จีนเตือนสายการบินในเอเชียหลีกเลี่ยงบินใกล้ไต้หวัน ก่อนเปิดฉากซ้อมรบตอบโต้สหรัฐฯ

Loading

  จีนประกาศเตือนให้สายการบินต่าง ๆ ที่ให้บริการในเอเชียหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางบินรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นจุดที่จีนจะใช้เป็นสถานที่ซ้อมรบ เพื่อแสดงแสนยานุภาพตอบโต้การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทั้งนี้ สายการบินต่าง ๆ และนายจาง ชางซ็อก เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมเกาหลีเปิดเผยว่า จีนได้ส่งประกาศแจ้งเรื่องการหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางรอบเกาะไต้หวัน โดยจีนกำหนดให้พื้นที่น่านฟ้าจำนวน 6 จุดเป็น “เขตอันตราย” และสั่งห้ามเครื่องบินใช้เส้นทางดังกล่าวตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 4 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น (11.00 น.ตามเวลาไทย) ไปจนถึงเวลา 12.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น (11.00 น.ตามเวลาไทย) สายการบินเซียะเหมินแอร์ไลน์ของจีนได้ประกาศปรับเปลี่ยนตารางการบินหลายเที่ยว โดยอ้างอิงถึงการ “ควบคุมการไหลเวียนของเที่ยวบิน” ในมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเกาะไต้หวันโดยมีเพียงช่องแคบไต้หวันคั่นกลาง ขณะที่โฆษกของสายการบินโคเรียนแอร์ไลน์เปิดเผยว่า สายการบินกำลังวางแผนปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางไปยังเอเชียใต้บางส่วน เพื่อหลีกเลี่ยงน่านฟ้าไต้หวันในช่วงที่จีนปฏิบัติภารกิจซ้อมรบ ส่วนนักการบินของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวย์ได้รับคำแนะนำให้สำรองเชื้อเพลิงพิเศษไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อสำรองใช้เมื่อต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินในไต้หวัน นางเพโลซีเดินทางเยือนกรุงไทเปในช่วงค่ำวานนี้ โดยถือเป็นนักการเมืองอเมริกันระดับสูงสุดที่เดินทางเยือนไต้หวันในรอบ 25 ปี ส่งผลให้จีนออกแถลงการณ์ประณาม และเปิดเผยแผนการตอบโต้ทางเศรษฐกิจและทางทหาร โดยไต้หวันยังคงเป็นประเด็นอ่อนไหวที่สุดระหว่างสหรัฐและจีน และมีความเป็นไปได้ว่าการเยือนไต้หวันของนางเพโลซีจะลุกลามบานปลายจนกลายเป็นความขัดแย้งทางทหาร…

กลุ่มซีอีโอสายการบินใหญ่สหรัฐฯ เตือน ‘5G’ ส่อกระทบการบิน ‘ขั้นหายนะ’

Loading

กลุ่มผู้บริหารสายการบินหลักสำหรับผู้โดยสารและขนส่งอากาศยานของสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่า อุตสาหกรรมการบินในอเมริกาอาจจะเผชิญวิกฤต “ขั้นหายนะ” ในเวลาอีกไม่ถึง 36 ชั่วโมง หากบริษัท AT&T และเวอไรซอน (Verizon) เริ่มให้บริการสัญญาณ 5G แบบใหม่ในวันพุธนี้ (19 ม.ค.) สายการบินต่างๆ เตือนว่าการเปิดใช้สัญญาณ 5G ผ่านย่านความถี่ C-Band อาจจะทำให้เครื่องบินชนิดลำตัวกว้างส่วนใหญ่ไม่สามารถทำการบินได้ “ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารชาวอเมริกันนับแสนๆ คนตกค้างอยู่ในต่างแดน” และจะสร้าง “ความโกลาหล” ครั้งใหญ่ต่อเที่ยวบินของสหรัฐฯ จดหมายซึ่งออกโดยซีอีโอของอเมริกันแอร์ไลน์ส, เดลตาแอร์ไลน์ส, ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส, เซาท์เวสต์แอร์ไลน์ส, ยูพีเอสแอร์ไลน์ส, อะแลสกาแอร์, แอตลาสแอร์, เจ็ตบลูแอร์เวย์ส และเฟดเอกซ์เอ็กซ์เพรส ระบุว่า “หากศูนย์กลางการบินหลักๆ ของเราไม่ได้รับอนุญาตสำหรับการบินขึ้น-ลง การขนส่งผู้โดยสารและสินค้าส่วนใหญ่จะไม่สามารถทำได้” “ว่ากันตรงๆ ก็คือ การค้าของชาติอาจถึงขั้นหยุดชะงัก” สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) เคยออกมาเตือนว่า สัญญาณ 5G อาจจะไปรบกวนอุปกรณ์บนเครื่องบินที่มีความ “ละเอียดอ่อน” เป็นพิเศษ เช่น มาตรวัดระดับความสูง (altimeters) ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการบินในทัศนวิสัยต่ำ…

