สหรัฐไม่เอาด้วย กฎหมายควบคุมหุ่นยนต์นักฆ่า ช่องโหว่ อาวุธสังหารรูปแบบใหม่

Loading

  ในที่ประชุมสหประชาชาติ เจ้าหน้าของของสหรัฐรายหนึ่งได้ปฏิเสธการเรียกร้องให้มีข้อตกลงที่มีผลผูกพันและควบคุมหรือห้ามใช้หุ่นยนต์นักฆ่า แทนที่จะเสนอหลักจรรยาบรรณที่ควรจะมี . โดย Josh Dorosin เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอ้างว่า การมีกฏหมายผูกมัดนั้น จะทำให้การพัฒนาเครื่องมือหรืออาวุธทางการทหารไม่เกิดความก้าวหน้า . ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติได้เป็นเจ้าภาพการเจรจาทางการทูตในกรุงเจนีวาตั้งแต่ปี 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับการใช้หุ่นยนต์นักฆ่า ทำให้นักเคลื่อนไหวในหลาย ๆ ประเทศ กำลังเรียกร้องให้มีคำสั่งห้ามใช้อาวุธใดสังหารใด ๆ ก็ตามโดยที่ไม่มีมนุษย์คอยดูแล . ในเดือนพฤศจิกายน 2018 หัวหน้าองค์การสหประชาชาติ António Guterres ได้เข้าร่วมเรียกร้องคำสั่งห้ามดังกล่าว แต่จนถึงขณะนี้ประเทศต่างๆ ยังไม่เห็นด้วยว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีกฏหมายควบคุมหุ่นยนต์นักฆ่า . แน่นอนว่าเมื่อประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาออกมาตอบโต้แล้วว่า ไม่เห็นด้วยว่าจะต้องมีกฏหมาย ประเทศอื่น ๆ ก็อาจจะตามน้ำเช่นกัน ฉะนั้นแปลว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โลกเราอาจมีอาวุธสังหารที่เป็นหุ่นยนต์มากขึ้นครับ ที่มาข้อมูล https://www.theguardian.com/us-news/2021/dec/02/us-rejects-calls-regulating-banning-killer-robots   ที่มา : techhub                 /  วันที่เผยแพร่ 3…

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนหลายแห่ง เหตุเป็นภัยต่อความมั่นคง

Loading

AFP   สหรัฐฯ จัดการแบนบริษัทจีนอีกระลอก สงสัยมีเอี่ยวนำเทคโนโลยีของอเมริกาไปช่วยพัฒนากองทัพจีน วันที่ 25 พ.ย. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทำการเพิ่มบริษัท 27 แห่งใน จีน ปากีสถาน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เข้าไปในบัญชีดำทางการค้า ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและความกังวลของนโยบายต่างประเทศ โดยบางรายมีการช่วยเหลือกองทัพจีนในการพัฒนาระบบควอนตัมคอมพิวเตอร์ จินา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การขึ้นบัญชีดำรอบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ถูกนำไปใช้พัฒนาทางการทหารให้กับจีนและรัสเซีย รวมถึงกิจกรรมทางนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธในปากีสถาน   โดยในจำนวนนี้ มีบริษัทจีนถึง 8 บริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ จากการพัฒนาเทคโนโลยีให้กับกองทัพปลอดปล่อยประชาชนจีน และพยายามที่จะนำสิ่งของที่มาจากสหรัฐฯ ไปใช้ทางการทหาร ซึ่งมีรายชื่อดังนี้   Hangzhou Zhongke Microelectronics Co Ltd Hunan Goke Microelectronics New H3C Semiconductor Technologies Co Ltd Xi’an…

จนท.ถูกฉีดสารเสพติดที่คอในคอนเสิร์ต ‘ทราวิส สก็อตต์’ ขณะฝูงชนเหยียบกันตาย

Loading

  เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ รับรายงานว่ามี จนท.รักษาความปลอดภัยถูกฉีดสารเสพติดเข้าที่คอกลางคอนเสิร์ต ‘ทราวิส สก็อตต์’ ขณะเกิดเหตุเหยียบกันตาย รอการยืนยันที่แน่ชัด เว็บไซต์ แชนแนลนิวส์เอเชีย รายงาน สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลดที่งานเทศกาลดนตรี ‘แอนโทรเวิลด์ เฟสติวัล’ ซึ่งจัดขึ้นที่ เอ็นอาร์จี พาร์ค เมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส เมื่อแฟนเพลงราว 50,000 เบียดเสียดเข้าไปชมคนเสิร์ตของ ทราวิส สก็อตต์ แร็ปเปอร์ชื่อดัง จนเหยียบหรือทับกันตายถึง 8 ศพ และมีผู้ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล 25 ราย ซึ่งบางรายเป็นลมหมดสติ ขณะที่บางรายมีอาการหัวใจหยุดเต้น     ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ได้เริ่มต้นสอบสวนเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมกับทีมนักสืบฝ่ายฆาตกรรมกรรมและยาเสพติด หลังจากที่ได้รับรายงานว่ามีผู้คนในฝูงชนฉีดสารเสพติดเข้าไปในร่างกายของผู้ชมคอนเสิร์ตรายอื่น หนึ่งในนั้นคือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ระบุว่า รู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มเข้าไปที่ต้นคอก่อนหมดสติ ส่วนเจ้าหน้าที่การแพทย์พบรอยเข็มฉีดยาบริเวณคอของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวยังอยู่ระหว่าการสอบสวนและยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรอผลชันสูตรพลิกศพของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้     ที่มา: CNA     ——————————————————————————————————————————————– ที่มา :    ไทยรัฐออนไลน์ …

