สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน และกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียยึดครองอยู่ ประกาศอพยพประชาชนไปยังรัสเซีย หลังอ้างว่าถูกโจมตีจากกองกำลังยูเครน ขณะที่ยูเครนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว สื่อรายงานว่าเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในดอนบาสและกองกำลังยูเครนในวันนี้เป็นวันที่ 2 ท่ามกลางความกังวลที่ว่ารัสเซียอาจใช้สถานการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน แหล่งข่าวทางการทูตระบุว่า การปะทะกันในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 ที่มีการทำข้อตกลงหยุดยิง โดยมีเสียงระเบิดดังขึ้นถึง 600 ครั้งในเช้าวันนี้ จากจำนวน 500 ครั้งวานนี้ โดยคาดว่ามาจากกระสุนปืนใหญ่และกระสุนปืนครกขนาด 152 มม.และ 122 มม. ด้านภูมิภาคโรสตอฟ ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของรัสเซีย ได้ประกาศพร้อมรับผู้อพยพจากดอนบาส ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวในวันศุกร์ (18 ก.พ.) ว่า ยูเครนจะต้องรีบเจรจากับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภูมิภาคดอนบาส โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “ผมและท่านประธานาธิบดีเบลารุสมีความเห็นว่ากุญแจสำคัญที่จะนำสันติภาพไปสู่ประชาชนในยูเครน และผ่อนคลายความตึงเครียดก็คือการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ สิ่งที่ยูเครนต้องทำก็คือจะต้องนั่งลงเจรจากับตัวแทนจากดอนบาสเพื่อหาข้อตกลงทางการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และมนุษยธรรมเพื่อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้น” ปธน.ปูตินกล่าว หลังการเจรจากับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ผู้นำเบลารุสในวันนี้ “เป็นที่น่าเสียใจที่ว่า สิ่งที่เรากำลังเห็นก็คือความรุนแรงที่เกิดขึ้นในดอนบาส โดยยูเครนปฏิเสธที่จะทำตามข้อตกลงมินสก์ และปฏิเสธที่จะเจรจากับโดเนตสก์-ลูฮันสก์ และมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีการเปลี่ยนแปลงทุกประเด็นในข้อตกลงมินสก์” ปธน.ปูตินกล่าว นอกจากนี้…