กูรูไซเบอร์ชี้ “สิงคโปร์” ถูกแฮกฐานข้อมูลสุขภาพครั้งใหญ่อาจเป็นฝีมือ “รบ.ต่างชาติ”

Loading

  เอเอฟพี – ผู้เชี่ยวชาญเผยการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ ซึ่งทำให้ประวัติการรักษาโรคของประชาชนกว่า 1.5 ล้านคนถูกขโมย น่าจะเป็นฝีมือผู้ก่อการระดับรัฐ (state actors) เมื่อพิจารณาจากขนาดและความซับซ้อนในการเจาะข้อมูล รัฐบาลสิงคโปร์ออกมาแถลงยอมรับเมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) ว่า กลุ่มแฮกเกอร์ได้โจมตีฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข และเข้าถึงประวัติการรักษาโรคของชาวสิงคโปร์ราว 1.5 ล้านคน รวมถึงนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ซึ่งตกเป็นเป้าหมายแบบ ‘เฉพาะเจาะจง’ ของคนร้ายกลุ่มนี้ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ “ผ่านการวางแผนมาอย่างรัดกุม และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่แฮกเกอร์มือสมัครเล่นหรือแก๊งอาชญากรทั่วๆ ไป” เจ้าหน้าที่สิงคโปร์ยังปฏิเสธที่จะระบุตัวตนของแฮกเกอร์กลุ่มนี้ โดยอ้าง ‘ปฏิบัติการด้านความมั่นคง’ แต่ผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์ให้ความเห็นว่า รูปแบบการโจมตีที่สลับซับซ้อนและเน้นเป้าหมายระดับไฮโปรไฟล์อย่างนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง บ่งชี้ว่า น่าจะเป็นฝีมือ ‘ผู้ก่อการระดับรัฐ’ อีริค โฮห์ (Eric Hoh) ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ของบริษัทความมั่นคงไซเบอร์ FireEye เผยกับสำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชีย ว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็น “ภัยคุกคามที่ก้าวหน้า” “ลักษณะการโจมตีบ่งชี้ว่าเป็นการกระทำโดยรัฐ และใช้เครื่องมือที่ทันสมัยมาก… พวกเขามีทั้งทรัพยากร แหล่งทุน…

ทำไมต้องสิงคโปร์? สถานที่ซัมมิต “ทรัมป์-คิม”

Loading

  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่า การประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างผู้นำสหรัฐอเมริกากับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายน นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ “เราทั้งสองจะพยายามทำให้การประชุมสุดยอดเป็นช่วงเวลาพิเศษสุดเพื่อสันติภาพของโลก” ทรัมป์ ทวิตเมื่อวานนี้ ภาพ : AFP   กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ยืนยันเช่นกันว่า สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม นอกจากแสดงความหวังว่าการประชุมสุดยอดนัดหยุดโลกจะช่วยผลักดันอนาคตสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี การยืนยันในเรื่องนี้มีขึ้นหลังการไปเยือนกรุงเปียงยางครั้งที่สองของ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนใหม่ เพื่อหารือเรื่องการประชุมเช่นกัน มีการคาดการณ์กันมาตลอดว่า สถานที่ใดที่จะได้ร่วมจารึกในประวัติศาสตร์สำหรับการประชุมสุดยอดที่ไม่เคยมีใครคาดว่าจะเกิดขึ้นได้ ก่อนหน้านี้ มีการกะเก็งว่าอาจเป็นเขตปลอดทหาร กรุงเทพฯ เองก็เคยติดโผ หรือมองโกเลีย ก่อนมาลงตัวที่สิงคโปร์ซึ่งเป็นตัวเก็ง เนื่องจากหลายเหตุผลประกอบกัน ตั้งแต่ความเป็นกลาง ความปลอดภัย และประสบการณ์จัดประชุมสุดยอดระหว่างประเทศมาหลายครั้ง ประเทศเกาะเล็กแต่สุดทันสมัยมีระบบรักษาความปลอดภัยรัดกุมและได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองปลอดภัยที่สุดในเอเชีย การจำกัดสื่อและการชุมนุมในที่สาธารณะอย่างเข้มงวด เป็นบรรยากาศแวดล้อมที่เกาหลีเหนือน่าจะพอใจ นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังอยู่ในสถานะที่หาได้ยากนั่นคือมีสัมพันธ์การทูตเป็นมิตรกับวอชิงตันและเปียงยาง เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐฯ และมีสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือเปิดดำเนินการเต็มรูปอยู่ในนครรัฐแห่งนี้   ภาพ : ไมค์ ปอมเปโอ -คิม จอง…

สนามบินสิงคโปร์ชางงีเริ่มทดสอบระบบจำแนกใบหน้าเพื่อตามหาตัวผู้โดยสารที่ไม่มาขึ้นเครื่อง

