บัวแก้วเตือนคนไทยในต่างแดน ระวังเพจปลอม-แอบอ้างเป็นจนท.หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว

Loading

กรมการกงสุลได้ประกาศเตือนให้ประชาชนระวังเพจปลอมที่แอบอ้างเป็นกรมการกงสุล ขอให้ประชาชนไม่หลงเชื่อคนที่ขอให้ลงทะเบียนทำหนังสือเดินทาง ขอเพิ่มเป็นเพื่อนในไลน์ หรือเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้ทุกคนทราบว่าเว็บไซต์ของกรมการกงสุลจะลงท้ายด้วย .go.th เท่านั้น

สนามบินทุกแห่งในเวียดนาม เตรียมยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ

Loading

สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ว่าระบบดังกล่าวที่ประยุกต์ใช้กับผู้โดยสาร ซึ่งถือบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการสแกนลายนิ้วมือ อุปกรณ์อ่านบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ กล้องถ่ายภาพ และการจดจำใบหน้า ณ จุดตรวจความปลอดภัย

สื่อแฉ! รัสเซีย ‘ยึดหนังสือเดินทาง’ จนท.ระดับสูง-ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หวั่น ‘แปรพักตร์’ หนีไปต่างประเทศ

Loading

    หน่วยงานความมั่นคงรัสเซียยึดหนังสือเดินทางของเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้คิด “แปรพักตร์” และหลบหนีไปต่างประเทศ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส   รายงานระบุว่า ทำเนียบเครมลินและหน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย (FSB) มีความกังวลว่าเจ้าหน้าที่บางคนอาจคิดหลบหนี เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ทำสงครามรุกรานยูเครน หรือไม่ก็กลัวจะติดร่างแหคว่ำบาตรจนไม่สามารถใช้ชีวิตสุขสบายได้เหมือนเดิม   ไฟแนนเชียลไทม์สอ้างแหล่งข่าวซึ่งเปิดเผยว่า หน่วยความมั่นคงรัสเซียขอให้พวกเจ้าหน้าที่ระดับ “อีลีต” เหล่านี้ส่งมอบหนังสือเดินทาง ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติในยุคสหภาพโซเวียตที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่   สื่อเจ้านี้ไม่ได้ระบุว่าผู้ที่ให้ข้อมูลเป็นใคร แต่ยืนยันว่าเป็น “คนวงใน” ที่ล่วงรู้สถานการณ์ในรัสเซีย และมีมากกว่า 1 คน   แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกจากกรุงมอสโกในระยะทางเกิน 2 ชั่วโมงรถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต   ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีปูติน ยืนยันกับไฟแนนเชียลไทม์สว่า รัฐบาลเครมลินเข้มงวดเรื่องการเดินทางของเจ้าหน้าที่และผู้บริหารระดับสูงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพวกที่ปฏิบัติงานอยู่ในภาคส่วนที่เปราะบาง (sentitive areas)   ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมอังกฤษได้เผยแพร่ข่าวกรองในเดือน มี.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียบางคนถูกขอให้ส่งมอบหนังสือเดินทางแก่หน่วยงานความมั่นคงกลาง ซึ่งน่าจะมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการหลบหนี   อดีตเจ้าหน้าที่ และผู้บริหารของแดนหมีขาวให้ข้อมูลกับไฟแนนเชียลไทม์สว่า…

จากเรื่องเทคโนโลยีใหม่เอื้อให้เข้าสหรัฐสะดวก

Loading

  สหรัฐเข้ายากสำหรับคนไทย เริ่มจากกระบวนการอันยาวนานของการขอวีซ่า จนกระทั่งตอนสุดท้ายเมื่อเดินทางไปถึง ซึ่งมักจะต้องต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอรับการตรวจหนังสือเดินทางและวีซ่า ตามด้วยการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ศุลกากร   ผมเดินทางเข้าสหรัฐนับร้อยครั้งหลังไปอาศัยอยู่ที่นั่นกว่า 50 ปี กระบวนการดังกล่าวนี้แทบไม่เปลี่ยน เนื่องจากผมยังถือหนังสือเดินทางไทยแม้หลังเป็นผู้สูงวัยจะได้รับ “ใบเขียว” หรือวีซ่าถาวรแล้วก็ตาม จนกระทั่งเมื่อผมมาเมืองไทยครั้งล่าสุดและเพิ่งเดินทางกลับไปสหรัฐเมื่อวันที่ 4 มี.ค.   การเดินทางเข้าสหรัฐครั้งนี้ผมจำใจต้องไปเข้าที่เมืองแอตแลนตา ทั้งที่พยายามเลี่ยงที่นั่นเนื่องจากท่าอากาศยานมีขนาดใหญ่และสายการบินใช้บริการมากไม่ต่างกับท่าอากาศยานของมหานครนิวยอร์ก ทั้งนี้เพราะสายการบินทำผิดพลาดส่งผลให้ผมหมดโอกาสเลือก   ผมแปลกใจเมื่อไปถึงเนื่องจากแถวที่รอตรวจหนังสือเดินทางไม่ยาวตามคาด ทั้งที่เป็นช่วงก่อนเที่ยงวัน ซึ่งสายการบินเข้ามากและมีเจ้าหน้าที่ตรวจหนังสือเดินทางนั่งทำงานอยู่เพียง 3 คน ยิ่งกว่านั้น ผมนำกระเป๋าสัมภาระเดินผ่านด่านศุลกากรได้โดยไม่มีการตรวจตรา   ในความสะดวกเกินคาดนั้น ผมสังเกตเห็นความแตกต่าง 2 ด้านระหว่างครั้งนี้และครั้งที่แล้วๆ มา ซึ่งล่าสุดผมมาเมืองไทยเมื่อปีที่แล้วและกลับสหรัฐในเดือน มิ.ย. นั่นคือการใช้กล้องมองหน้าผู้เดินทางในระหว่างตรวจหนังสือเดินทาง   เจ้าหน้าที่ให้ผมมองกล้องโดยไม่ต้องเปิดหนังสือเดินทางให้ดูแล้วถามผมความว่า “ไสวใช่ไหม?” หลังผมตอบว่าใช่ เขาถามต่อว่า “เอาใบเขียวมาด้วยใช่ไหม?” ผมตอบว่าใช่ พร้อมกับจะแสดงให้เขาดู   เขาบอกผมว่า “คุณไปได้” ผมสังเกตว่า คนข้างหน้าผม นานๆ จึงจะถูกเขาถามมากกว่านั้น หรือให้แสดงเอกสารเดินทาง แต่ละคนน่าจะใช้เวลาเฉลี่ยราว…

