ศาลสหรัฐฯ สั่งจำคุก 22 ปี หญิงแคนาดาพยายามวางยาพิษ “โดนัลด์ ทรัมป์”

Loading

  หญิงชาวแคนาดาวัย 56 ปี ถูกตัดสินจำคุก 22 ปีในสหรัฐฯ จากคดีส่งจดหมายเจือพิษไรซิน (Ricin) ให้กับ “โดนัลด์ ทรัมป์”   ปาสคาล เฟอร์ริเยร์ หญิงชาวแคนาดาวัย 56 ปี ถูกตัดสินจำคุก 22 ปีในสหรัฐฯ จากคดีส่งจดหมายเจือพิษไรซิน (Ricin) ให้กับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในเดือนกันยายน 2020 เมื่อครั้งที่เขายังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเธอสารภาพผิดในข้อหาใช้อาวุธชีวภาพ   ซองจดหมายมรณะที่จ่าหน้าถึงทรัมป์ถูกสกัดไว้ได้ก่อนจะส่งไปยังทำเนียบขาว ซึ่งเฟอร์ริเยร์บอกกับศาลว่า เธอ “เสียใจที่แผนของเธอล้มเหลว” และเสียใจที่เธอ “หยุดทรัมป์ไม่ได้”     ในการชี้แจงต่อศาล เธอยังบอกด้วยว่า เธอมองว่าตัวเองเป็นนักเคลื่อนไหว ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย “ฉันต้องการหาวิธีสันติเพื่อบรรลุเป้าหมายของฉัน”   สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) รายงานว่า พบลายนิ้วมือของเธอในจดหมายที่ส่งถึงทรัมป์ ซึ่งมีเนื้อหาขอให้เขาถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเธอเขียนว่า “ฉันมีชื่อใหม่ให้คุณแล้ว: ‘ตัวตลกเผด็จการอัปลักษณ์’”   แด็บนีย์…

ศัตรูมีหนาว! กองทัพจีนคืบหน้าครั้งสำคัญ วิจัยอาวุธเลเซอร์ยิงได้ไกลทุกพิสัยตามต้องการ

Loading

แฟ้มภาพจากนาวิกโยธินสหรัฐฯ   นักวิทยาศาสตร์ของประสบความคืบหน้าครั้งสำคัญในงานวิจัยพัฒนาอาวุธเลเซอร์พลังงานสูง ที่สามารถยิงเป้าหมายได้ไกลเท่าใดก็ได้ตามความปรารถนาของผู้ปฏิบัติการ โดยไม่สามารถขัดขวางและประสิทธิภาพของมันก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อย   บรรดานักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีป้องกันตนเองแห่งชาติ ในเมืองฉางชา ประเทศจีน เผยแพร่ผลการวิจัยของพวกเขาที่ผ่านการตรวจทานจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ในวารสาร Acta Optica Sinica ในเดือนนี้ อ้างว่าได้พัฒนาระบบหล่อเย็นใหม่หนึ่งขึ้นมา ซึ่งมันทำให้การปฏิบัติการเลเซอร์พลังงานสูงแบบไร้ขีดจำกัดนั้นมีความเป็นได้ โดยปราศจากผลกระทบของภาวะร้อนเกินไปแต่อย่างใด   “นี่คือความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบเลเซอร์พลังงานสูง” ทีมงานวิจัยกล่าวในเอกสารการวิจัย “ลำแสงคุณภาพสูง ไม่ได้แค่สามารถผลิตออกมาในวินาทีแรก แต่มันยังคงศักยภาพไว้อย่างไม่มีขีดจำกัด”   ระบบหล่อเย็นจะควบคุมการไหลของกระแสแก๊ส สำหรับเข้าไปขจัดความร้อนภายในอาวุธเลเซอร์ ป้องกันการสั่นและเหตุติดขัดต่าง ๆ มันสามารถปฏิบัติการได้นานขึ้น มีพิสัยทำการเพิ่มขึ้นและมีพลานุภาพการโจมตีมากกว่าเดิม จากคำกล่าวอ้างของพวกนักวิจัย พร้อมเน้นว่ากว่า 60 ปีนับตั้งแต่มีการประดิษฐ์เลเซอร์ทับทิมเป็นครั้งแรก พวกนักพัฒนาอาวุธไม่เคยสามารถสร้าง “ลำแสงมรณะที่สามารถจัดการกับเป้าหมายต่าง ๆ อย่างทันทีทันใดได้เลย”   สหรัฐฯ ได้ยกเลิกโครงการอาวุธเลเซอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดบางส่วนไปแล้ว แม้มันสามารถสอยร่วงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำในการทดสอบ “เหตุผลที่แท้จริงของการยกเลิกโครงการต่าง ๆ เหล่านี้คือ พลานุภาพการทำลายล้างของมันไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง” จากความเห็นของเหล่านักวิทยาศาสตร์จีน   อาวุธลักษณะนี้มักก่อลำแสงพลังงานสูงที่ทำให้อุณหภูมิแก๊สพุ่งสูงระหว่างการเดินทาง ขณะที่มันพุ่งผ่านอากาศ จนก่อให้เกิดความปั่นป่วน ผลกระทบนี้อาจทำให้ลำแสงบิดเบี้ยว บั่นทอนความแม่นยำและความเข้มข้นของมัน นอกจากนี้…

