ตุรกีเตือนพลเมืองเสี่ยงถูกโจมตีในสหรัฐฯ และยุโรป ตอบโต้คำเตือนของชาติตะวันตก

Loading

    กระทรวงการต่างประเทศตุรกีออกคำเตือน 2 ฉบับ ให้พลเมืองของตนเพิ่มความระมัดระวังการโจมตีที่เกิดขึ้นจากความเกลียดกลัวอิสลาม เกลียดต่างชาติ และเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐอเมริกาและยุโรป หลังจากพันธมิตรตะวันตกออกคำเตือนพลเมืองของตนในตุรกีให้เพิ่มความระมัดระวังการโจมตีของผู้ก่อการร้าย และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ   ในถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศตุรกี ระบุให้ชาวตุรกีที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปอยู่ในความสงบเมื่อเผชิญกับการคุกคามและการโจมตีจากกลุ่มเหยียดเชื้อชาติและอยู่ห่างจากพื้นที่ซึ่งมีการประท้วงที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น การเพิ่มขึ้นของการกระทำที่เป็นการต่อต้านอิสลามและการเหยียดเชื้อชาติสะท้อนให้เห็นถึงมิติที่เป็นอันตรายของการไม่ยอมรับทางศาสนาและความเกลียดชังในยุโรป   ก่อนหน้านี้สถานทูตของสหรัฐฯ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ในตุรกีได้ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัยสำหรับพลเมืองของตน โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้กลุ่มก่อการร้ายจะก่อเหตุโจมตีโดยมีเป้าหมายคือศาสนสถาน ส่วนสถานทูตสวีเดนแนะนำให้พลเมืองของตนหลีกเลี่ยงสถานที่ซึ่งกำลังมีการประท้วง โดยในกรณีของสวีเดนยังเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีนักการเมืองและกลุ่มแนวคิดขวาจัด มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านอิสลามและเผาคัมภีร์อัลกุรอานที่ด้านหน้าสถานกงสุลตุรกี เพิ่มความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกันที่เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กด้วย           ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา :                        จส.100             …

โดนด้วย! พบเอกสารลับที่บ้านพักอดีตรองปธน.ไมค์ เพนซ์

Loading

      มีการพบเอกสารที่ระบุว่าเป็นความลับ ที่บ้านพักอดีตรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในรัฐอินเดียนา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของเอพี   ทนายของอดีตรองปธน.เพนซ์ เกร็ก เจคอบ เปิดเผยกับเอพีว่า เอกสารดังกล่าว “ดูเหมือนจะมีจำนวนน้อยที่มีเครื่องหมายระบุว่าเป็นเอกสารลับ ซึ่งถูกบรรจุไว้ในกล่องอย่างไม่ตั้งใจ และส่งมายังบ้านพักของอดีตรองปธน.”   เจคอบเพิ่มเติมว่า อดีตรองปธน.เพนซ์ “ไม่ทราบถึงการมีอยู่ของเอกสารที่มีความละเอียดอ่อนหรือเอกสารลับที่บ้านพักของเขา” รวมทั้งให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับหอจดหมายเหตุของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ และนำเอกสารเหล่านั้นไปเก็บไว้อย่างดีหลังพบว่า อยู่ในตู้เซฟ ก่อนที่ทนายของเพนซ์จะระบุว่า สำนักงานสืบสวนกลางของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ได้เดินทางไปที่บ้านพักของเพนซ์เพื่อขอเอกสารเหล่านั้นมา   เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน อดีตรองปธน.เพนซ์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้นำเอกสารของทางการติดตัวกลับมาด้วยเมื่อพ้นจากตำแหน่ง ด้านกระทรวงยุติธรรมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในวันอังคารเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทนายของเพนซ์ ไม่ได้ตอบกลับเพิ่มเติมในช่วงเวลาที่เอพีรายงานข่าวนี้     การค้นพบเอกสารทางการในบ้านพักของอดีตรองปธน.เพนซ์ เกิดขึ้นในช่วงที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษทางกฎหมาย ให้ทำหน้าที่สอบสวนกรณีการจัดเก็บเอกสารลับของไบเดนว่า เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เช่นเดียวกับที่กำลังมีการตรวจสอบกรณีพบเอกสารลับที่บ้านพักของทรัมป์     ที่มา  เอพี     ——————————————————————————————————————————————————————– ที่มา…

สหรัฐฯ เสนอแก้กฎหมาย แพลตฟอร์มโซเชียลต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาของผู้ใช้