สนามบินชางงีสิงคโปร์ ใช้ระบบ Biometrix ตรวจสอบผู้โดยสารขาออก ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางแล้ว!

Loading

  สนามบินชางงีสิงคโปร์ ใช้ระบบ Biometrix ตรวจสอบผู้โดยสารขาออก โดยไม่ต้องสแกนหนังสือเดินทาง โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์ สามารถเดินทางเข้าออกสนามบินชางงีผ่าน ตม. โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทางเลย เพียงแค่สแกนใบหน้า+ม่านตา เท่านั้น ซึ่งจะเริ่มใช้ภายในปี 2022 นี้และใช้เต็มรูปแบบในปี 2023 รัฐมนตรีอาวุโส Teo Chee Hean กล่าวเมื่อวันอังคาร (17 พ.ค.) ว่า: “เรากำลังดำเนินการริเริ่มที่ผู้โดยสารขาออกที่ชางงีต้องการเพียงแสดงข้อมูลไบโอเมตริก เพื่อตรวจสอบจุดสัมผัสต่างๆ ในการออกเดินทาง โดยไม่ต้องแสดงเอกสารการเดินทางใดๆ” สิ่งนี้จะไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่ยังนำไปสู่มาตรการป้องกันใหม่ที่จำเป็นสำหรับการบินอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีหลังเกิดโรคระบาด หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจสิงคโปร์ (ICA) ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ในอนาคตชาวสิงคโปร์ที่เดินทางออกจากหรือมาถึงที่ชางงีจะสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้โดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทาง แต่ข้อมูลประจำตัวของผู้โดยสารจะได้รับการยืนยันโดยใช้ม่านตาและใบหน้าเมื่อเดินผ่านประตู ICA ยังกล่าวอีกว่านักเดินทางต่างชาติที่ลงทะเบียนไบโอเมตริกใบหน้าและม่านตาในการเยือนสิงคโปร์ครั้งแรก จะสามารถผ่าน ตม. โดยอัตโนมัติในการเดินทางครั้งต่อไป โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงานในการทำให้การตรวจผ่านอัตโนมัติเป็นมาตรฐานสำหรับผู้เดินทางทุกคนตั้งแต่ปี 2023 ในขณะเดียวกัน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ จะต้องได้รับการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้โดยสาร อ้างอิง และ Cover THE STRAITS TIMES    …

สหรัฐออกหนังสือเดินทางเล่มแรก ใช้เครื่องหมาย “กากบาท” ไม่ระบุเพศ

Loading

  สหรัฐออกหนังสือเดินทางเล่มแรก – วันที่ 28 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า สหรัฐอเมริกาออกหนังสือเดินทางไม่ระบุเพศเป็นเล่มแรกของประเทศ โดยใช้เครื่องหมายกากบาท (X) ในช่องระบุเพศ ซึ่งแสดงว่า ผู้ถือหนังสือเดินทางไม่ได้ระบุว่าเป็นเพศชายหรือหญิง   หนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวออกแก่ ดานา ซิม Dana Zzyym อายุ 66 ปี ทหารผ่านศึกกองทัพเรือสหรัฐ และระบุว่าตัวเองเป็นนอน-ไบนารี (non-binary) ซึ่งหมายถึงผู้ไม่เห็นว่าเพศของตัวเองจำกัดอยู่กับเฉพาะกับเพศชายและเพศหญิง   ดานา ซิม เคยยื่นฟ้องกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เมื่อปี 2558 เพื่อคัดค้านการถูกปฏิเสธการออกหนังสือเดินทาง หลังเจ้าตัวไม่ได้ระบุเพศชายหรือเพศหญิงในเอกสารขอทำหนังสือเดินทาง ดานา ซิม กล่าวหลังได้รับหนังสือเดินทางเล่มใหม่ว่า เป็นช่วงเวลาน่าตื่นเต้น ตนจะไปทุกที่และพูดว่า “ใช่ นี่คือตัวตนของฉัน” และว่า ก่อนได้รับหนังสือเดินทางเล่มใหม่ เป็นความรู้สึกมเหมือนอยู่ในคุก   “คุณถูกปฏิเสธสถานะการเป็นมนุษย์ และมันเหมือนกับว่าฉันไม่ใช่พลเมืองของประเทศนี้ เพราะฉันถูกปฏิเสธการเข้าถึง และไม่อนุญาตให้เฉพาะคนร้ายและนักโทษเดินทาง” ดานา ซิม กล่าว   ทั้งนี้…