“เดลตา แอร์ไลน์” ทดสอบระบบจำใบหน้าลดขั้นตอนตรวจสอบ-ประหยัดเวลา

Loading

    สายการบินเดลตา แอร์ไลน์ของสหรัฐฯ เริ่มทดสอบการใช้งานระบบจดจำใบหน้าของผู้โดยสาร ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการตรวจสอบและประหยัดเวลามากขึ้น 29 ต.ค.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้โดยสารที่ต้องการเข้าร่วมการทดสอบจะต้องบันทึกข้อมูลในแอปพลิเคชันของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ และต้องลงทะเบียนกับสำนักงานความมั่นคงด้านการคมนาคม หรือ ทีเอสเอ     ซึ่งผู้โดยสารที่ใช้งานระบบจดจำใบหน้าจะต้องนำสัมภาระไปเช็คอินและโหลดลงสายพานด้วยตัวเอง จากนั้นสามารถเดินขึ้นเครื่องบินได้ ด้วยการสแกนใบหน้า เบื้องต้น การทดสอบระบบดังกล่าวจะเริ่มที่เมืองแอตแลนตา จากนั้นจะขยายไปที่เมืองดีทรอยต์     ผู้อำนวยการสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ กล่าวว่า แนวคิดที่จะใช้ระบบจดจำใบหน้ากับผู้โดยสารมีขึ้นก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 แต่เมื่อเกิดการระบาดขึ้น     จำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างมาก ซึ่งถือเป็นโอกาสดี ที่จะใช้เวลาในช่วงดังกล่าวสร้างระบบและทดสอบการใช้งาน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารยังมีไม่มาก เท่ากับว่าการระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งที่ทำให้แนวคิดนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่วางแผนไว้ ที่มา : AP   —————————————————————————————————- ที่มา : ThaiPBS            / วันที่เผยแพร่ 29 ต.ค.2564 Link…

Bangkok Airways แถลงหลังถูกแฮกข้อมูล ยันไม่มีผลต่อการบิน แต่ขอให้ลูกค้าระวังตัว 2 จุด

Loading

  สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจงกรณีถูกแฮกข้อมูลลูกค้า ยืนยันไม่มีผลกระทบด้านความปลอดภัยด้านการบิน แต่ขอให้ลูกค้าระวังโทรศัพท์ปริศนา อ้างตัวเป็นสายการบินมาขอข้อมูลส่วนตัวกับติดต่อธนาคาร วันที่ 28 สิงหาคม 2564 บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แถลงว่า วันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา สายการบินถูกโจมตีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ส่งผลให้มีการเข้าถึงระบบสารสนเทศของบริษัท โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาต หลังจากที่บริษัทรู้เรื่องดังกล่าว ก็ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมกับตรวจสอบ ควบคุมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันที ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างเร่งด่วน เพื่อระบุข้อมูลที่อาจได้รับความเสียหาย และผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ และจะมีการดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงระบบสารสนเทศของบริษัทให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเข้าถึงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น ชื่อ นามสกุล สัญชาติ เพศ หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลติดต่อสื่อสาร ข้อมูลหนังสือเดินทาง ประวัติการเดินทาง ข้อมูลบัตรเครดิตบางส่วน ข้อมูลอาหารพิเศษของผู้โดยสาร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ผลกระทบต่อการดำเนินการด้านธุรกิจและความปลอดภัยด้านการบิน     คำแนะนำจากสายการบิน ตอนนี้บริษัทรายงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และเพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น แนะนำให้ผู้โดยสารติดต่อไปยังธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรเครดิต ดำเนินการตามคำแนะนำของบริษัทดังกล่าว และเปลี่ยนรหัสผ่านที่อาจได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด…

