ห้ามหรือยุ? สหรัฐฯ เตือนรัสเซียอย่าแตะต้อง ‘เทคโนโลยีเซนซิทีฟ’ ของอเมริกาในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน

Loading

    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังรัฐวิสาหกิจพลังงานนิวเคลียร์ Rosatom ของรัสเซียว่า “อย่าได้แตะต้อง” เทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีความเปราะบางของอเมริกาภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียของยูเครน ซึ่งถูกกองทัพรัสเซียเข้าไปยึดเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อน   สำนักข่าว CNN รายงานว่า แอนเดรีย เฟอร์ไคล์ ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานนโยบายไม่แพร่กระจายนิวเคลียร์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายลงวันที่ 17 มี.ค. ปี 2023 ไปถึงผู้อำนวยการใหญ่ของ Rosatom โดยระบุว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย “มีฐานข้อมูลทางเทคนิคด้านนิวเคลียร์ที่ผลิตในสหรัฐฯ และถูกส่งออก (ไปยังยูเครน) ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา”   ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีกฎหมายควบคุมเข้มงวดสำหรับการส่งออกสินค้า ซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยีใด ๆ ก็ตามซึ่งอาจจะถูกนำไปใช้งานในลักษณะที่บ่อนทำลายความมั่นคงของอเมริกา   โรงไฟฟ้าซาปอริซเซียซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปถูกกองกำลังรัสเซียบุกยึดไว้ตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว และเคยถูกตัดการเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนบ่อยครั้งเนื่องจากรัสเซียยิงถล่มอย่างหนักในพื้นที่ จนทำให้ทั่วยุโรปหวาดกลัวว่าอาจจะเกิดหายนะนิวเคลียร์ขึ้น   แม้รัสเซียจะยังคงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยูเครนปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงไฟฟ้าได้ตามเดิม ทว่าการบริหารจัดการทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของ Rosatom   กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เตือน Rosatom ว่า การอนุญาตให้พลเมืองหรือองค์กรของรัสเซียเข้าไปจัดการเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จะถือว่า “ผิดกฎหมาย”  …

‘นอร์เวย์’ เนรเทศนักการทูตรัสเซีย 15 คน ‘ฐานเป็นสายลับ’

Loading

  รัฐบาลนอร์เวย์ สั่งขับเจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซีย 15 คน “เพราะแท้จริงแล้วเป็นสายลับ” ขณะที่รัฐบาลมอสโกลั่น “พร้อมตอบโต้”   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า กระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ออกแถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประกาศให้เจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซีย 15 คน “เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา” เนื่องจาก “แท้จริงแล้ว” บุคคลกลุ่มนี้ “เป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง” และต้องเดินทางออกไป “ภายในระยะเวลาที่กำหนด” ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าคือเมื่อใด   Norway declares 15 intelligence officers working at the Russian embassy in Oslo personae non gratae. The 15 intelligence officers have been engaging in activities that are…

เพนตากอนเร่งสอบ เอกสารลับเกี่ยวกับสงครามยูเครนหลุดว่อนโซเชียล

Loading

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณีที่ข้อมูลลับด้านการทหารของสหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เกี่ยวกับสงครามในยูเครน ถูกนำไปเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์   CNN ได้ตรวจสอบภาพสกรีนช็อตบางส่วนที่เผยแพร่บน Twitter และ Telegram แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นภาพจริงหรือผ่านการตัดต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นภาพจริง โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับสงครามที่เพนตากอนจัดทำขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเอกสารดังกล่าวถูกแก้ไขในบางจุด   ซาบรินา ซิงห์ รองเลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของเพนตากอน ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับความถูกต้องของเอกสารดังกล่าว แต่ระบุในแถลงการณ์ว่า กระทรวงกลาโหมรับทราบรายงานเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ และกระทรวงกลาโหมกำลังตรวจสอบเรื่องนี้   ด้าน มีไคโล โปโดลีแอก ที่ปรึกษาหัวหน้าสำนักประธานาธิบดียูเครน กล่าวผ่านช่อง Telegram ส่วนตัวว่า เขาเชื่อว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ พร้อมทั้งระบุว่าเอกสารที่รั่วไหลและถูกนำไปเผยแพร่บนสื่อโซเชียลนั้นไม่ใช่ของจริง โดยข้อมูลจำนวนมากที่ถูกอ้างอิงนั้นเป็นข้อมูลที่แต่งขึ้น และไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับแผนการที่แท้จริงของยูเครน   รายงานข่าวระบุว่า เอกสารที่ปรากฏนั้นไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือไม่ก็ตาม มุ่งนำเสนอเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า การวางแผนตอบโต้ของยูเครนจะเริ่มขึ้นเมื่อใด และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการเตรียมการของอีกฝ่าย   ภาพหนึ่งที่เผยแพร่ในช่อง Telegram ของรัสเซีย และได้รับการตรวจสอบโดย CNN คือภาพถ่ายเอกสารฉบับพิมพ์ชื่อ…

