สร้าง semi-sub ยานกึ่งดำน้ำไร้คนขับ

Loading

    ยานพาหนะกึ่งดำน้ำไร้คนขับไม่ใช่เรื่องใหม่ ยานพาหนะประเภทนี้ประกอบได้ไม่ยากเกินความสามารถของนักประดิษฐ์ ทว่า บางครั้งก็ถูกนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ลับๆ โดยเฉพาะการทำเป็นยานสอดแนมข้อมูลต่าง ๆ นานา และหลายครั้งก็ไม่รอดพ้นการตรวจจับ   แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สเตท ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า ได้พัฒนาสร้างยานพาหนะกึ่งดำน้ำไร้คนขับเรียกว่า semi-sub เป็นยานต้นแบบขนาดค่อนข้างเล็กมีความยาว 45 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร สร้างด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นเองและใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ เมื่อทดสอบความเสถียรและความสามารถในการเคลื่อนที่ก็พบว่า semi-sub มีความเร็วสูงสุด 1.5 เมตรต่อวินาที และด้วยความเร็วที่สูงกว่านั้น เรือจะลอยขึ้นเหนือน้ำ ทำให้เกิดการกวนและใช้พลังงานมากขึ้น แต่ที่ความเร็วต่ำ ยานเกือบจะจมอยู่ใต้น้ำและแทบไม่กระเพื่อม ทีมเผยว่า แม้จะยังไม่ขับเคลื่อนแบบอิสระอย่างสมบูรณ์ แต่ semi-sub ก็ตั้งโปรแกรมล่วงหน้าให้ทำงานในลักษณะบางอย่างได้ เช่น ว่ายตามเส้นทางหนึ่งๆ ด้วยตัวเอง หรือตอบสนองต่อวัตถุบางอย่างด้วยการไล่ตามหรือว่ายหนี   หากการทำงานของ semi-sub สมบูรณ์ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างยานพาหนะขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อบรรทุกสินค้าจำนวนมาก เช่น บรรทุกเชื้อเพลิงไปเติมให้กับเรือหรือสถานีในทะเล…

“เดอะ บีสต์” รถประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

Loading

  ชาวอเมริกันมีชื่อเล่นที่ใช้เรียก ‘รถประจำตำแหน่งประธานาธิบดี’ ของพวกเขาว่า ‘เดอะ บีสต์’ ‘คาดิแลค วัน’ ‘สเตจโค้ช’ หรือ ‘รถยนต์หมายเลขหนึ่ง’ ซึ่งปัจจุบันเป็นรถยนต์ยี่ห้อคาดิแลคที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับการเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งประธานาธิบดีโดยเฉพาะ     ‘เดอะ บีสต์’ เข้ามาอยู่ในฐานะรถประจำตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2009 ตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นรถซีดานที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมาเป็น ‘รถยนต์หมายเลขหนึ่ง’ เจนเนอรัล มอเตอร์ส บอกว่าได้นำเทคโนโลยีการผลิตรถกระบะมาใช้กับโครงสร้างรถยนต์รุ่นนี้ แน่นอนว่า ‘เดอะ บีสต์’ กันกระสุนและขีปนาวุธ รวมทั้งกันน้ำ ควัน ฝุ่น สารพิษ ตามมาตรฐานรถประธานาธิบดี เป็นรถที่ทั้งหนาและหนักถึง 9,100 กิโลกรัม ด้วยกระจกสองชั้น และตัวถังหนาพิเศษ ว่ากันว่าแค่ประตูก็หนักพอๆ กับประตูเครื่องโบอิ้ง 757 เลยทีเดียว     ภายในรถมีทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของประธานาธิบดี นอกจากอุปกรณ์ฉุกเฉินด้านการแพทย์แล้ว ยังมีเลือดสำรองสำหรับผู้นำสหรัฐฯ โดยเฉพาะ รวมไปถึงช่องเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์หลากรูปแบบ ทั้งที่ทำจากอะลูมิเนียม เซรามิก และเหล็ก เพื่อการใช้งานได้ทุกสถานการณ์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ…

หวั่นนองเลือด! ตำรวจวอชิงตันเตือนแฟนคลับทรัมป์ ‘ห้ามพกปืน’ เข้าร่วมชุมนุมใหญ่ค้านผลเลือกตั้ง 6 ม.ค.