จนท.ฮาวายโต้เสียงวิจารณ์เรื่องไม่เปิดเสียงไซเรนเตือนไฟป่า

Loading

  เจ้าหน้าที่รัฐฮาวายของสหรัฐฯ ชี้แจงสาเหตุที่ไม่เปิดเสียงไซเรนเตือนภัยในช่วงที่เกิดไฟป่ารุนแรง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 110 ศพ   เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (16 ส.ค. 2566) หัวหน้าฝ่ายบริหารเหตุฉุกเฉินของเกาะเมาวี กล่าวปกป้องการตัดสินใจของหน่วยงานต่อประเด็นเรื่องการเปิดเสียงไซเรนในช่วงที่เกิดไฟป่ารุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางคำถามว่าการทำเช่นนั้นอาจช่วยชีวิตผู้คนได้หรือไม่   เฮอร์แมน อันดายา ผู้บริหารสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินเขตเมาวี เคาน์ตี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เสียงไซเรนในฮาวายใช้เพื่อเตือนผู้คนให้ระวังสึนามิ การใช้มันขณะเกิดไฟไหม้อาจทำให้ผู้คนต้องอพยพไปยังจุดอันตราย   ไฟไหม้ทุ่งหญ้าเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ลุกลามลงมาจากฐานของภูเขาไฟที่ลาดลงสู่เมืองลาไฮนา เมืองท่องเที่ยวชื่อดัง คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 110 ศพ และทำลายหรือสร้างความเสียหายให้กับอาคารราว 2,200 หลัง   นายอันดายา กล่าวระหว่างการแถลงข่าว เมื่อนักข่าวตั้งคำถามถึงการตอบสนองของรัฐบาลระหว่างที่เกิดไฟป่าว่า “ประชาชนถูกฝึกให้หนีไปยังที่สูงในกรณีที่เสียงไซเรนดังขึ้น หากเราเปิดไซเรนในคืนนั้น เราเกรงว่าผู้คนจะไปรวมตัวกันบริเวณไหล่เขา และถ้าเป็นเช่นนั้น พวกเขาคงเข้าไปในกองไฟแล้ว”   เขากล่าวว่า เมาวีใช้ระบบเตือนภัย 2 ระบบแทนการเปิดไซเรน ระบบหนึ่งจะส่งข้อความไปยังโทรศัพท์ และอีกระบบหนึ่งจะเป็นการออกอากาศข้อความฉุกเฉินทางโทรทัศน์และวิทยุ และเสริมว่า เนื่องจากเสียงไซเรนจะดังในพื้นที่ที่อยู่ริมทะเลเป็นหลัก พวกมันจึงไร้ประโยชน์สำหรับคนที่อาศัยอยู่บนที่สูง  …

เกาหลีเหนืออ้างทหารอเมริกันแปรพักตร์ เพราะถูกเหยียดสีผิวในกองทัพ

Loading

  สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า ทหารอเมริกันแปรพักตร์มาเกาหลีเหนือ เพราะต้องการหนีจากการถูกปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม และการถูกเหยียดสีผิวในกองทัพสหรัฐฯ   เกาหลีเหนือยืนยันว่า สาเหตุที่ทหารสหรัฐฯ หนีเข้าไปในเกาหลีเหนือเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากเผชิญความไม่เท่าเทียมในสังคมอเมริกันและการเหยียดผิวในกองทัพ การเปิดเผยครั้งนี้ นับเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับการกักขัง พลทหาร ทราวิส คิง ซึ่งหนีเข้าไปยังเกาหลีเหนือ ขณะเข้าไปปะปนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวเขตปลอดทหาร เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม เขากลายเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกควบคุมตัวในเกาหลีเหนือในรอบเกือบ 5 ปี   สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการของเกาหลีเหนือ กล่าวว่า คิงบอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า เขาตัดสินใจเดินทางเข้าเกาหลีเหนือเพราะเขา “เก็บงำความรู้สึกไม่ดีต่อการปฏิบัติทารุณต่อมนุษย์และการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติภายในกองทัพสหรัฐฯ”   คิงยังแสดงความเต็มใจที่จะลี้ภัยในเกาหลีเหนือหรือประเทศที่สาม โดยกล่าวว่าเขา “ไม่แยแสต่อสังคมอเมริกันที่ไม่เท่าเทียมกัน”   ครอบครัวของคิงเคยให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า คิงเคยบอกกับพวกเขาว่า เขาเผชิญประสบการณ์การเหยียดเชื้อชาติในกองทัพ พวกเขายังกล่าวอีกว่าสุขภาพจิตของเขาดูเหมือนจะแย่ลงก่อนที่เขาจะหายตัวไป   อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของความคิดเห็นของคิง ที่รายงานในสื่อของเกาหลีเหนือ โดยสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และประเทศอื่น ๆ กล่าวหาเกาหลีเหนือว่าใช้ผู้ถูกคุมขังต่างชาติเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการทูต ผู้ถูกคุมขังชาวต่างชาติบางคนกล่าวหลังจากได้รับการปล่อยตัวว่า การประกาศความผิดของพวกเขาขณะอยู่ในการควบคุมตัวของเกาหลีเหนือนั้นอยู่ภายใต้การบังคับขู่เข็ญ   ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า นี่คือโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ 100%…