“ฟินแลนด์” สร้างรั้วกั้นพรมแดน “รัสเซีย”

Loading

  ฟินแลนด์เดินหน้าสร้างรั้วกั้นพรมแดนรัสเซีย ด้านรัสเซียประกาศตอบโต้ในทันที กรณีฟินแลนด์เข้าเป็นสมาชิกนาโต   ฟินแลนด์เดินหน้าโครงการสร้างรั้ว   ฟินแลนด์ได้ทำการสร้าง “รั้ว” ความยาวทั้งสิ้นราว 200 กิโลเมตร กั้นพรมแดนกับรัสเซีย เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนจากรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย โดยเป็นรั้วที่มีความสูง 3 เมตร และติดตั้งเซนเซอร์ไฟฟ้าเอาไว้ด้วย คาดว่าจะใช้เวลาราว 4 ปีจึงจะเสร็จสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบจากทั้งรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านของฟินแลนด์   รั้วดังกล่าว จะติดตั้งไว้บริเวณจุดข้ามแดนเมืองอิมาตรา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีเพียงรั้วเล็ก ๆ ที่กั้นระหว่างสองประเทศเอาไว้เท่านั้น   หน่วยยามพรมแดนของฟินแลนด์เปิดเผยว่า ก่อนการระบาดของโควิด-19 มีประชาชนราว 13,000 คน ข้ามพรมแดนไปมาในแต่ละวัน ทำให้ถนนบริเวณพรมแดนเต็มไปด้วยรถราที่ต่อคิวข้ามแดน แต่ปัจจุบัน เหลือเพียงวันละไม่กี่ร้อยคนที่เดินทางข้ามพรมแดนระหว่างรัสเซียและฟินแลนด์   โดยจากสถิติเมื่อปี 2015 มีชาวรัสเซียข้ามพรมแดนเข้ามายังฟินแลนด์อย่างผิดกฎหมายราว 5,000 คน แต่ปัจจุบัน แทบไม่มีการข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายในแถบเมืองอิมาตราอีกเลย   ประชาชนในเมืองชายแดนของฟินแลนด์ ระบุว่า พวกเราจำเป็นต้องมีรั้วกั้นที่แน่นหนา รั้วที่สูง เพราะจะได้ไม่มีใครสามารถข้ามมาได้อีก   ทั้งนี้…

เปิดใจเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรัสเซีย ผู้แปรพักตร์และหนีออกนอกประเทศ