สหรัฐฟ้องอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน พยายามล้วงความลับด้านอากาศยาน

Loading

    อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของจีน ตกเป็นจำเลยในสหรัฐ ฐานพยายามจารกรรมข้อมูล จากบริษัทด้านเทคโนโลยีอากาศยานหลายแห่ง   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ว่ากระทรวงยุติธรรมของสหรัฐออกแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ ว่าคณะลูกขุนใหญ่มีมติสั่งฟ้อง นายสวี หยานจุน อดีตเจ้าหน้าที่ระดับรองผู้อำนวยการฝ่าย สังกัดกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของจีน ในความผิดข้อหาเกี่ยวกับ การสมคบคิดและการพยายามจารกรรมข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจ และการสมคบคิดและการพยายามจารกรรมข้อมูลสำคัญทางการค้า จากบริษัทด้านเทคโนโลยี และวิศวกรรมอากาศยานหลายแห่ง   Jury Convicts Chinese Intelligence Officer of Espionage Crimes, Attempting to Steal Trade Secretshttps://t.co/TcWcSUzMTZ — National Security Division, U.S. Dept of Justice (@DOJNatSec) November 5, 2021   ทั้งนี้ ศาลแขวงรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตันจะเป็นผู้ประกาศบทลงโทษต่อจำเลย ซึ่งบทลงโทษจำคุกเป็นเวลานานระหว่าง 25-60 ปี…

สหรัฐฯ ตั้งค่าหัวกลุ่ม ransomware DarkSide 10 ล้านดอลลาร์ กลุ่มอื่นที่เกี่ยวข้องให้ 5 ล้านดอลลาร์

Loading

  สหรัฐฯ ประกาศตั้งรางวัลนำจับให้กับผู้ให้เบาะแสไปยังบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลงกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ DarkSide โดยรางวัลสูงสุด 10 ล้านดอลลาร์ โดยตัวเลข 10 ล้านนี้เป็นเพดานสูงสุดเท่านั้น ทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้บอกเกณฑ์การให้รางวัลนำจับว่าต้องทำอย่างไรจึงได้รางวัลสูงสุดเช่นนี้ แต่ตัวรางวัลครอบคลุมเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมทั้งผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่ม DarkSide เองและกลุ่มผู้นำมัลแวร์ไปใช้เพื่อแบ่งผลประโยชน์ (affiliate) ประกาศระบุเหตุผลที่ให้รางวัลสูงเช่นนี้ว่าเกิดจากเหตุการณ์ปิดท่อส่งน้ำมัน Colonial Pipeline ที่กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นวงกว้างจนต้องประกาศมาตรการฉุกเฉิน โครงการรางวัลนำจับกลุ่มอาชญากรข้ามชาติของสหรัฐฯ เปิดมาตั้งแต่ปี 1986 และนำไปสู่การจับกุมกลุ่มอาชญากรแล้ว 75 กลุ่ม รวมจ่ายรางวัลไปแล้ว 135 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท ประกาศครั้งนี้ยังระบุว่าหากเป็นมัลแวร์ตัวอื่นๆ ที่ดัดแปลงไปจากมัลแวร์ของกลุ่ม DarkSide ก็มีรางวัลให้สูงสุด 5 ล้านดอลลาร์ด้วย   ที่มา – US Department of State   ———————————————————————————————————————————————————– ที่มา : Blognone.by lew         …

สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ 4 บริษัทเทคฯต่างชาติ พัฒนาสปายแวร์เจาะล้วงข้อมูล

Loading

  สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ 4 บริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ ฐานพัฒนาและจัดหาสปายแวร์เจาะล้วงข้อมูลให้กับรัฐบาลต่างชาติ และว่าระบบดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้เพื่อมุ่งเป้าโดยมีเจตนาร้ายและเป็นอันตราย ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ สื่อมวลชน นักธุรกิจ นักเคลื่อนไหว และนักวิชาการ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหาว่าบริษัททั้ง 4 แห่ง ได้แก่ NSO Group และ Candiru ของอิสราเอล บริษัท Positive Technologies ของรัสเซีย และบริษัท Computer Security Initiative Consultancy PTE. LTD. ของสิงคโปร์ เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ขัดต่อความมั่นคงของชาติหรือขัดต่อผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ บริษัททั้ง 4 แห่งจะเผชิญกับมาตรการกีดกันการส่งออกสินค้าและบริการมายังสหรัฐฯ ที่เข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งบริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ จะขายข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสินค้าและบริการของบริษัทเหล่านี้ได้ยากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า นี่เป็นความพยายามในการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยในโลกดิจิทัล การต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และลดโอกาสการสอดส่องเฝ้าระวังที่ผิดกฎหมายสำหรับประชาชน ตามรายงานของรอยเตอร์ บริษัททั้ง 4 ไม่ได้ให้ความเห็นต่อการถูกขึ้นบัญชีดำจากรัฐบาลสหรัฐฯในครั้งนี้   (มีเนื้อหาบางส่วนจากรอยเตอร์)   —————————————————————————————————————————————————– ที่มา…