต่ต่อมาได้พบหลักฐานเพิ่มเติมจึงทำให้ทีมสืบสวนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจซิคนิคได้รับสารเคมีเข้าไป…

ตำรวจกรุงวอชิงตันหวั่นเหตุฉุกเฉิน! ขอกำลังสำรองประจำการต่ออีกสองเดือน

Loading

  ตำรวจกรุงวอชิงตันขอให้กองกำลังสำรองแห่งชาติ หรือ เนชันแนลการ์ด ส่งสมาชิกประจำการในเมืองหลวงของสหรัฐฯ ราว 5,000 คน ต่อไปอีกสองเดือน เนื่องจากกังวลว่าอาจเกิดการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาหรือสถานที่สำคัญอื่น ๆ ในกรุงวอชิงตันอีก เจ้าหน้าที่การทหารของสหรัฐฯ กล่าวกับวีโอเอว่า ทางเนชันแนลการ์ดกำลังพิจารณาคำขอนี้ ซึ่งหากรับรองก็จะทำให้มีกองกำลังสำรองของสหรัฐฯ ประจำการในกรุงวอชิงตันจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม จากเดิมที่จะประจำการถึงวันที่ 12 มีนาคมนี้ คำขอจากตำรวจกรุงวอชิงตันมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานข่าวกรองว่าอาจมีกลุ่มคนติดอาวุธวางแผนก่อเหตุในกรุงวอชิงตันอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม ทำให้มีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้นตลอดวันนี้ ก่อนหน้านี้ กลุ่มขวาจัดบางกลุ่มในอเมริกาพยายามเผยแพร่แนวคิดว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาทำพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งอีกครั้งในวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ใช้ในการปฏิญาณตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1933 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นวันที่ 20 มกราคมจนถึงปัจจุบัน การรักษาความปลอดภัยในกรุงวอชิงตันเพิ่มความเข้มงวดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม เมื่อผู้สนับสนุนทรัมป์หลายร้อยคนบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อขัดขวางการรับรองนายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายในเหตุการณ์ดังกล่าว   ———————————————————————————————————————————————————- ที่มา : VOA Thai   …