โทรศัพท์มือถือไหม้บนเครื่องบิน Alaska Airlines จนต้องลงจอดฉุกเฉิน

Loading

  โทรศัพท์มือถือไหม้บนเครื่องบิน โดยพบมือถือร้อนจนไหม้ในห้องโดยสาร ของสายการบิน Alaska Airlines ซึ่งลงจอดฉุกเฉินที่ Seattle จากเมือง New Orleans เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยโทรศัพท์มือถือที่ไหม้นั้น เผยว่าเป็น Samsung Galaxy A21 “หลังจากดูแล้วโทรศัพท์ถูกเผาจนจำไม่ได้”   โทรศัพท์มือถือไหม้บนเครื่องบิน Alaska Airlines โชคดีทุกคนปลอดภัย ผู้โดยสาร 128 คนและลูกเรือ 6 คนถูกส่งโดยรถบัสไปยังอาคารผู้โดยสาร และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากเหตุการณ์นี้ ในขณะที่ฟาก Samsung ยังไม่ตอบกลับมาในเรื่องมือถือไหม้ ขณะที่ฝั่ง Samsung ไม่ได้ตอบกลับสื่อทันที โฆษกของสายการบิน Alaska Airlines ให้สัมภาษณ์กับสื่อ The Verge ว่าลูกเรือของเครื่องบินใช้เครื่องดับเพลิงและถุงเก็บแบตเตอรี่เพื่อหยุดมือถือไหม้ ผู้โดยสารได้รับการอพยพออกจากเครื่องบิน เนื่องจากสภาพภายในห้องโดยสารมีหมอกควันหนา     จากเหตุการณ์นี้ อาจทำให้นึกถึง Samsung Galaxy Note 7 ที่เรียกคืนเนื่องจากกลัวว่าแบตเตอรี่จะระเบิด หรือไหม้ได้…

เบื้องหลังปฏิบัติการอุกอาจ เบลารุสจี้เครื่องบินจับฝ่ายต้านรัฐบาล

Loading

  เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นประเด็นสำคัญของการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างเบลารุสกับชาติตะวันตกที่กระท่อนกระแท่นอยู่แล้ว ขณะนี้เบลารุสกำลังถูกชาติตะวันตกรุมประณามและคว่ำบาตร รวมทั้งไม่บินเข้าน่านฟ้าหลังจากส่งเครื่องบินเจ็ตขึ้นประกบเครื่องบินโดยสารของสายการบิน Ryanair แล้วบีบบังคับให้ลงจอดที่สนามบินในกรุงมิตสก์ของเบลารุส เพื่อจับกุมตัวนักข่าวและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล   1.เครื่องบินของสายการบิน Ryanair เที่ยวบิน FR4978 อยู่ระหว่างการเดินทางจากกรุงเอเธนส์ของกรีซไปยังกรุงวิลนีอุสของลิทัวเนียตามปกติ แต่แล้วขณะอยู่เหนือน่านฟ้าของเบลารุส 2 นาทีก่อนที่เครื่องกำลังจะเข้าสู่น่านฟ้าของลิทัวเนีย ก็ได้รับแจ้งจากหอควบคุมการบินของเบลารุสให้เปลี่ยนเส้นทางกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินในกรุงมินสก์ของเบลารุส โดยอ้างว่าบนเครื่องบินลำดังกล่าวมีระเบิด พร้อมกับส่งเครื่องบินขับไล่ Mig-29 ของกองทัพเบลารุส 4 ลำบินประกบ   2.หลังเครื่องลงจอดเจ้าหน้าที่เบลารุสส่งสุนัขดมกลิ่นมาตรวจสอบสัมภาระของผู้โดยสารทั้งหมด แต่ไม่พบระเบิดตามที่กล่าวอ้าง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเบลารุสได้เข้าไปจับกุมตัว รามัน พราทาเซวิช (Roman Protasevich) นักข่าวและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเบลารุสวัย 26 ปีพร้อมกับ โซเฟีย ซาเพกา แฟนสาวชาวรัสเซีย และพาตัวทั้งคู่ออกไป ส่วนเครื่องบินของ Ryanair หลังจอดชั่วคราว 7 ชั่วโมงก็กับขึ้นบินไปยังจุดหมายปลายทางอีกครั้ง   3.การไม่พบระเบิดนำมาสู่ข้องสังเกตว่า ทางการเบลารุสใช้ระเบิดเป็นอุบายให้เครื่องบินลงจอดเพื่อจับกุมตัวพราทาเซวิช ส่วนสำนักข่าว BelTA ของเบลารุสรายงานว่า ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชงโก เป็นคนสั่งให้เครื่องบินเจ็ตขึ้นบินประกบเครื่องบินของ Ryanair…