อาเซียนงานเข้าด้วย! รัสเซียแฉอาวุธล้ำสมัยที่ตะวันตกมอบให้ยูเครนไหลบ่าสู่ตลาดมืด

Loading

  รัสเซียในวันพฤหัสบดี (20 ต.ค.) เปิดเผยว่าเสบียงอาวุธล้ำสมัยที่ตะวันตกมอบให้แก่ยูเครน กำลังหลุดเข้าสู่ตลาดมืด และจากนั้นจะตกไปอยู่ในมือก่อการร้าย พวกหัวรุนแรงและองค์กรอาชญากรรมทั้งหลายในตะวันออกกลาง แอฟริกากลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นการรุกรานในยุโรปครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 บรรดามหาอำนาจตะวันตกได้ส่งมอบอาวุธต่าง ๆ แก่ยูเครน ในความพยายามช่วยกองกำลังเคียฟสู้รบกับทหารมอสโก   มาเรีย ชาคาโรซา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า สมาชิกนาโต้ส่งระบบจรวดและปืนใหญ่แก่ยูเครนอย่างน้อย 700 กระบอก ระบบขีปนาวุธ 80,000 ลูก กระสุนปืนใหญ่ 800,000 ลูก และกระสุนปืน 90 ล้านนัด   “จำนวนมากของอาวุธเหล่านี้ได้เข้าสู่ตลาดมืดแล้ว หรือจะเข้าสู่ตลาดมืดเร็ว ๆ นี้” ซาคาโรวาบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงมอสโก “เวลานี้ประชาคมโลกกำลังเจอปัญหานี้”   ชาราโควา ไม่ได้บอกว่าคำประเมินของเธออ้างอิงหลักฐานใด ๆ แต่กล่าวต่อว่า “สินค้าทางทหารของนาโต้ตกไปอยู่ในมือของพวกก่อการร้าย พวกหัวรุนแรง และแก๊งอาชญากรรมในตะวันออกกลาง แอฟริกากลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”  …

รัสเซียเรียกร้องหน่วยงานรัฐแบน WhatsApp

Loading

  สมาชิกรัฐสภารัสเซียออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลรัสเซียเลิกใช้โปรแกรมแชท “WhatsApp” ของเมตา หลังเมตาถูกรัสเซียจัดเป็นกลุ่มก่อการร้าย   รอยเตอร์รายงานว่านายแอนตัน โกเรลคิน รองประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภาฝ่ายข้อมูลข่าวสารของรัสเซียได้ออกมาเรียกร้องเจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐยุติการใช้แอปพลิชัน WhatsApp ของเมตา หลังจากรัสเซียได้ประกาศให้ “เมตา” อยู่ในลิสต์กลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งสั่งบล็อคเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ซึ่งเป็นของเมตาไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากอนุญาตให้มีการโพสต์โจมตีทหารรัสเซียที่ปฎิบัติการอยู่ในยูเครน อย่างไรก็ตาม WhatsApp ยังคงใช้และนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่คนรัสเซีย   โกเรลคินกล่าวว่าตัวเขาได้ลบแอปนี้ไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมเรียกร้องให้มีการแบนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในหน่วยงานราชการ ทั้งระดับรัฐและท้องถิ่น โดยเรียกร้องให้รัสเซียพัฒนาแอปแชท ของตัวเองออกมาใช้แทน   รัสเซียประสบปัญหาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคม หลังจากถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร ขณะที่บริษัทระหว่างประเทศจำนวนมาก รวมทั้งอุตสาหกรรมด้านการโทรคมนาคมก็ย้ายออกจากประเทศ ซึ่งรัสเซียกำลังหาทางพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปของตนเอง เพื่อจะได้ยุติการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก     ภาพจาก  GETTY IMAGES         ——————————————————————————————————————————– ที่มา :                   …

จะเกิดอะไรขึ้นหลังรัสเซียประกาศใช้กฎอัยการศึก

Loading

Ukraine Russia   เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศใช้กฎอัยการศึกในดินแดนสี่แห่งของยูเครนที่รัสเซียเข้ายึดและอ้างว่าเป็นดินแดนของตน   แม้รัสเซียจะเข้ายึดเขตปกครองดอแนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริห์เชีย เพียงฝ่ายเดียว และไม่ได้มีอำนาจควบคุมพื้นที่เหล่านี้อย่างเต็มที่ แต่รัสเซียก็ประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่เหล่านี้ เสมือนว่าเป็นพื้นที่ของตน   กฎหมายที่มีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2002 นี้ ไม่เคยถูกประกาศใช้มาก่อน และจะถูกใช้ได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียเผชิญการรุกราน หรือ”ภัยต่อการถูกรุกรานแบบฉับพลัน”   รอยเตอร์ประเมินเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหลังผู้นำรัสเซียประกาศใช้กฎอัยการศึกดังต่อไปนี้   การระดมพล   กฎอัยการศึกของรัสเซียกำหนดให้มีการระดมกำลังพลโดยทั่วไปหรือระดมกำลังพลบางส่วน   อย่างไรก็ตาม รัสเซียได้เริ่มระดมพลบางส่วนแล้วทั้งในประเทศ และในดินแดนของยูเครนที่รัสเซียยึดครอง ดังนั้น จึงยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารัสเซียจะเรียกระดมพลเพิ่มหรือไม่   กฎอัยการศึกมอบอำนาจให้ทางการรัสเซียประกาศใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อ “สนองความต้องการของกองกำลังติดอาวุธรัสเซีย” และเพื่อ “ปกป้องดินแดน”   วิตาลี คิม ผู้ว่าการแคว้นมีโคลาอีฟทางตอนใต้ของยูเครน ระบุว่า เขาเชื่อว่ารัสเซียประกาศใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อให้รัสเซีย “ระดมกำลังจากประชาชนของเราที่ยังเหลืออยู่” ในดินแดนของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง   ทั้งนี้ การบังคับให้พลเมืองต้องปฏิบัติหน้าที่ในกองกำลังของฝั่งที่เข้ายึดครอง…

รัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วยูเครน เคียฟหวั่นเกิดวิกฤติ

Loading

  ยูเครนยอมรับ ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียสร้างความเสียหายให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศแล้ว “ราว 1 ใน 3” เพิ่มความกังวลว่า อาจส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของประชาชน   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ระลอกใหม่ของรัสเซีย ที่เกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าของยูเครน “ประมาณ 30%” และเตือนชาวยูเครนเพิ่มการตื่นตัวและเตรียมความพร้อมรับมือ กับภาวะขัดข้องด้านกระแสไฟฟ้า น้ำประปา และระบบทำความร้อน เนื่องจากการโจมตีของกองทัพรัสเซีย “หนักหน่วงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”   Another kind of Russian terrorist attacks: targeting ?? energy & critical infrastructure. Since Oct 10, 30% of Ukraine’s power stations have been destroyed, causing massive…

อียูเตรียมยกระดับป้องกันโครงสร้างพื้นฐาน ผวารัสเซียก่อวินาศกรรมแก้แค้น

Loading

  ยุโรปต้องใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน โทรคมนาคม การขนส่ง และสาธารณูปโภคที่สำคัญอื่น ๆ จากความเป็นไปได้ของการถูกลอบวินาศกรรม บลูมเบิร์กรายงานในวันจันทร์ (17 ต.ค.) อ้างว่าทางคณะกรรมาธิการอียูจะออกคำแนะนำดังกล่าวในช่วงกลางสัปดาห์   นอกจากนี้ สำนักงานบลูมเบิร์ก รายงานด้วยว่า ทางคณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่ “พิมพ์เขียว” ฉบับหนึ่ง สำหรับเป็นแนวทางตอบสนองต่อวิกฤตต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต “สงครามของรัสเซียในการรุกรานยูเครน นำมาซึ่งภัยคุกคามชุดใหม่ บ่อยครั้งมาพร้อมกันในฐานะการโจมตีลูกผสม” เอกสารระบุ พร้อมเน้นว่า “ภัยคุกคามดังกล่าวมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตามหลังเหตุลอบก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1”   ทางกลุ่มมีความกังวลว่ามอสโกจะลงมือแก้แค้นแผนจำกัดเพดานราคาอุปทานก๊าซรัสเซียที่ส่งมอบทางทะเล ด้วยการลอบก่อวินาศกรรมโครงสร้างพื้นฐานในยุโรป   ความกังวลนี้มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังเหตุระเบิดที่ทำให้ท่อลำเลียงก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 เกิดรอยรั่วในทะเลบอลติก และการพบท่อลำเลียงน้ำมันดรูซบา ซึ่งลำเลียงน้ำมันดิบรัสเซียไปยังยุโรป เกิดรอยรั่วในแถบภาคกลางของโปแลนด์   ขณะเดียวกัน การขนส่งทางรถไฟทางเหนือของเยอรมนี ต้องหยุดให้บริการเป็นเวลานานหลายชั่วโมงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตามหลังเกิดเหตุการณ์ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นการลอบก่อวินาศกรรมเล็งเป้าเล่นงายสายเคเบิลสื่อสารไฟเบอร์ออปติก แม้เจ้าหน้าที่ไม่ได้สงสัยว่าเป็นฝีมือของต่างชาติก็ตาม   บรรดาประเทศยุโรปหลายชาติ มีทั้งชี้เป้ารัสเซียทั้งทางตรงและโดยอ้อมในฐานะผู้ร้ายของเหตุลอบก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1 แม้แทบไม่มีหลักฐานใดๆ เลยก็ตาม…

รัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่ม8เมืองยูเครน แก้แค้นระเบิดสะพานไครเมีย

Loading

    รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่หลายเมืองในยูเครน ยังผลให้ประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงทำให้ไฟฟ้าดับในหลายเมือง โดยประธานาธิบดีปูตินถือว่าเป็นการโต้ตอบการโจมตีสะพานไครเมียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา   เช้าวันนี้ (10 ต.ค. 2565) กองทัพรัสเซียเปิดฉากถล่มยูเครนด้วยการยิงขีปนาวุธใส่หลายเมืองทั่วประเทศในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งอยู่ระหว่างชั่วโมงเร่งด่วนของยูเครน ยังผลให้มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้งยังทำลายสาธารณูปโภค เช่น ระบบพลังงานไฟฟ้าและความร้อนในหลายเมือง ด้านประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียประกาศว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการ “แก้แค้น” กรณีระเบิดสะพานไครเมีย ก่อนหน้านี้   ขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งเป้าไปที่ย่านชุมชน สวนสาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยวในย่านธุรกิจของกรุงเคียฟ และอีกหลายเมือง ได้แก่ เมืองลวีฟ, เมืองเตร์โนปิล, เมืองชือร์โตมือร์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของยูเครน, เมืองดนิโปร และเมืองเครเมนชุก ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของยูเครน, เมืองซาโปริซเชีย ทางตอนใต้ และเมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกของยูเครน โดยการระดมยิงขีปนาวุธเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรุนแรง     ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เขาได้สั่งให้เปิดการโจมตีแหล่งพลังงานของยูเครนด้วยขีปนาวุธระยะไกลชุดใหญ่ โดยเป็นการระดมยิงจากทางอากาศ ทางน้ำ และบนบก เพื่อเป็นการโต้ตอบเหตุการณ์ระเบิดสะพานเคิร์ช ที่ไครเมีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ปูตินระบุว่า เป็น…