Loading

  อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันกลางเปิดเผยเรื่องราวการหลบหนีออกจากประเทศหลังทนไม่ไหวกับสงครามยูเครน พร้อมเรื่องเล่าเกี่ยวกับปูติน   นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. 2022 มีชาวรัสเซียหลายคนที่ตัดสินใจหลบหนีออกจากประเทศตัวเอง อาจจะด้วยเหตุผลเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร เพื่อหนีจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ หรืออาจจะลี้ภัยเพื่อความปลอดภัย โดยจากการประเมินเชื่อว่ามีชาวรัสเซียมากถึง 900,000 คนที่หนีออกจากประเทศตัวเอง   ที่น่าสนใจคือ ในจำนวนชาวรัสเซียที่หลบหนีออกมา มีส่วนเล็ก ๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วย หนึ่งในนั้นคือ “เกล็บ คาราคูลอฟ” วิศวกรผู้ตัดสินใจหอบภรรยาและลูกหลบหนีไปยังตุรกี     แต่คาราคูลอฟไม่ใช่ผู้แปรพักตร์ธรรมดา เพราะเขายังมีสถานะเป็นถึง “เจ้าหน้าที่หน่วยงานป้องกันกลาง (FSO)” ของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานย่อยของหน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย โดยเป็นผู้รับผิดชอบด้านการสื่อสาร ซึ่งรู้รายละเอียดในชีวิตของปูตินและข้อมูลที่อาจเป็นความลับ   คาราคูลอฟหนีไปยังตุรกีเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2022 พร้อมกับภรรยาและลูกสาว เขาปิดโทรศัพท์เพื่อปิดกั้นข้อความที่ส่งมาหาเขาด้วยความเกรี้ยวกราด   คาราคูลอฟเล่าว่า เขาตัดสินใจออกมา เพราะเขาต่อต้านการรุกรานยูเครน รวมกับความกลัวที่จะตาย ทำให้เขาต้องออกมา และเลือกที่จะออกมาพูดแม้ว่าจะมีความเสี่ยงต่อตัวเขาเองและครอบครัวก็ตาม   เขาบอกว่า เขาหวังว่าตัวเองจะเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวรัสเซียคนอื่น ๆ ออกมาพูดเช่นกัน…

รัสเซียจับหญิงต้องสงสัย ถือระเบิดซุกรูปปั้นสังหารบล็อกเกอร์สายทหารชื่อดัง

Loading

    ทางการรัสเซียเปิดเผยว่า ได้จับกุมหญิงสาวที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 เมษายน) ซึ่งส่งผลให้ วลาเดน ทาทาร์สกี (Vladlen Tatarsky) บล็อกเกอร์สายทหารชื่อดังและผู้สนับสนุนการทำสงครามบุกยูเครน เสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บกว่า 30 คน   สื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นระหว่างที่ทาทาร์สกีกำลังจัดงานพูดคุยกับผู้คนอยู่ภายในร้านกาแฟดังกล่าว ก่อนที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะนำกล่องใส่รูปปั้นครึ่งตัวของเขาไปมอบให้ และเกิดระเบิดขึ้น   โดยพยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า มีหญิงสาวซึ่งบอกว่าตัวเองชื่อนาสเทีย ได้พูดคุยกับทาทาร์สกี และบอกว่าเธอได้ทำรูปปั้นครึ่งตัวของเขา แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขอให้วางไว้ที่ประตูเพราะกลัวเป็นระเบิด ซึ่งเธอเล่าด้วยความตลกพร้อมกับหัวเราะ ก่อนจะเดินไปหยิบรูปปั้นมามอบให้ทาทาร์สกี และเขาได้วางไว้ที่โต๊ะข้าง ๆ ก่อนที่จะเกิดระเบิดตามมาจนทำให้ผู้คนวิ่งหนีกันอย่างโกลาหล   คณะกรรมการสืบสวนแห่งชาติของรัสเซียเปิดเผยผ่านข้อความที่โพสต์ลงในแอปพลิเคชัน Telegram ว่าหญิงต้องสงสัยคนดังกล่าวคือ ดาเรีย ทรีโอโปวา (Darya Tryopova) วัย 23 ปี   โดยกระทรวงกิจการภายในของรัสเซียได้เผยแพร่คลิปวิดีโอในเวลาต่อมา แสดงให้เห็นถึงการสอบสวนทรีโอโปวา ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้นำระเบิดเข้าไปในร้านกาแฟ และในคลิปเจ้าหน้าที่สอบสวนถามว่าใครเป็นผู้ให้ระเบิดแก่เธอ แต่เธอปฏิเสธที่จะตอบ โดยบอกว่าจะให้ข้อมูลในภายหลัง   ทั้งนี้ รายงานจากสื่อท้องถิ่นยังระบุว่า ทรีโอโปวาเคยถูกจับกุมก่อนหน้านี้จากการเข้าร่วมเดินขบวนต่อต้านสงคราม  …