สุดล้ำ! การชำระเงินแบบใหม่ในสหรัฐฯ แค่ “สแกนฝ่ามือ” ก็เรียบร้อย

Loading

  อีกขั้นของสังคมไร้เงินสด กับเทคโนโลยีของ “Amazon One” ชำระเงินง่าย ๆ ด้วยการ “สแกนฝ่ามือ” ไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าให้ยุ่งยากอีกต่อไป   การจ่ายเงินเป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ จากเมื่อก่อนที่ต้องใช้เงินสด ปัจจุบันก็มีช่องทางที่เป็นดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปพลิเคชันทางการเงินต่าง ๆ การใช้บัตรเติมเงิน แต่ขณะนี้ที่สหรัฐฯ มีเทคโนโลยีการจ่ายเงินที่ล้ำกว่านั้น นั่นก็คือ “การสแกนฝ่ามือ”   นี่คือเทคโนโลยีของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง แอมะซอน (Amazon) ซึ่งใช้ชื่อว่า Amazon One เป็นเครื่องสแกนหน้าตาเหมือนที่เห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้า แต่จากที่แตะบัตร ก็ใช้วิธีแตะมือเพื่อสแกนแทน   Amazon One ใช้ระบบไบโอเมตริกซ์ (Biometric) หรือการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลทางชีวภาพที่มีลักษณะเฉพาะตัวและไม่ซ้ำใคร โดยจะจดจำลายเส้นบนมือของแต่ละคนในการจำแนก่าใครเป็นใคร ทั้งยังอ่านโครงสร้างเส้นเลือดที่อยู่ใต้ฝ่ามือเพื่อความแม่นยำมากขึ้น เพราะมือของคนทุกคนนั้นมีความซับซ้อนมาก จึงไม่สามารถซ้ำกันได้อย่างแน่นอน   นอกจากนี้ข้อมูลยังถูกปกป้องไว้ด้วยระบบคราวด์ที่ชื่อ AWS Cloud ที่ได้รับการสนับสนุนโดยเครื่องมือรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์มากกว่า 300 รายการและคู่ค้าด้านความปลอดภัย 100,000 รายจากทั่วโลก   ในปัจจุบัน Amazon One…

FBI ส่งทีมช่วยเอกวาดอร์หาตัวผู้อยู่เบื้องหลังลอบสังหารแคนดิเดตประธานาธิบดี

Loading

  เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ของสหรัฐได้เข้าร่วมประชุมกับตำรวจและอัยการของเอกวาดอร์เมื่อวันอาทิตย์ (13 ส.ค.) โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมสืบสวนหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนายเฟอร์นานโด วิลลาวิเซนซิโอ ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเอกวาดอร์   ข่าวการลอบสังหารนายวิลลาวิเซนซิโอ วัย 59 ปีในวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 ส.ค.นั้น ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วประเทศ โดยเอกวาดอร์ซึ่งมีประชาชน 18 ล้านคนได้รับผลกระทบจากแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และนายวิลลาวิเซนซิโอก็ถูกขู่หลายครั้ง แต่เขาประกาศว่าไม่เกรงกลัวแก๊งอาชญากรรมเหล่านี้   ทั้งนี้ นายฮวน ซาปาตา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเอกวาดอร์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ FBI ได้ประชุมร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจเอกวาดอร์และคณะอัยการ เพื่อสืบสวนไปให้ถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้   สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอกวาดอร์ได้จับกุมตัวชาวโคลอมเบียจำนวน 6 รายและตั้งข้อหาอาชญากรรม ขณะที่ผู้ต้องสงสัยอีกรายหนึ่งได้เสียชีวิตหลังจากถูกยิงบาดเจ็บสาหัสภายหลังจากเกิดเหตุลอบยิงนายวิลลาวิเซนซิโอ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าชาวโคลอมเบียเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรม   นายพลมานูเอล อินีกูส ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเอกวาดอร์เปิดเผยว่า นายวิลลาวิเซนซิโอถูกยิงหลายครั้งในขณะที่เขากำลังเดินทางออกจากพื้นที่หาเสียงที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองกีโต นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย   ทั้งนี้ นายวิลลาวิเซนซิโอเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเอกวาดอร์ก่อนที่สมัชชาแห่งนี้จะถูกปิดตัวลงในเดือนพ.ค. และเขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งรอบแรกวันที่ 20 ส.ค.นี้ เพื่อรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีกิเยร์โม ลาสโซ ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นที่เพิ่งเผยแพร่สู่สาธารณชนก่อนเกิดเหตุลอบสังหารไม่นานนั้นได้แสดงให้เห็นว่า นายวิลลาวิเซนซิโอมีคะแนนนิยมอยู่ในอันดับ…