Loading

  ปัญหาของผู้โดยสารหายไม่มาขึ้นเครื่องจนสายการบินต้องประกาศตามนั้นเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้เที่ยวบินล่าช้า เนื่องจากผู้โดยสารอาจกำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ภายในสนามบินจนอาจลืมดูเวลาไม่ได้มาขึ้นเครื่องบินตามกำหนด ล่าสุดท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงีเริ่มทดสอบระบบจำแนกใบหน้าเพื่อตามหาผู้โดยสารหายมาใช้งานในสนามบินแล้ว โดยจะใช้ภาพจากกล้องเปรียบเทียบกับภาพบุคคลในฐานข้อมูลเพื่อตามผู้โดยสารที่อยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ของท่าอากาศยานให้มาขึ้นเครื่อง เพื่อลดระยะเวลาล่าช้าของเที่ยวบินลง Steve Lee หัวหน้าฝ่ายข้อมูลของกลุ่มท่าอากาศยานชางงีกล่าวว่า “เรามีรายงานผู้โดยสารที่หายไปจำนวนมาก ดังนั้นหนึ่งในวิธีที่เราคิดได้คือจะต้องสืบและค้นหาผู้โดยสารที่กำลังจะเดินทาง แน่นอนว่าจะต้องได้รับอนุญาตจากสายการบินด้วย” ปัจจุบัน T4 ซึ่งเป็นเทอร์มินัลใหม่ของสนามบินชางงีก็ได้นำมาใช้ในระบบบริการตนเองบ้างแล้ว เช่น เช็คอิน, แบ็คดรอป, ตรวจคนเข้าเมือง, ขึ้นเครื่องบิน ซึ่งท่าอากาศยานก็เตรียมนำระบบจำแนกใบหน้ามาปรับปรุงใช้ในเทอร์มินัล 1-3 ด้วย ซึ่ง Lee บอกว่าในอนาคตอาจจะสามารถใช้ไบโอเมตริกแทนพาสปอร์ตได้ Lee เผยว่านอกจากระบบรู้จำใบหน้าแล้ว ท่าอากาศยานชางงียังทดสอบเทคโนโลยีใหม่อยู่เรื่อย ๆ อย่างเช่นการใช้เซนเซอร์ตรวจสอบเมื่อเครื่องบินถอยกลับจากเกทหรือเมื่อเทคออฟ ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้ประสิทธิภาพการตัดสินใจสั่งการบนหอบังคับการบินดีขึ้น และลดเวลา taxiing ของเครื่องบินลงได้ถึง 90 วินาทีต่อเที่ยวในช่วงพีค หรือระบบ AI ที่ทำนายสภาพอากาศ, ลม และเส้นทางการแลนดิ้งของเครื่องบินเพื่อทำนายเวลาถึงสนามบินได้แม่นยำขึ้น   —————————————————————————————————————– ที่มา : Blognone nutmos / วันที่ 1…

สิงคโปร์เปิดโปงแผนโกงข้อสอบ “ไฮเทค”

Loading

    ติวเตอร์ชาวสิงคโปร์ยอมรับว่าช่วยนักเรียนชาวจีน 6 คนโกงข้อสอบในปี 2016 ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีการวางแผนอย่างละเอียดซับซ้อน ตัน เจีย หยาน ติวเตอร์คนดังกล่าว เข้าสอบในฐานะผู้สมัครแบบไม่สังกัดโรงเรียน จากนั้นจึงแอบใช้แอปพลิเคชันเฟซไทม์ ส่งคำถามไปให้ผู้ร่วมขบวนการนอกห้องสอบ ซึ่งจะโทรศัพท์ไปบอกคำตอบให้กับนักเรียนอีกทอดหนึ่ง ขณะเดียวกันฝ่ายนักเรียนก็แอบซ่อนโทรศัพท์และอุปกรณ์เชื่อมต่อบลูทูธเอาไว้ในเสื้อผ้า รวมทั้งสวมใส่หูฟังสีเนื้อขณะทำข้อสอบ การสอบดังกล่าวเป็นการสอบวัดระดับการศึกษาของประเทศ ระดับ O-level ซึ่งผู้เข้าสอบส่วนมากเป็นนักเรียนวัย 16 ปี อัยการกล่าวว่า แผนโกงสอบครั้งนี้ถูกเปิดโปงหลังจากผู้คุมสอบได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังออกมาจากหนึ่งในนักเรียนที่ร่วมแผนการ นักเรียนคนดังกล่าวถูกแยกตัวออกมาหลังการสอบ และเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าเขาซ่อนโทรศัพท์ อุปกรณ์บลูทูธ และหูฟังเอาไว้ในเสื้อ อัยการกล่าวว่าในวันแรกของการพิจารณาคดี ว่า น.ส.ตัน และผู้สมรู้ร่วมคิดช่วยนักเรียนทั้งหมด 6 คนโกงการสอบเมื่อเดือน ต.ค. 2016 และ “ปฏิบัติการโกง” ครั้งนี้มี “ความซับซ้อนอย่างมาก” ตามรายงานของ Channel NewsAsia ติวเตอร์วัย 32 ปี ผู้ทำงานที่โรงเรียนกวดวิชา Zeus Education Centre ในขณะนั้น ยอมรับผิดต่อทั้ง…