Loading

  เจ้าหน้าที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เตือนผู้สนับสนุนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อย่าพกปืนมาร่วมชุมนุมคัดค้านผลเลือกตั้งในวันที่ 6 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่สภาคองเกรสจะมีกำหนดรับรองผลมติคณะผู้เลือกตั้งให้ โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ขณะเดียวกันก็มีการเรียกระดมกองกำลังเนชันแนลการ์ดหลายร้อยนายเพื่อควบคุมสถานการณ์ “เราได้รับข้อมูลมาว่า มีคนบางกลุ่มเตรียมที่จะนำอาวุธปืนเข้ามาในเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่รับไม่ได้” โรเบิร์ต คอนที ผู้บัญชาการตำรวจวอชิงตัน ระบุในงานแถลงข่าวที่ศาลาว่าการเมือง พร้อมเตือนว่าผู้ใดก็ตามที่ทำเช่นนั้นหรือพยายามปลุกปั่นความรุนแรงจะถูกจับทันที ด้านกองกำลังเนชันแนลการ์ดของ ดี.ซี. แถลงวานนี้ (4 ม.ค.) ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ราว 300 นายเข้ามาช่วยควบคุมฝูงชน และสนับสนุนภารกิจของของหน่วยดับเพลิงและกู้ชีพ ร่วมกับตำรวจวอชิงตัน, ตำรวจอุทยานแห่งชาติ (US Park Police) และหน่วยซีเคร็ตเซอร์วิส กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มงวดที่สุดในสหรัฐอเมริกา และห้ามมิให้ประชาชนพกปืนอย่างเปิดเผย หรือครอบครองอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาตของท้องถิ่น ผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคน รวมถึงกลุ่มชาตินิยมขวาจัดที่เคยพกปืนไปประท้วงในที่อื่นๆ มาแล้ว คาดว่าจะมารวมตัวกันที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (5) ยาวไปจนถึงวันพุธที่ 6 ม.ค. เพื่อคัดค้านการรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พ.ย.…

เท็ด คาซินสกี ‘ยูนาบอมเมอร์’ มือระเบิดที่ส่งความตายผ่านไปรษณีย์

Loading

IN FOCUS การส่งพัสดุระเบิดของเขากินเวลาต่อเนื่องยาวนานถึง 17 ปี และนับเป็นการติดตามหาตัวคนร้ายที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อาชญากรรมของสหรัฐอเมริกา ที่ฮาร์เวิร์ด คาซินสกีเข้าร่วมการทดลองของเฮนรี เมอร์เรย์ (Henry Murray) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา ที่ทดลองเทคนิค OSS หรือการควบคุมความคิด สำหรับหน่วยงานของซีไอเอ ผลจากการทดลองนี้เองที่ทำให้เท็ดเกิดความคิดเกี่ยวกับการโจมตีและการก่อการร้าย คาซินสกีเลือกเหยื่อของเขาแบบไม่ตั้งใจ สำหรับเขาแล้ว มันคือสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตที่ใช้เทคโนโลยีในการทำลายความสงบสุขของสังคม คดีฆาตกรรมของคาซินสกีมีโทษถึงประหารชีวิต ครอบครัวของเขาให้ข่าวกับสื่อว่า เป็นเพราะสภาพจิตของเขาไม่ปกติ จิตแพทย์คนหนึ่งตรวจและพบอาการโรคจิตเภทแบบหวาดระแวง   สายตาของเขาเหม่อลอย ระหว่างที่ภรรยาของผู้ตายซึ่งเป็นหนึ่งในเหยื่อสังหารของเขาเอ่ยปากถาม “คุณชอบหรือที่จะมีใครขโมยความเป็นไปได้ในการมองเห็นแสงเดือน แสงตะวัน หรือความงดงามของธรรมชาติจากคุณไปตลอดชีวิตที่เหลือ” ก่อนที่ผู้พิพากษาจะประกาศคำตัดสินในวันที่ 4 พฤษภาคม 1998 ลงโทษจำคุก เธโอดอร์ จอห์น คาซินสกี (Theodore John Kaczynski) หรือที่ผู้คนรู้จักกันในชื่อ ‘ยูนาบอมเมอร์’ (Unabomber) ตลอดชีวิตถึง 8 ครั้ง และให้คุมขังไว้ในเรือนจำซึ่งมีการดูแลความปลอดภัยขั้นสูงสุด นับแต่นั้น คาซินสกีต้องไปชดใช้กรรมความผิดที่ เอดีเอ็กซ์ ฟลอเรนซ์ ในรัฐโคโลราโด ที่ซึ่งจัดเป็นเรือนจำที่มีมาตรการควบคุมนักโทษที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ห้องขังของเขามีความกว้างขนาด…