Loading

  สหรัฐอเมริกามีกฎหมายความเหมาะสมด้านการสื่อสาร (Communications Decency Act) ที่ออกในปี 1996 เน้นควบคุมเนื้อหาอนาจารในอินเทอร์เน็ต กฎหมายฉบับนี้มีมาตราสำคัญคือ มาตรา 230 ที่มีสาระสำคัญว่า ผู้ให้บริการไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ผู้ใช้โพสต์ลงบนแพลตฟอร์ม มาตรา 230 เป็นแกนกลางสำคัญของการถกเถียงเรื่องเนื้อหาของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในช่วงหลัง โดยเฉพาะในยุคข่าวปลอมระบาด เพราะกลายเป็นยกประโยชน์ให้แพลตฟอร์มไม่ต้องรับผิดใด ๆ ในขณะที่มีหลายฝ่ายเริ่มมองว่า แพลตฟอร์มจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ผิด ๆ หรือสร้างความแตกแยกในสังคม ก่อนหน้านี้ได้มีความพยายามจะแก้ไขมาตรานี้แล้วแต่ไม่สำเร็จ ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็เคยเรียกร้องให้มีกฎหมายคุ้มครองเยาวชนในทางออนไลน์ และเสนอให้แก้มาตรา 230 ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด คณะกรรมาธิการด้านพลังงานและการพาณิชย์ (House Energy and Commerce Commitee) ของสภาผู้แทนราษฏร ได้โหวตผ่านร่างกฎหมาย American Data Privacy and Protection Act (ADPPA) ที่มุ่งคุ้มครองความเป็นส่วนตัวข้อมูลของผู้ใช้มากขึ้นและจำกัดการยกเว้นจากความรับผิดชอบของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่ ในคำแถลงการณ์ของรัฐบาลได้ชมเชยว่าทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างให้ความสนใจกับการผ่านร่างกฎหมาย ADPPA และสนับสนุนให้ยุติ “การคุ้มครองทางกฎหมายเป็นพิเศษสำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่” (special legal protections for…

สหรัฐฯ ตั้งข้อหาชายอิหร่าน วางแผนลอบสังหารอดีตที่ปรึกษารัฐบาลทรัมป์

Loading

สหรัฐฯ ตั้งข้อหาชายชาวอิหร่าน ว่าวางแผนส่งหารนาย จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในยุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ในวันพุธที่ 10 ส.ค.2565 ตั้งข้อหานาย ชาห์ราม ปูร์ซาฟี สมาชิกกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ว่าวางแผนสังหารนาย จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในยุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อล้างแค้นให้นายพล กอเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการมากอิทธิพลของกองทัพอิหร่าน พลเอก สุไลมานี เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง Quds หัวหน้าปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคตะวันออกกลาง ก่อนจะถูกสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศสังหารที่สนามบินแบกแดน ในอิรัก เมื่อเดือนมกราคม 2563 โดยเป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นตามคำสั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตามแถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ นายปูร์ซาฟี หรือ เมห์ดี เรซายี อายุ 45 ปี ซึ่งตอนนี้อยู่ในกรุงเตหะราน พยายามจ่ายเงินจ้างบุคคลในสหรัฐฯ ด้วยเงิน 300,000 ดอลลาร์…

สหรัฐฯ เครียด! ต้องการมันสมองนอกประเทศ แต่กลัวถูกจารกรรมข้อมูล

Loading

FILE – In this July 16, 2019, file photo people walk past an entrance to Widener Library, behind, on the campus of Harvard University, in Cambridge, Mass. International student enrollment in U.S. universities has retreated in the past three years.   ในเวลานี้ นักการเมืองสหรัฐฯ กำลังถกประเด็นหาวิธีที่จะช่วยให้อเมริกาได้เปรียบจีนในศึกการแข่งขันความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีกันอยู่ และบางคนเชื่อว่า ผู้นำจีนก็กำลังหวังว่า สิ่งที่สหรัฐฯ กำลังพยายามทำอยู่นี้ จะจบลงด้วยความล้มเหลว มุมมองดังกล่าวนั้นสะท้อนภาพความกังวลในแวดวงงานวิจัยของสหรัฐฯ ที่มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งเป็นด่านหน้าในการดำเนินงานด้านการค้นคว้าเพื่อพัฒนาประเทศและป้องกันการถูกหาประโยชน์จากจีน อย่างไรก็ดี ผลวิจัยล่าสุดระบุว่า นักวิชาการ 3…

สหรัฐฯ สอบเหตุมือดีลอบวางระเบิดแท่งหิน “สโตนเฮนจ์แห่งอเมริกา”

Loading

  สหรัฐฯ เร่งสอบสวนหาเบาะแส เหตุระเบิดบริเวณแท่งหินแกรนิต ฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งอเมริกา” ล่าสุด จนท.ตัดสินใจทำลายซากเสาหินที่เหลืออยู่ทิ้ง เพื่อความปลอดภัย ช่วงรุ่งสางของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุระเบิดรุนแรง บริเวณแท่งหิน “จอร์เจีย ไกด์สโตนส์” (Georgia Guidestones) อนุสาวรีย์หินแกรนิต ที่คนในพื้นที่เรียกกันว่า “สโตนเฮนจ์แห่งอเมริกา” ตั้งอยู่กลางทุ่งในชนบท ทางตะวันออกของเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย       แรงระเบิดทำให้แท่งหินต้นหนึ่งพังถล่ม เศษซากแตกกระจัดกระจายเต็มพื้น ขณะที่สำนักงานสอบสวนรัฐจอร์เจีย (GBI) ระบุว่า น่าจะมีคนจุดชนวนระเบิด เนื่องจากหลังตรวจสอบภาพวงจรปิด พบว่ามีคนขับรถออกจากจุดเกิดเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว       ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตัดสินใจทำลายซากเสาหินที่ยังอยู่เหลือทั้งหมด จากเหตุผลด้านความปลอดภัย สำหรับแท่งหิน “จอร์เจีย ไกด์สโตนส์” ซึ่งมีความสูง 19 เมตร หนัก 119 ตัน ประกอบด้วยเสาหินแกรนิตทั้งหมด 5 ต้น โดย 1 ต้น…